Posts

โป๊ปฟรานซิสแชร์มุมมองเรื่อง “บูลลี่” และยอมรับตอนเด็กเคยบูลลี่เพื่อน

Image
ผมนั่งดูคลิป สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสนทนาผ่านวิดีโอคอลล์กับนักเรียนจากอินเดียและเนปาล บทสนทนามีหลายประเด็นน่าสนใจ แต่ประเด็นน่าอยากมาแชร์ทุกท่านคือ โป๊ปฟรานซิสตำหนิการที่เรานำเรื่องรูปร่างของคนอื่นมา “บูลลี่”​(ล้อเลียน) และพระองค์ก็ยอมรับด้วยว่า ตอนเด็กๆ เคยทำแบบนี้ ซึ่งมันไม่ถูกต้องเลย ในบทสนทนาดังกล่าว นักศึกษาหญิงคนหนึ่งเล่าให้พระสันตะปาปาฟังว่า ตอนเด็กๆเธออายและเจ็บปวดมากที่ถูกเพื่อนๆแกล้งและล้อเลียนเรื่องน้ำหนักตัว ส่วนยุคสมัยนี้ก็มีโลกโซเชี่ยลที่มาถล่มซ้ำเติมอีก เธอจึงถามพระสันตะปาปาว่า มีคำแนะนำและความคิดเห็นเช่นไร เพื่อปกป้องคนที่โดนบูลลี่ พระสันตะปาปาตอบว่า ไม่ว่าเราจะเป็นคนอ้วน ผอม สูง หรือเตี้ย แต่สิ่งสำคัญสุดคือการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวกัน พึงระลึกเสมอว่า ทุกคนมีความงดงามในตัวเอง และเราต้องเรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าความงามในตัวของแต่ละคนอย่างแท้จริง จากนั้น ก็มาถึงเรื่องประสบการณ์ส่วนตัวที่พระสันตะปาปาแชร์ให้ทุกคนฟังว่า “ตอนเด็กๆ พ่อจำได้ว่ามีเพื่อนคนหนึ่งที่ตัวอ้วนนิดๆ พ่อและเพื่อนๆไปล้อเลียนเขา แกล้งเขา พ่อเคยผลักเขาจนหกล้มด้วย เมื่อพ่อกลับมาถึงบ้าน คุณพ่อของพ่

โป๊ปฟรานซิสแบ่งปัน “อย่าลืมคนจน เพราะเขาจะเป็นคนเปิดประตูสวรรค์ให้เรา”

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงแบ่งปันชีวิตของ “นักบุญดานีเอเล่ กอมโบนี่” บิช็อปชาวอิตาเลี่ยนที่ทำงานธรรมทูตในทวีปแอฟริกา พร้อมให้ข้อคิด อย่าลืมคนจน เพราะพวกเขาจะเป็นคนที่เปิดประตูสวรรค์ให้เรา ช่วงสายวันพุธที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงออกเทศน์สอนคำสอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน   คำสอนวันนี้อยู่ในหัวข้อความกระตือรือร้นในการประกาศข่าวดี โดยบุคคลตัวอย่างที่พระสันตะปาปานำมาแบ่งปันคือ “นักบุญดานีเอเล่ กอมโบนี่” บิช็อปชาวอิตาเลี่ยนที่ทำงานธรรมทูตในทวีปแอฟริกา นักบุญกอมโบนี่เคยกล่าวถึง น่าสะพรึงกลัวของการเป็นทาส นี่คือการทำให้มนุษย์กลายเป็นวัตถุสิ่งของและลดคุณค่าในตัวเรา แต่การเป็นทาสที่น่ากลัวกว่านั้นคือการเป็นทาสของบาป อย่างไรก็ดี ในฐานะที่เราเป็นคริสตชน เราถูกเรียกมาให้ต่อสู้กับการเป็นทาสทุกรูปแบบ ยุคนี้มันไม่ได้เป็นทาสจากการล่าอาณานิคม แต่การแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองได้นำไปสู่การล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการกดขี่ในระดับเดียวกัน นี่เป็นโศกนาฏกรรมจากประเทศที่เศรษฐกิจพัฒนาแล้วมักจะทำเมินเฉยไม่สนใจ ช่วงแรกที่ไปทำงานแพร่ธรรมในแอฟริกา ค

โป๊ปฟรานซิสย้ำ “การให้อภัยคืออ็อกซิเจนฟอกอากาศแห่งความเกลียดชัง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงแบ่งปันพระวรสารวันอาทิตย์ ตอนที่พระเยซูสอนเรื่องการให้อภัย ผมนั่งฟังอยู่ จึงสรุปประเด็นสำคัญมาแบ่งปันดังนี้ 1) เปโตรถามพระเยซูว่าต้องให้อภัยพี่น้องที่ทำผิดกี่ครั้ง 7 ครั้งพอไหม จริงๆแล้วเปโตรใจกว้างมากที่ให้อภัยถึง 7 ครั้ง แต่พระเยซูไปไกลกว่านั้น เพราะพระองค์บอกว่าต้องให้อภัย 77 ครั้ง พระเยซูสอนว่า เวลาให้อภัย อย่าคิดคำนวณ แต่จงให้อภัยทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนที่พระเจ้าให้อภัยเรา เช่นเดียวกัน คนที่ดูแลจัดการความยุติธรรมของพระเจ้าก็ต้องทำเช่นนี้ด้วย พ่อพูดเรื่องนี้บ่อยๆกับสงฆ์ที่โปรดศีลอภัยบาป เราต้องให้อภัยแบบที่พระเจ้าให้อภัยเรา  2) พระเยซูยังเล่าอุปมาเรื่องผู้รับใช้ที่ได้รับการยกหนี้ให้จากกษัตริย์ เพราะกษัตริย์ทรงสงสาร พระเจ้าทรงสงสารและให้อภัยเสมอ นี่คือวิถีของพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ผู้รับใช้คนนี้ที่ได้รับการยกหนี้จากกษัตริย์ กลับไม่เมตตาต่อเพื่อนที่ติดเงินของตน  3) พระเยซูตรัสอย่างชัดเจนว่า พระเจ้าให้อภัยแบบนับไม่ถ้วน เมื่อเราให้อภัยเพื่อนพี่น้อง เราก็กำลังเลียนแบบพระองค์ ดังนั้น การให้อภัยไม่ใช่สิ่งดีที่เราสามารถเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ เพราะการให้อภัยคือข้อกำห

“โรนัลโด้” เข้ารับศีลล้างบาปเป็นคาทอลิก

Image
วันนี้ ผมอ่านเจอข่าวเล็กๆชิ้นหนึ่งบนหน้าข่าวคาทอลิก นั่นคือ “อิล เฟโนเมโน่” โรนัลโด้ อดีตกองหน้าทีมชาติบราซิล ชุดแชมป์โลก 2002 เข้ารับศีลล้างบาปเป็นคาทอลิกอย่างเป็นทางการ โดยส่วนตัว ผมเป็นคนที่ “บ้าบอล” และตามข่าวโรนัลโด้จริงจังตอนที่เขาย้ายไปอยู่กับอินเตอร์ มิลาน ช่วงนั้นจำได้ดีว่า โรนัลโด้ ไปเข้าเฝ้าพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 และถวายเสื้อทีมอินเตอร์ ปักเบอร์ 9 พร้อมชื่อของตนให้พระสันตะปาปาที่เป็นแฟนบอลด้วย  ตอนนั้น ผมเข้าใจเองว่า โรนัลโด้ เป็นคาทอลิก เพราะเขามีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปา 2-3 ครั้ง แต่จริงๆแล้วผมคิดผิด และภาพโรนัลโด้ในหัวผมก็เปลี่ยนไป เพราะหลังย้ายออกจากอินเตอร์ โรนัลโด้ก็เปลี่ยนไป กลายเป็น “เพลย์บอย” เต็มตัว อย่างไรก็ตาม ข่าวล่าสุดที่ออกมาไม่กี่วันนี้ ทำให้ผมประหลาดใจและก็ดีใจ เอาจริงๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น โรนัลโด้จึงสมัครใจมาเป็นคาทอลิก โรนัลโด้ โพสต์ภาพการรับศีลล้างบาปของตนลงบนอินสตาแกรม  เขากล่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่พิเศษมาก ผมได้เข้ารับศีลล้างบาป! ความเชื่อคริสตชนเป็นส่วนสำคัญของชีวิตผมมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าผมจะยังไม่ได้รับศีลล้างบาปก็ตาม แต่ด้วยศีลศักดิ์สิทธิ์น

โป๊ปฟรานซิส “เวลาเจอปัญหา คริสตชนต้องลงมือแก้ปัญหา ไม่ใช่เอาแต่บ่น”

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสอน เวลาเจอปัญหาสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง คริสตชนต้องรู้จักมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหา เพราะเราถูกเรียกให้ลงมือทำ ไม่ใช่เอาแต่บ่นและวิจารณ์ว่าทุกอย่างผิดเพี้ยนไปหมด ที่สำคัญเวลาเจอปัญหาเหล่านี้ นักบุญเปาโลสอนว่า เราต้องภาวนา อย่าปากพล่อยพูดความเท็จ CNS photo/Lola Gomez ช่วงสายวันพุธที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงออกเทศน์สอนคำสอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน  คำสอนวันนี้อยู่ในหัวข้อความกระตือรือร้นในการประกาศข่าวดี โดยบุคคลตัวอย่างที่พระสันตะปาปานำมาแบ่งปันคือ “บุญราศีโฮเซ่ เกรกอริโอ เอร์นานเดซ ซิสเนรอส” ฆราวาสชาวเวเนซูเอล่าที่อยากบวชเป็นสงฆ์ แต่สุขภาพไม่เอื้ออำนวย สุดท้ายจึงเลือกเส้นทางอาชีพเป็นหมอรักษาคนไข้ อาจารย์ และเป็นนักวิทยาศาสตร์ บุญราศีโฮเซ่ เกรกอริโอ เป็นหมอที่อยู่ใกล้ชิดและดูแลคนยากจน ท่านไม่ได้เลือกความร่ำรวยของเงินทอง แต่เลือกความมั่งคั่งของข่าวดี แม้ความฝันอยากเป็นสงฆ์หรือนักบวชจะถูกขัดขวางด้วยปัญหาสุขภาพของตน แต่มันไม่ได้ทำให้ โฮเซ่ เกรกอริโอ ปิดตัวเองแต่อย่างใด เขาเลือกเส้นทางเป็นหมอเพื่อดูแลผ

โป๊ปฟรานซิส: หนึ่งในการแสดงออกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่คือการช่วยคนทำผิดให้ปรับปรุงตัว

Image
Photo: Vatican Media โป๊ปฟรานซิส ตรัสแบ่งปันก่อนนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา   ใจความสำคัญของสิ่งที่พระองค์ตรัสมีดังต่อไปนี้ 1) พระวรสารวันนี้เป็นหนึ่งในการแสดงออกทางความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็น หนึ่งในความท้าทายมากที่สุด เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเราจะไปแก้ไขคนอื่น ดังนั้น เมื่อพี่น้องความเชื่อเดียวกับเราทำผิด สิ่งที่เราควรช่วยเขาคือช่วยให้เขาปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น 2) แต่น่าเสียดาย บ่อยครั้ง สิ่งแรกที่เกิดขึ้นรอบตัวผู้ทำผิดคือการซุบซิบนินทาที่ทุกคนจะได้รู้ความผิดที่เกิดอย่างละเอียด มีคนเดียวที่ไม่รู้คือคนที่เกี่ยวข้องคนนั้นนั่นแหละ สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง โป๊ปฟรานซิสย้ำว่า พระองค์ไม่เคยเหนื่อยกับการพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า การซุบซิบนินทาคือภัยพิบัติต่อชีวิตของผู้คนและชุมชน เพราะมันนำไปสู่ความแตกแยก ความทุกข์ทรมาน เรื่องอื้อฉาว มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย  3) สิ่งที่พระเยซูตรัสสอนในวันนี้คือเราต้องประพฤติตนให้แตกต่างออกไป นั่นคือ ถ้าพี่น้องคนนั้นทำผิดกับเรา จงไปบอกเขาต่อหน้าว่าเขาทำผิดอะไร การบอกต่อหน้าไม่ใช่การใส่

Update: พิธีศพของพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ ที่ 16

Image
นั่งเช็คข่าวกับบรรดานักข่าวสายวาติกันเรื่องพิธีศพของพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ ที่ 16 ผมได้ข้อมูลมาดังนี้ 1. ประธานในมิสซาปลงศพคือ พระสันตะปาปาฟรานซิส ความพิเศษคือแทบจะไม่มีเลยที่พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน จะทำมิสซาปลงศพพระสันตะปาปาองค์ก่อนหน้า “แบบทันที” โดยที่ตนเป็นพระสันตะปาปา  มิสซาปลงศพพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ตอนนั้น หัวหน้าคณะคาร์ดินัลคือ คาร์ดินัลโยเซฟ รัตซิงเกอร์ เป็นประธาน จริงอยู่ที่ คาร์ดินัลรัตซิงเกอร์ ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ แต่ก็ไม่ได้เป็นการเป็นประธานมิสซาปลงศพโดยที่ตนอยู่ในตำแหน่งพระสันตะปาปา 2. มีการเปิดเผยว่า รูปแบบมิสซาปลงศพของพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ ถูกจัดเตรียมไว้นานมากๆแล้ว โดยคนที่วางรูปแบบคือ “มงซินญอร์กุยโด้ มารินี่” อดีตหัวหน้านายจารีตประจำสันตะสำนัก (ตอนนี้ได้รับแต่งตั้งเป็น “บิช็อปแห่งตอร์โตน่า ประเทศอิตาลี” ไปแล้ว) หัวหน้านายจารีตประจำสันตะสำนักคนปัจจุบัน “มงซินญอร์ดีเอโก้ ราเวลลี่” จะเป็นผู้รับช่วงต่อ จัดพิธีงานศพแทน โดยจะเริ่มตั้งแต่การเชิญศพของพระสันตะปาปากิตติคุณแห่ออกมาไว้ในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน เพื่อให้ประชาชนเข้ามาเคารพศ

ขอบคุณและพบกันใหม่ พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16

Image
ผมไม่ได้ทำข่าว Pope Report มานาน แต่พอเห็น Breaking News จากกลุ่มนักข่าวสายวาติกันเรื่อง “สมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงป่วยหนักขั้นวิกฤติ” แล้วมันอยู่เฉยไม่ได้จริงๆ และนั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไม Pope Report กลับมา active ในช่วงนี้อีกครั้ง ชีวิตการตามทำข่าวพระสันตะปาปาของผมเริ่มต้นในปี 2002 ช่วงบั้นปลายสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ดังนั้น ผมกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า “ความผูกพัน” ที่ผมมีต่อสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 มีเต็มเปี่ยม เพราะนี่คือพระสันตะปาปาที่ผมตามทำข่าวตั้งแต่วันเริ่มต้นสมณสมัยจนถึงวันที่พระองค์สละตำแหน่งพระสันตะปาปา (16 เมษายน 2005 - 28 กุมภาพันธ์ 2013) และมาทำข่าวอีกทีตอนวาระสุดท้ายของชีวิต ความผูกพันต่อพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ของผม เพิ่มขึ้นไปอีก เพราะปี 2008 ผมได้ไปร่วมงานเยาวชนโลกที่ซิดนี่ย์ ออสเตรเลีย และได้ขึ้นแบ่งปันประสบการณ์ความเชื่อต่อหน้าพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ และเยาวชนที่มาร่วมงานนี้กว่า 235,000 คน นอกจากนี้ หลังจากผมพูดแบ่งปันจบ พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ปรบมือให้กับผมด้วย  จากนั้น ปี 2009-2010 ผมไปเรียนต่อที่สวีเดน ผมยังได้เดินทา

โป๊ปฟรานซิสย้ำยังไม่คิดสละตำแหน่งตอนนี้ แต่คงต้องทำอะไรให้ช้าลงบ้าง เพื่อถนอมร่างกาย

Image
ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา โป๊ปฟรานซิสเสด็จกลับถึงวาติกันแล้ว หลังจากเดินทางเยือนแคนาดามาหลายวัน หนึ่งในคำตอบที่โป๊ปฟรานซิสตอบนักข่าวระหว่างการสัมภาษณ์บนเครื่องบินคือ "เรื่องการสละตำแหน่ง" Photo: AP โป๊ปฟรานซิสย้ำอีกครั้งว่า ประตูของการสละตำแหน่งยังเปิดกว้าง แต่ตอนนี้พระองค์ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องสละตำแหน่ง แต่ทั้งนี้ มันไม่ได้หมายความว่าในอนาคต พระองค์จะไม่คิดถึงเรื่องนี้ โป๊ปฟรานซิสยอมรับว่า ทริปเยือนแคนาดา ทำให้พระองค์ต้อง "เปลี่ยนสไตล์" การเดินทางเยือนต่างประเทศ อาทิ ตารางเวลาอาจจะไม่อัดแน่นและจะทำอะไรด้วยความรวดเร็วเหมือนสมัยก่อนคงไม่ได้ เพราะพระองค์ต้องการ "ถนอมสุขภาพและร่างกาย" เพื่อจะได้รับใช้ศาสนจักรได้นานยิ่งขึ้น โป๊ปผู้ทรงพระชนมายุ 85 ชันษา ซึ่งตลอดทริปแคนาดา พระองค์นั่งรถเข็นและใช้ไม้เท้าพยุงเดินตลอด ตรัสอีกว่า ถึงจะเปลี่ยนสไตล์ทำอะไรช้าลงบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่จะไม่เปลี่ยนคือ "เวลาไปไหน ต้องไปใกล้ชิดกับผู้คนที่มาหา เพราะนี่คือวิถีของการรับใช้และอภิบาล" เรื่องการสละตำแหน่งหากอ่านบทความที่ผมเคยเขียนไว้ "โป๊ปฟรานซิสจะสละตำแหน่งจริงหรือ"

โป๊ปฟรานซิสตั้ง "อาร์คบิช็อปพอล ชาง อินนัม" เป็นสมณทูตประจำเนเธอร์แลนด์

Image
วันนี้ (เสาร์ที่ 16 กรกฏาคม) สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงแต่งตั้ง อาร์คบิช็อป พอล ชาง อินนัม สมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมา และเป็นผู้แทนพระสันตะปาปาประจำประเทศลาว ให้รับตำแหน่งใหม่ โดยเป็นสมณทูตประจำประเทศเนเธอร์แลนด์  อาร์คบิช็อป พอล ชาง อินนัม ได้รับแต่งตั้งจาก สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ให้มาดำรงตำแหน่งสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมา เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2012 นับถึงปัจจุบัน ท่านดำรงตำแหน่งดังกล่าว 10 ปี ทั้งนี้ อาร์คบิช็อป พอล ชาง อินนัม เป็นชาวเกาหลีคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งสมณทูตวาติกันอีกด้วย