โป๊ปฟรานซิส: ถ้าช่วงนี้ไปแก้บาปไม่ได้ ก็พูดตรงๆ กับพระไปเลยว่าเราทำผิดอะไรมาบ้าง

  • สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสอน มหาพรตคือช่วงเวลาดีที่สุดที่จะไปแก้บาป 
  • แต่ถ้าช่วงนี้ออกจากบ้านเพื่อไปแก้บาปที่วัดไม่ได้เพราะโควิด-19 ก็ขอให้พูดตรงๆ กับพระเจ้าไปเลยว่า เราทำผิดอะไรมาบ้าง 
  • สำคัญสุดคือต้องด้วยการสำนึกผิดจากใจ และขอพระองค์อภัยบาปให้ด้วย เพียงแค่นี้ พระเจ้าก็พอใจกับสิ่งที่เราทำแล้ว


Photo: Vatican Media


ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าภายในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการเชิญทุกคนภาวนาเพื่อคุณหมอที่กำลังทำงานหนัก เพื่อดูแลคนป่วยที่ทนทุกข์จากโรคติดเชื้อโควิด-19 เฉพาะอย่างยิ่งในเมืองแบร์กาโม่ ประเทศอิตาลี เมืองที่มีผู้เสียชีวิตมากสุดของประเทศ พร้อมกันนี้ พระองค์ยังเชิญภาวนาเพื่อเจ้าหน้าที่ราชการที่ทำงานอย่างหนักเพื่อบริหารจัดการวิกฤตินี้

บทอ่านมิสซานี้จากหนังสือประกาศกโฮเซยา พระเจ้าตรัสกับชาวอิสราเอลให้กลับมาเฝ้าพระองค์ด้วย พระเจ้าจะไม่โกรธพวกเขาอีกต่อไป ขอเพียงพวกเขาตระหนักถึงบาปที่ทำและขอให้พระองค์ยกโทษบาป

พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า "พระเจ้าทรงต้อนรับคนบาปที่สำนึกผิดทุกคนด้วยอ้อมแขนของพระองค์ มันก็เหมือนการกลับบ้านนั่นแหละ จงกลับไปหาพระบิดาที่กำลังรอคอยเราอยู่ พระเจ้าแห่งความอ่อนโยนจะรักษาบาดแผลของชีวิตและสิ่งเลวร้ายที่เราได้ทำ ... มหาพรตคือช่วงเวลาพิเศษที่ให้พระเจ้าทรงชำระล้างเราให้บริสุทธิ์ นี่คือช่วงเวลาให้พระเจ้าทรงสวมกอดเรา และนี่ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะไปสารภาพบาปผิดของเรา

"แน่นอนว่า มีหลายคนจะถามพ่อว่า 'พระสันตะปาปาครับ ผมจะไปพบคุณพ่อได้ที่ไหนล่ะ คุณพ่อที่โปรดศีลอภัยบาปหน่ะครับ เพราะตอนนี้ผมออกจากบ้านไปไหนไม่ได้เลย' ...

"คำตอบของพ่อก็คือ คำสอนของศาสนจักรกล่าวไว้ว่าอะไรล่ะ มันชัดเจนอยู่แล้วนะว่า ถ้าคุณไม่สามารถไปหาคุณพ่อที่จะโปรดศีลอภัยบาป ก็ขอให้คุณพูดตรงๆ กับพระเจ้าไปเลย บอกความจริงกับพระองค์ไป พูดไปเลยว่า 'พระเจ้าข้า ลูกได้ทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ สิ่งโน้น ขอพระองค์โปรดอภัยบาปให้ลูกด้วย' จงขอการอภัยโทษด้วยหัวใจของคุณต่อพระเจ้า จงพูดกับพระเจ้าด้วยการสำนึกผิดจากใจจริง และสัญญากับพระองค์ว่า 'หลังจากนี้(โรคระบาดสิ้นสุดลง) ลูกจะไปแก้บาป แต่ตอนนี้ ขอพระเจ้าโปรดอภัยบาปให้ลูกด้วย' เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้กลับเข้าสู่สถานะที่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าแล้ว" พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย

Comments