โป๊ปฟรานซิสประกาศเรื่องการอวยพรแด่โรมและโลกเป็นกรณีพิเศษ

  • สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงประกาศเรื่องการอวยพรแด่โรมและโลกเป็นกรณีพิเศษในตอนเย็นวันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2020 
  • พร้อมกันนี้ ทรงเชิญชวนคริสตชนทุกคนร่วมสวดบทข้าแต่พระบิดาโดยพร้อมเพรียงกันตอนเที่ยงตรงของแต่ละประเทศ ในวันที่ 25 มีนาคม เพื่อวิงวอนขอพระเจ้าโปรดหยุดยั้งการระบาดของโรคโควิด-19

Photo: Vatican Media


ในการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงแจ้งข่าวสำคัญว่า ตอนเที่ยงวันพุธที่ 25 มีนาคม พระองค์ขอเชิญผู้นำของคริสตชนทุกนิกาย และคริสตชนทั่วโลก มาร่วมกันภาวนาด้วยบท "ข้าแต่พระบิดา" เพื่อวิงวอนขอพระเจ้าโปรดหยุดยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งสร้างความเสียหายไปทั่วโลก นอกจากนี้ วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พระองค์จะนำภาวนาและเฝ้าศีลมหาสนิทจากลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน จากนั้น จะทรงประทานพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi)

พระสันตะปาปาตรัสว่า "ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ มนุษยชาติกำลังหวาดกลัวต่อภัยคุกคามจากการระบาดของไวรัส พ่อขอเสนอให้คริสตชนทุกคนมาร่วมประสานเสียงไปยังสวรรค์ พ่อขอเชิญผู้นำศาสนจักรและผู้นำกลุ่มคริสตชน พร้อมด้วยบรรดาคริสตชนจากหลากหลายนิกาย มาวิงวอนขอพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ เชิญมาร่วมกันสวดบทข้าแต่พระบิดาตอนเวลาเที่ยงตรง (12.00 น.) ของวันที่ 25 มีนาคม วันดังกล่าวบรรดาคริสตชนระลึกถึงการแจ้งข่าวแด่พระนางมารีอาเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์ ดังนั้น พระเจ้าอาจจะรับฟังเสียงภาวนาโดยพร้อมเพรียงกันของบรรดาศิษย์ที่กำลังเตรียมตัวเฉลิมฉลองพระสิริรุ่งโรจน์ของพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพจากความตาย"

พร้อมกันนี้ พระสันตะปาปายังประกาศด้วยว่า วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม เวลา 18.00 น. เวลากรุงโรม (เที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 27 เข้าเสาร์ 28 มีนาคม ตามเวลาไทย) พระองค์จะนำภาวนาจากลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน จากนั้น จะทรงประทานพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi) พร้อมอวยพรศีลมหาสนิทด้วย

"ลานหน้ามหาวิหารอาจจะว่างเปล่า แต่พ่อขอเชิญผู้คนจากทั่วโลกร่วมจิตใจผ่านทางการภาวนานี้ ในพิธีนี้ เราจะมีบทอ่านจากพระคัมภีร์ เฝ้าศีลมหาสนิท และอวยพรศีลมหาสนิท ตอนท้าย พ่อจะประทานพรแด่โรมและโลก โดยผู้ที่ร่วมพิธีนี้ผ่านทางการสื่อสารช่องทางต่างๆ จะได้รับพระคุณการุณย์ด้วย"

ทั้งนี้ การประทานพรแด่โรมและโลกจะทำปีละ 2 ครั้งคือวันปาสกาและวันคริสต์มาส แต่ครั้งนี้ นับเป็นครั้งพิเศษจริงๆ ที่พระสันตะปาปาทรงทำเช่นนี้

Comments