Posts

Showing posts from March, 2020

สรุปใจความสำคัญบทเทศน์มิสซาเช้าของโป๊ปฟรานซิส

Image
Copyright: Vatican Media ใจความสำคัญบทเทศน์มิสซาวันเสาร์ที่ 28 มี.ค. 2020 พระวรสารเป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนเถียงกันว่าพระเยซูเป็นพระเมสซียาห์หรือไม่ พอเถียงเสร็จ พวกเขาก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ถึงตอนนี้ ความคิดของพวกเขาแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือคนที่เชื่อและติดตามพระเยซู กลุ่มที่สองคือไม่เชื่อ พวกนี้หัวหน้าสมณะและฟาริสี จากนั้น พระสันตะปาปาทรงยกเหตุการณ์ที่กำลังเกิดในอิตาลีมาสอนว่า ตอนนี้ มีคนพูดเกี่ยวกับบรรดาบาดหลวงและซิสเตอร์ควรเก็บตัว ไม่ควรออกไปทำงานอภิบาลและโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์ เพราะเดี๋ยวติดโควิด ความคิดแบบนี้กำลังทำให้เรากลายเป็น 2 กลุ่ม และกลุ่มนี้คือกลุ่มที่มือไม่ควรเปรอะเปรื้อนเลย มันเป็นความคิดแบบพวกหัวหน้าสมณะและฟาริสีในพระวรสาร พวกเขาหลงลืมความทรงจำที่ว่าเขาก็เป็นหนึ่งในประชากรของพระเจ้าไปแล้ว ใจความสำคัญบทเทศน์มิสซาวันอาทิตย์ที่ 29 มี.ค. 2020 ช่วงเริ่มพิธี พระสันตะปาปาทรงกล่าเริ่มต้นพระวรสาร ด้วยการเชิญทุกคนคิดถึงคนที่กำลังร่ำไห้จากผลกระทบของโควิด-19 อาทิ ผู้สูงอายุที่อยู่เพียงลำพัง คนที่ถูกกักกันตัวเอง รวมถึงครอบครัวต่างๆ ที่ไม่ได้รับเงินเดือนจากวิกฤติเศรษฐ

โป๊ปฟรานซิส "วิกฤติโควิด-19 เป็นเวลาให้เราแยกแยะสิ่งจำเป็นออกจากสิ่งไม่จำเป็นในชีวิต"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงย้ำ วิกฤติโควิด-19 ไม่ใช่การพิพากษาลงโทษของพระเจ้า แต่เป็นเวลาให้เราแยกแยะสิ่งจำเป็นในชีวิตออกจากสิ่งไม่จำเป็น  ทรงสอน ในวิกฤติโควิด เราลงเรือลำเดียวกัน ดังนั้นต้องช่วยเหลือกันในเวลาพายุรุนแรง  ทรงชี้ หนึ่งในคำพูดที่ทำร้ายจิตใจสมาชิกในครอบครัวมากที่สุดคือ "ไม่ห่วงกันเลยใช่ไหม" คำนี้ บรรดาศิษย์ก็พูดกับพระเยซูตอนเรือกำลังจะจม  พระสันตะปาปาประทานพร Urbi et Orbi/ Copyright: Vatican Media เย็นวันศุกร์ที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเป็นประธานในการนำภาวนาและประทานพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi) เพื่อวอนขอพระเจ้าโปรดหยุดยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 จากลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พิธีนี้จัดขึ้นท่ามกลางสายฝนและความว่างเปล่าในลานมหาวิหาร พิธีนี้เริ่มด้วยการอ่านพระวรสาร เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงสั่งให้ลมพายุสงบ จากนั้น พระสันตะปาปาทรงกล่าวสอน ด้วยการเริ่มต้นว่าโรคโควิด-19 ทำให้ทุกคนต้องตระหนักว่าเรากำลังลงเรือลำเดียวกัน ใจความสำคัญของสิ่งที่พระสันตะปาปาตรัส มีว่า "ความมืดมิดอย่างใหญ่หลวงได้มาปกคลุมเหนือจัตุร

โป๊ปฟรานซิส "เมื่อถูกนินทาหรือพูดลับหลัง วิธีตอบโต้คือนิ่งเงียบและปล่อยให้เขาพูดต่อไป"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสอน เวลาเราโดนนินทาหรือพูดใส่ร้ายลับหลัง วิธีตอบโต้ที่ดีสุดคือ "นิ่งเงียบและปล่อยให้เขาพูดต่อไป" เฉกเช่นพระเยซูที่ทรงปล่อยให้คนนินทาพระองค์  ทรงแนะ อีกหนึ่งวิธีที่จะตอบโต้การนินทาคือการพูดจากัน แต่ถ้าพูดแล้ว ไม่มีอะไรดีขึ้น ก็จงนิ่งเงียบแบบพระเยซู  ทรงแบ่งปัน ตอนนี้ เห็นสัญญาณที่ดีจากสังคม เมื่อคนเริ่มห่วงใยกันเมื่อเจอความทุกข์ยากจากโรคระบาด พระสันตะปาปาถวายมิสซาเช้าวันที่ 27 มี.ค./ Copyright: Vatican Media ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวว่า ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ พระองค์ได้เห็นคนในสังคมเริ่มเป็นห่วงกัน เริ่มเป็นห่วงคนยากจน คนชรา และผู้ป่วยในโรงพยาบาล และเต็มใจจะช่วยเหลือบุคลาการทางการแพทย์ พระสันตะปาปามองว่า "นี่เป็นสัญญาณที่ดี พวกเราขอบคุณพระเจ้าที่ทรงทำให้เกิดความรู้สึกนี้อยู่ในหัวใจ" พระวรสารประจำมิสซานี้ ชาวเยรูซาเล็มนินทาพระเยซู จากนั้น พระองค์ทรงตรัสเสียงดังในพระวิหารว่า "ท่านทั้งหลายรู้จัก

นำไม้กางเขนจากวัดซาน มาร์เชลโล่ ไปที่วาติกัน เพื่อเตรียมพิธีเฝ้าศีลและอวยพรแด่โรมและโลก

Image
เจ้าหน้าที่วาติกันได้ทำการเคลื่อนย้ายไม้กางเขนที่ชาวโรมเชื่อกันว่า ช่วยปกป้องกรุงโรมจากโรคระบาดร้ายแรงในศตวรรษที่ 16 ออกจากวัดซาน มาร์เชลโล่ อัล คอร์โซ่ ไปยังมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน เพื่อที่จะใช้ในที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส จะนำภาวนาและเฝ้าศีลมหาสนิท ก่อนจะปิดท้ายด้วยการประทานพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi) ในวันพรุ่งนี้ ศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2020 Photo: Francesco Grana via Twitter Photo: Francesco Grana via Twitter Photo: Francesco Grana via Twitter Photo: Francesco Grana via Twitter Photo: Vatican Media ย้อนกลับไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พระสันตะปาปาฟรานซิส ได้เดินประมาณ 20 นาที มาภาวนาหน้าไม้กางเขนแห่งนี้ หลังจากที่พระองค์ได้ไปภาวนาหน้ารูปแม่พระผู้ปกป้องชาวโรม (Salus Populi Romani) ภายในมหาวิหาร ซานตา มารีอา มาจจอเร่ เพื่อช่วยโลกให้รอดพ้นจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเร็ววัน ครั้งสุดท้ายที่ไม้กางเขนนี้ ถูกเคลื่อนย้ายออกจากวัดซาน มาร์เชลโล่ ก็คือใน ค.ศ.2000 หรือ 20 ปีที่แล้ว สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ทรงสั่งให้นำไม้กางเขนนี้ไปที่มหาวิห

พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในซานตามาร์ธา ที่โป๊ปฟรานซิสพักอาศัย

Image
หมายเหตุ: เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 26 มีนาคม 2020 (10.00 น.ของกรุงโรม) ฟรานเชสโก้ กราน่า รายงานว่า ผลตรวจโควิด-19 ของทุกคนในซานตามาร์ธา รวมทั้งพระสันตะปาปา ออกมาเป็นลบ (ไม่ติดโควิด-19)  ทั้งนี้ นี่คือการตรวจรอบที่ 2 ของพระสันตะปาปาแล้ว ฟรังก้า จานโซลดาติ, เจราร์ด โอคอนเนลล์, ฟรานเชสโก้ กราน่า และ ฟิลิป ปูลเยลล่า สี่นักข่าวสายวาติกันชื่อดัง พร้อมใจรายงานข่าวตรงกันว่า มงซินญอร์จานลูก้า เปซโซลี่ หัวหน้าแผนกภาษาอิตาเลี่ยนของสำนักเลขาธิการนครรัฐวาติกัน ตรวจพบเชื้อโควิด-19 โดย มงซินญอร์เปซโซลี่ พักประจำที่หอพักซานตา มาร์ธา ที่พักเดียวกับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ตอนนี้ มงซินญอร์เปซโซลี่ วัย 58 ปี ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเจเมลลี่ในกรุงโรม ขณะที่ห้องพักและห้องทำงานซึ่งมงซินญอร์เปซโซลี่พัก ได้รับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ มีคำสั่งให้ปิดชั้นที่มงซินญอร์คนนี้พักแล้ว ต่อความกังวลว่าพระสันตะปาปาจะได้รับเชื้อโควิด-19 หรือไม่ เจราร์ด โอคอนเนลล์ นักข่าวสายวาติกันที่มีความสนิทสนมกับพระสันตะปาปาตั้งสมัยพระองค์เป็นคาร์ดินัล รายงานว่า แหล่งข่าวในวาติกันที่ไม่ประสงค์ออกนาม ได้ให้

โป๊ปฟรานซิส "การปลดคนงานเพื่อให้บริษัทรอดจากวิกฤติ ไม่ใช่ทางออกของปัญหา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประทานการสัมภาษณ์แก่ ฆอร์ดี้ เอโบเล่ นักข่าวจากสเปน ผ่าน "สไกป์" (Skype) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ใจความสำคัญของบทสัมภาษณ์ดังกล่าว อาทิ โป๊ปฟรานซิสให้สัมภาษณ์ ฆอร์ดี้ เอโบเล่ ผ่านทางสไกป์ พระสันตะปาปา สอนว่า  ในวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้ การปลดคนงานเพื่อให้ตัวเองรอด ไม่ใช่ทางออกของปัญหา สิ่งที่ต้องทำ ควรให้พนักงานรู้สึกว่าบริษัทแห่งนี้เป็นสังคมของความเป็นหนึ่งเดียวกันต่างหาก พระสันตะปาปา ยอมรับ ไม่มีความรู้เรื่องการบริหารธุรกิจและไม่รู้ว่าบริษัทเหล่านั้นขาดทุนแค่ไหน แต่พระองค์รู้ถึงความทุกข์ของเจ้าของกิจการและนายจ้างที่กำลังจะปลดพนักงาน กระนั้น ก่อนลงมือทำอะไร ขอให้พิจารณาสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ทรงเผย สิ่งที่อยากบอกกับคนที่สูญเสียคนรักจากโรคโควิด-19 ก็คืออยากทำให้เขารู้ว่าพระสันตะปาปาอยู่เคียงข้างพวกเขา เพราะตอนนี้การกระทำสำคัญกว่าการพูดลอยๆ ทรงยกย่องหมอและพยาบาลที่ทำงานสู้โควิด เป็น "นักบุญข้างบ้าน" (The saints next door) พร้อมกันนี้ ทรงขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานในซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะพวกเขาช่วยทำให้สังคมเ

โป๊ปฟรานซิสนำภาวนา "ข้าแต่พระบิดา" ขอพระเจ้าเมตตามนุษยชาติจากโควิด-19

Image
โ ป๊ปนำสวดข้าแต่พระบิดาตอนเที่ยงตรง/ Copyright: Vatican Media เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา (12.00 น. ของกรุงโรม) -ของวันพุธที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงนำสวดบทข้าแต่พระบิดา เพื่อวอนขอพระเจ้าช่วยโลกให้ปลอดภัยจากการระบาดของโรคโควิด-19 ก่อนสวดข้าแต่พระบิดา พระสันตะปาปาตรัสว่า “ในฐานะลูกๆ ที่มีความวางใจ เรามาอยู่ต่อหน้าพระเจ้า เราทำแบบนี้ทุกวัน วันละหลายครั้ง แต่ตอนนี้ เราต้องการวอนขอพระเมตตาเพื่อมนุษยชาติที่เจอบททดสอบอย่างหนักหน่วงจากการระบาดของไวรัสโคโรน่า "พวกเราทำการนี้ร่วมกัน คริสตชนทุกนิกาย ทุกกลุ่ม ทุกวัย ทุกชาติทุกภาษา "พวกเราภาวนาเพื่อผู้ป่วยและครอบครัวของเขา เพื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและคนที่ช่วยเหลือพวกเขา ภาวนาเพื่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย และอาสาสมัครด้วย "วันนี้ พวกเราสมโภชการแจ้งข่าวแด่พระนางมารีอาเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์ เมื่อทูตสวรรค์แจ้งแม่พระว่าท่านจะให้กำเนิดพระบุตรของพระเจ้า อาศัยความวางใจอย่างเปี่ยมล้น พวกเราก็เช่นกัน ขอมอบตนไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า พร้อมด้วยหัวใจและจิตวิญญาณที่เป็นหนึ่งเ

โป๊ปฟรานซิส "อย่าเป็นคนเกียจคร้าน บ่นเรื่องคนอื่น แต่ไม่ลงมือทำสิ่งใดๆ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสอน อย่าเป็นคนเกียจคร้าน บ่นเรื่องคนอื่น แต่ไม่ลงมือทำสิ่งใดๆ เหมือนชายที่นอนป่วยริมสระน้ำมา 38 ปี  ทรงย้ำ อย่าทำตัวเหมือนชายคนนี้ที่พระเจ้ารักษาให้หายจากความพิการ แต่ไม่คิดแม้แต่จะขอบคุณพระเยซู ทั้งที่เจอพระองค์ถึง 2 ครั้ง  พร้อมกันนี้ ทรงเชิญภาวนาเพื่อคุณหมอและพยาบาลที่มอบชีวิตตนเอง เพื่อดูแลผู้ป่วยโควิด-19  พระสันตะปาปาถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา/ Photo: Vatican Media ช่วงเช้าวันอังคารที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าภายในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเชิญภาวนาเพื่อบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ได้มอบชีวิตของตนในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 บางคนถึงขั้นเสียชีวิตเพราะติดเชื้อต่อจากผู้ป่วย พระสันตะปาปาทรงขอบคุณพระเจ้าที่ประทานแบบอย่างที่ดีให้เราได้เห็นผ่านทางคุณหมอและพยาบาลที่ดูแลคนไข้เหล่านี้ พระวรสารประจำมิสซานี้ พระเยซูทรงรักษาชายพิการคนหนึ่งข้างสระน้ำ ชายคนนี้นอนป่วยเฉยๆ มา 38 ปี โดยไม่คิดจะช่วยพยุงตัวเองลงไปในสระน้ำ เขาเอาแต่โทษคนอื่น ไม่มีใครช่วยจุ่มเขาลงไปในสระน้ำ พระ

โป๊ปฟรานซิสภาวนาเพื่อผู้ประสบปัญหาการเงินซึ่งเกิดจากโควิด-19

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงภาวนาเพื่อทุกคนที่ประสบปัญหาการเงินซึ่งเกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19  ทรงสอน เราต้องสวดภาวนาด้วยความเชื่อ ความเพียรพยายาม และความกล้าหาญ  สวดด้วยความเชื่อจากใจ ไม่ใช่เพียงลมปาก  สวดด้วยความเพียรพยายาม บางครั้งพระเจ้าไม่ได้ให้ตามคำขอในทันที แต่ให้เราอดทนรอ หน้าที่เราคือพยายามขอไปเรื่อยๆ อย่าท้อ ที่สุดแล้ว พระเจ้าจะประทานให้  สวดด้วยความกล้า เหมือนอับราฮัมหรือโมเสสที่กล้าพูดตรงๆ กับพระเจ้าเมื่อพระองค์จะลงโทษประชาชน  Photo: Vatican Media ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าภายในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเชิญภาวนาเพื่อครอบครัวต่างๆ ที่ประสบปัญหาการเงินจากวิกฤติการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พระสันตะปาปาตรัสว่า "วันนี้ขอให้เราภาวนาเพื่อทุกคนที่เริ่มประสบปัญหาการเงินอันเนื่องมาจากการระบาด(ของโรคติดเชื้อโควิด-19) เพราะมันทำให้พวกเขาไม่สามารถทำงานได้ สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวของพวกเขา ดังนั้น เราภาวนาเพื่อทุกคนที่เผชิญปัญหาเหล่านี้" สำหรับพระวรสารประจำมิสซา

โป๊ปฟรานซิสประกาศเรื่องการอวยพรแด่โรมและโลกเป็นกรณีพิเศษ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงประกาศเรื่องการอวยพรแด่โรมและโลกเป็นกรณีพิเศษในตอนเย็นวันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2020  พร้อมกันนี้ ทรงเชิญชวนคริสตชนทุกคนร่วมสวดบทข้าแต่พระบิดาโดยพร้อมเพรียงกันตอนเที่ยงตรงของแต่ละประเทศ ในวันที่ 25 มีนาคม เพื่อวิงวอนขอพระเจ้าโปรดหยุดยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 Photo: Vatican Media ในการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงแจ้งข่าวสำคัญว่า ตอนเที่ยงวันพุธที่ 25 มีนาคม พระองค์ขอเชิญผู้นำของคริสตชนทุกนิกาย และคริสตชนทั่วโลก มาร่วมกันภาวนาด้วยบท "ข้าแต่พระบิดา" เพื่อวิงวอนขอพระเจ้าโปรดหยุดยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งสร้างความเสียหายไปทั่วโลก นอกจากนี้ วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พระองค์จะนำภาวนาและเฝ้าศีลมหาสนิทจากลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน จากนั้น จะทรงประทานพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi) พระสันตะปาปาตรัสว่า "ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ มนุษยชาติกำลังหวาดกลัวต่อภัยคุกคามจากการระบาดของไวรัส พ่อขอเสนอให้คริสตชนทุกคนมาร่วมประสานเสียงไปยังสวรรค์ พ่อขอเชิญผู้นำศาสนจักรและผู้นำกลุ่มคริส

โป๊ปฟรานซิส "ถ้าพระเจ้าเดินผ่านเราไป เราต้องสังเกตให้ได้ว่าเป็นพระองค์"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงย้ำ ถ้าพระเจ้าเดินผ่านเราไป เราต้องสังเกตให้ได้ว่าเป็นพระองค์ อย่าเป็นแบบพวกฟาริสีที่เห็นพระเยซู แต่ยังแย้งว่าพระองค์ไม่ใช่พระเจ้า  ทรงสอน อย่าทำตัวเหมือนฟาริสีที่รู้ธรรมบัญญัติทุกข้อ แต่จิตใจถูกผูกติดไว้กับความเคร่งครัดธรรมเนียมปฏิบัติ จนไม่สังเกตว่าพระองค์อยู่ท่ามกลางพวกเขา  พร้อมกันนี้ ทรงเชิญภาวนาเพื่อผู้ที่กำลังจะสิ้นใจที่ไม่มีโอกาสจะกล่าวคำอำลากับคนที่ตนรัก  Photo: Vatican Media ช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าภายในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเชิญภาวนาเพื่อผู้ที่กำลังจะสิ้นใจ หลายคนต้องตายอย่างโดดเดี่ยว พวกเขาไม่มีโอกาสจะกล่าวคำอำลากับคนที่ตนรัก พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงพระดำเนินผ่านไป แล้วเห็นคนตาบอดตั้งแต่เกิดคนหนึ่ง จากนั้น พระองค์ทรงถ่มพระเขฬะ (น้ำลาย) ลงบนพื้นผสมกับดิน ป้ายตาเขาและเขาก็หายจากตาบอดแต่กำเนิด แต่แล้วคนที่ตาเคยบอดคนนี้ถูกส่งไปให้ฟาริสีสอบสวน พร้อมถูกขับไล่ออกจากศาลาธรรม พระเยซูทรงพบเขาอีกครั้งและถามว่า "ท่านเชื่อในบุตรแห่งมนุษย์หรือไม่

โป๊ปฟรานซิส "ในวิกฤติโควิด-19 อย่าหาความแตกต่างของผู้ที่เชื่อและไม่เชื่อในพระเจ้า"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงย้ำ ในวิกฤติโรคติดเชื้อโควิด-19 เราอย่าหาความแตกต่างของผู้ที่เชื่อและไม่เชื่อในพระเจ้า แต่เราควรมองกลับไปที่ต้นกำเนิดของความเป็นมนุษย์ นั่นคือ ต่อหน้าพระเจ้า เราทุกคนเป็นลูกของพระองค์เหมือนกัน  ทรงสอน วิกฤติเช่นนี้เกิดได้กับทุกคน อย่าคิดว่าเกิดกับคนอื่น แล้วจะไม่เกิดกับเรา  ทรงหวังเห็นทุกคนจดจำวิกฤติโควิด-19 เป็นบทสอนว่า เราเคยผ่านความทุกข์ยากมาด้วยกัน วิกฤตินี้ทำให้เราได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้น และสร้างความรักแบบพี่น้องมากขึ้นด้วย  Photo: Vatican Media เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงประทานการสัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์แก่ โดเมนิโก อากัสโซ่ นักข่าวสายวาติกันจากหนังสือพิมพ์ "ลา สตัมป้า" ของอิตาลี เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ใจความสำคัญของบทสัมภาษณ์มีดังต่อไปนี้ คำถามแรก อากัสโซ่ถามพระสันตะปาปาว่าพระองค์มีคำแนะนำอย่างไรต่อการสมโภชปาสกาแบบไม่มีคริสตชนมาร่วมพิธี แต่ต้องร่วมพิธีผ่านออนไลน์ คริสตชนจะดำเนินชีวิตช่วงปาสกาอย่างไรเมื่อการระบาดยังรุนแรงไม่หยุด พระสันตะปาปาตรัสว่า "ต้องสำน

โป๊ปฟรานซิส "เราต้องภาวนาด้วยความถ่อมตน ไม่ใช่ภาวนาด้วยการอวดว่าตนเป็นคนดีเพียงใด"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสอน เราต้องภาวนาด้วยความถ่อมตน ไม่ใช่ภาวนาด้วยการอวดตัวว่าตนเป็นคนดีเพียงใด เพราะการภาวนาด้วยการถ่อมตนคือทัศนคติที่ถูกต้องที่จะให้พระเจ้ามองมาที่เรา  ทรงย้ำ เวลาพูดว่า "เราเป็นคนบาป" จงพูดจากใจจริง ไม่ใช่พูดด้วยปากเพื่อให้ตัวเองดูดี ทรงเชิญภาวนาเพื่อ ครอบครัวที่ต้องเผชิญคำสั่งห้ามออกจากบ้านจากภาครัฐในสถานการณ์โรคระบาดร้ายแรงด้วย Photo: Vatican Media ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าภายในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเชิญภาวนาเพื่อครอบครัวที่ต้องเผชิญคำสั่งห้ามออกจากบ้านจากภาครัฐ พระองค์ทรงหวังว่าพวกเขาจะพูดคุยกันด้วยความรัก ช่วยเหลือกันเพื่อเอาชนะความวิตกกังวล และค้นพบวิธีการสร้างสรรค์ที่จะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน พระวรสารมิสซานี้ พระเยซูทรงเล่าอุปมาเรื่องวิธีภาวนาต่อพระเจ้าของฟาริสีกับคนเก็บภาษี คนหนึ่งอวดตัวเย่อหยิ่ง อีกคนสำนึกในบาปผิดและถ่อมตัวแบบสุดๆ พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า "ฟาริสีไปภาวนา แต่แทนที่เขาจะบอกพระเจ้าว่าเขาทำความดีอะไรมาบ้าง เขากลับ

วาติกันออกคำสั่งเรื่องพิธีกรรมสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ในสถานการณ์โควิด-19

Image
** หมายเหตุ - คำสั่งนี้ออกมาเพื่อแนะแนวทางให้กับศาสนจักรคาทอลิกในประเทศที่รัฐบาลสั่งปิดประเทศ งดรวมตัว หรือสำหรับศาสนปกครองที่สั่ง "งดพิธีทางศาสนา" ไปถึงสิ้นเดือนเมษายน อาทิ สเปน, อังกฤษ, สกอตแลนด์, ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น (สำหรับประเทศไทย ให้รอประกาศจากทางการอีกครั้ง)  สมณกระทรวงเพื่อพิธีกรรมและศีลศักดิ์สิทธิ์ ได้ออกคำสั่ง "แนวทางปฏิบัติ" ให้บรรดาบิช็อปและบาดหลวงคาทอลิกเกี่ยวกับพิธีสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรัฐบาลหลายประเทศสั่งห้ามไม่ให้มีการรวมตัวของประชาชน รวมทั้งงดจัดพิธีทางศาสนาเพื่อลดการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เอกสารนี้ลงนามโดย คาร์ดินัลโรเบิร์ต ซาร่าห์ ประธานสมณกระทรวงเพื่อพิธีกรรมและศีลศักดิ์สิทธิ์ เนื้อหาภายในเป็น "การให้คำแนะนำ" แก่ศาสนจักคาทอลิกในประเทศที่กำลังประสบปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 อาทิ รัฐบาลสั่งปิดประเทศหรืองดพิธีทางศาสนา รายละเอียดมีดังต่อไปนี้ 1) วันสมโภชปาสกา (อีสเตอร์) เลื่อนไม่ได้ เพราะนี่คือหัวใจสำคัญของปีพิธีกรรม ตรีวารปาสกา หรือ Easter Triduum ใช้เวลา 3 วัน (เริ่มค่ำวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ ไปจนถึ

โป๊ปฟรานซิส: ถ้าช่วงนี้ไปแก้บาปไม่ได้ ก็พูดตรงๆ กับพระไปเลยว่าเราทำผิดอะไรมาบ้าง

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสอน มหาพรตคือช่วงเวลาดีที่สุดที่จะไปแก้บาป  แต่ถ้าช่วงนี้ออกจากบ้านเพื่อไปแก้บาปที่วัดไม่ได้เพราะโควิด-19 ก็ขอให้พูดตรงๆ กับพระเจ้าไปเลยว่า เราทำผิดอะไรมาบ้าง  สำคัญสุดคือต้องด้วยการสำนึกผิดจากใจ และขอพระองค์อภัยบาปให้ด้วย เพียงแค่นี้ พระเจ้าก็พอใจกับสิ่งที่เราทำแล้ว Photo: Vatican Media ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าภายในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการเชิญทุกคนภาวนาเพื่อคุณหมอที่กำลังทำงานหนัก เพื่อดูแลคนป่วยที่ทนทุกข์จากโรคติดเชื้อโควิด-19 เฉพาะอย่างยิ่งในเมืองแบร์กาโม่ ประเทศอิตาลี เมืองที่มีผู้เสียชีวิตมากสุดของประเทศ พร้อมกันนี้ พระองค์ยังเชิญภาวนาเพื่อเจ้าหน้าที่ราชการที่ทำงานอย่างหนักเพื่อบริหารจัดการวิกฤตินี้ บทอ่านมิสซานี้จากหนังสือประกาศกโฮเซยา พระเจ้าตรัสกับชาวอิสราเอลให้กลับมาเฝ้าพระองค์ด้วย พระเจ้าจะไม่โกรธพวกเขาอีกต่อไป ขอเพียงพวกเขาตระหนักถึงบาปที่ทำและขอให้พระองค์ยกโทษบาป พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า "พระเจ้าทรงต้อนรับคนบาปที่สำนึกผิ

โป๊ปฟรานซิส: ถ้าศาสนจักรไม่เข้าสู่ธรรมล้ำลึกของพระเจ้า เราจะเป็นเหมือนสมาคมเคร่งครัดทางศาสนาเท่านั้น

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงยกย่องนักบุญโยเซฟเป็นผู้ชอบธรรม ซึ่งถูกเลือกให้มาอบรมสั่งสอนองค์พระเจ้า ทั้งที่ความเป็นจริง เป็นพระเจ้าต่างหากที่ต้องสั่งสอนมนุษย์  ทรงสอน ถ้าศาสนจักรไม่เข้าสู่ธรรมล้ำลึกของพระเจ้า เราจะเป็นแค่ศาสนจักรแบบครึ่งๆ กลางๆ เป็นเหมือนสมาคมที่เคร่งครัดทางศาสนาที่ดำเนินงานอยู่ภายใต้กฎและข้อบังคับเท่านั้น Photo: Vatican Media ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าภายในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา โอกาสวันสมโภชนักบุญโยเซฟ ภัสดาของแม่พระ มิสซานี้ พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการเชิญภาวนาเพื่อผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ พวกเขาต้องทนทุกข์อย่างมาก เพราะความไม่แน่นอนของสิ่งที่เกิดขึ้นในเรือนจำจากสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ สำหรับบทเทศน์ พระสันตะปาปาทรงยกพื้นที่ส่วนนี้ทั้งหมดให้กับเรื่องราวของนักบุญโยเซฟโดยเฉพาะ พระสันตะปาปาตรัสว่า "โยเซฟเป็นผู้ชอบธรรม เขาเป็นผู้ชอบธรรมไม่ใช่แค่เชื่อในพระเจ้า แต่เพราะเขาดำเนินชีวิตอยู่ในความเชื่อ กระแสเรียกของโยเซฟนับว่าน่าตราตรึงใจมาก โยเซฟถูกเลือกให้มาอบรมส

โป๊ปฟรานซิส: ขอพระเจ้าโปรดหยุดยั้งการระบาดของไวรัสด้วยเถิด

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเผย คำภาวนาที่พระองค์สวดขอพระเจ้าตอนไปภาวนาหน้ารูปแม่พระผู้ปกป้องชาวโรมและไม้กางเขนที่วัดซาน มาร์เชลโล่ ก็คือ "พระเจ้าข้า โปรดหยุดยั้งการระบาดของโรคด้วยเถิด"  ทรงสอน อย่าปล่อยให้เวลาช่วงนี้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่จงใช้มันด้วยการแสดงออกถึงความเอาใจใส่ต่อคนในครอบครัว  ทรงเตือนสติ เวลาทานอาหารกับครอบครัว อย่าทำตัวเป็นนักพรตที่ปลีกวิเวกด้วยการนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ เพราะช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้ควรพูดคุยกันให้มากๆ โป๊ปภาวนาหน้าไม้กางเขนที่ วัดซาน มาร์เชลโล่ อัล คอร์โซ่/ Photo: Vatican Media สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงประทานการสัมภาษณ์พิเศษแก่ เปาโล โรดารี่ นักข่าวสายวาติกันจากหนังสือพิมพ์ลา เรปุบบลิก้า เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่พระองค์ทรงไปภาวนาหน้ารูปแม่พระผู้ปกป้องชาวโรม (Salus Populi Romani) ภายในมหาวิหาร ซานตา มารีอา มาจจอเร่ เพื่อช่วยโลกให้รอดพ้นจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อจากนั้น ทรงเดินอีก 20 นาทีไปยังวัดซาน มาร์เชลโล่ อัล คอร์โซ่ เพื่อภาวนาหน้าไม้กางเขนที่ชาวโรมเชื่อกันว่า ช่วยปกป้องกรุงโรมจากโรคระบาดร้ายแรงในศตวรรษที่ 16 การออก

สรุปบทเทศน์มิสซาเช้าและการสอนคำสอนจากการเข้าเฝ้าทั่วไป ประจำวันที่ 18 มี.ค. 2020

Image
โป๊ปฟรานซิส ทรงแบ่งปันในมิสซาเช้า ช่วงวิกฤติที่ไวรัสระบาด เราอาจใกล้ชิดผู้อื่นทางกายภาพไม่ได้ แต่เราใกล้ชิดกันได้ผ่านทางคำภาวนา ส่วนการสอนคำสอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป โป๊ปชี้ว่า ความเมตตาเป็น "เหตุ" และ "ผล" ที่ทำให้เกิดความสุข ถ้าเราเมตตาคนอื่น เราก็จะได้รับความเมตตาตอบแทน สองสิ่งนี้แยกจากกันไม่ได้ Photo: Vatican Media ใจความสำคัญบทเทศน์มิสซาเช้าโดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประจำวันที่ 18 มีนาคม 2020 ช่วงเช้าวันพุธที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าภายในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการเชิญภาวนาเพื่อผู้เสียชีวิตจากไวรัส(โคโรน่า) พร้อมกันนี้ พระองค์ทรงเชิญภาวนาเพื่อผู้ให้บริการสาธารณสุขที่ได้มอบชีวิตตนเองในการทำงานรับใช้ผู้ป่วยด้วย ส่วนใจความสำคัญของบทเทศน์ พระสันตะปาปาตรัสว่า "ในช่วงวิกฤติที่เกิดจากการระบาดของไวรัสซึ่งเรากำลังประสบนี้ ... บางที เราไม่สามารถอยู่ใกล้ผู้อื่นทางกายภาพ เพราะกลัวการติดต่อผ่านทางการสัมผัส แต่เราสามารถกระตุ้นตัวเองให้คิดถึงความใกล้ชิดกับผู้อื่นผ่านทางคำภาวน