Posts

Showing posts with the label สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส

โป๊ปฟรานซิสแชร์มุมมองเรื่อง “บูลลี่” และยอมรับตอนเด็กเคยบูลลี่เพื่อน

Image
ผมนั่งดูคลิป สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสนทนาผ่านวิดีโอคอลล์กับนักเรียนจากอินเดียและเนปาล บทสนทนามีหลายประเด็นน่าสนใจ แต่ประเด็นน่าอยากมาแชร์ทุกท่านคือ โป๊ปฟรานซิสตำหนิการที่เรานำเรื่องรูปร่างของคนอื่นมา “บูลลี่”​(ล้อเลียน) และพระองค์ก็ยอมรับด้วยว่า ตอนเด็กๆ เคยทำแบบนี้ ซึ่งมันไม่ถูกต้องเลย ในบทสนทนาดังกล่าว นักศึกษาหญิงคนหนึ่งเล่าให้พระสันตะปาปาฟังว่า ตอนเด็กๆเธออายและเจ็บปวดมากที่ถูกเพื่อนๆแกล้งและล้อเลียนเรื่องน้ำหนักตัว ส่วนยุคสมัยนี้ก็มีโลกโซเชี่ยลที่มาถล่มซ้ำเติมอีก เธอจึงถามพระสันตะปาปาว่า มีคำแนะนำและความคิดเห็นเช่นไร เพื่อปกป้องคนที่โดนบูลลี่ พระสันตะปาปาตอบว่า ไม่ว่าเราจะเป็นคนอ้วน ผอม สูง หรือเตี้ย แต่สิ่งสำคัญสุดคือการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวกัน พึงระลึกเสมอว่า ทุกคนมีความงดงามในตัวเอง และเราต้องเรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าความงามในตัวของแต่ละคนอย่างแท้จริง จากนั้น ก็มาถึงเรื่องประสบการณ์ส่วนตัวที่พระสันตะปาปาแชร์ให้ทุกคนฟังว่า “ตอนเด็กๆ พ่อจำได้ว่ามีเพื่อนคนหนึ่งที่ตัวอ้วนนิดๆ พ่อและเพื่อนๆไปล้อเลียนเขา แกล้งเขา พ่อเคยผลักเขาจนหกล้มด้วย เมื่อพ่อกลับมาถึงบ้าน คุณพ่อของพ่

โป๊ปฟรานซิสแบ่งปัน “อย่าลืมคนจน เพราะเขาจะเป็นคนเปิดประตูสวรรค์ให้เรา”

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงแบ่งปันชีวิตของ “นักบุญดานีเอเล่ กอมโบนี่” บิช็อปชาวอิตาเลี่ยนที่ทำงานธรรมทูตในทวีปแอฟริกา พร้อมให้ข้อคิด อย่าลืมคนจน เพราะพวกเขาจะเป็นคนที่เปิดประตูสวรรค์ให้เรา ช่วงสายวันพุธที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงออกเทศน์สอนคำสอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน   คำสอนวันนี้อยู่ในหัวข้อความกระตือรือร้นในการประกาศข่าวดี โดยบุคคลตัวอย่างที่พระสันตะปาปานำมาแบ่งปันคือ “นักบุญดานีเอเล่ กอมโบนี่” บิช็อปชาวอิตาเลี่ยนที่ทำงานธรรมทูตในทวีปแอฟริกา นักบุญกอมโบนี่เคยกล่าวถึง น่าสะพรึงกลัวของการเป็นทาส นี่คือการทำให้มนุษย์กลายเป็นวัตถุสิ่งของและลดคุณค่าในตัวเรา แต่การเป็นทาสที่น่ากลัวกว่านั้นคือการเป็นทาสของบาป อย่างไรก็ดี ในฐานะที่เราเป็นคริสตชน เราถูกเรียกมาให้ต่อสู้กับการเป็นทาสทุกรูปแบบ ยุคนี้มันไม่ได้เป็นทาสจากการล่าอาณานิคม แต่การแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองได้นำไปสู่การล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการกดขี่ในระดับเดียวกัน นี่เป็นโศกนาฏกรรมจากประเทศที่เศรษฐกิจพัฒนาแล้วมักจะทำเมินเฉยไม่สนใจ ช่วงแรกที่ไปทำงานแพร่ธรรมในแอฟริกา ค

โป๊ปฟรานซิสย้ำ “การให้อภัยคืออ็อกซิเจนฟอกอากาศแห่งความเกลียดชัง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงแบ่งปันพระวรสารวันอาทิตย์ ตอนที่พระเยซูสอนเรื่องการให้อภัย ผมนั่งฟังอยู่ จึงสรุปประเด็นสำคัญมาแบ่งปันดังนี้ 1) เปโตรถามพระเยซูว่าต้องให้อภัยพี่น้องที่ทำผิดกี่ครั้ง 7 ครั้งพอไหม จริงๆแล้วเปโตรใจกว้างมากที่ให้อภัยถึง 7 ครั้ง แต่พระเยซูไปไกลกว่านั้น เพราะพระองค์บอกว่าต้องให้อภัย 77 ครั้ง พระเยซูสอนว่า เวลาให้อภัย อย่าคิดคำนวณ แต่จงให้อภัยทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนที่พระเจ้าให้อภัยเรา เช่นเดียวกัน คนที่ดูแลจัดการความยุติธรรมของพระเจ้าก็ต้องทำเช่นนี้ด้วย พ่อพูดเรื่องนี้บ่อยๆกับสงฆ์ที่โปรดศีลอภัยบาป เราต้องให้อภัยแบบที่พระเจ้าให้อภัยเรา  2) พระเยซูยังเล่าอุปมาเรื่องผู้รับใช้ที่ได้รับการยกหนี้ให้จากกษัตริย์ เพราะกษัตริย์ทรงสงสาร พระเจ้าทรงสงสารและให้อภัยเสมอ นี่คือวิถีของพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ผู้รับใช้คนนี้ที่ได้รับการยกหนี้จากกษัตริย์ กลับไม่เมตตาต่อเพื่อนที่ติดเงินของตน  3) พระเยซูตรัสอย่างชัดเจนว่า พระเจ้าให้อภัยแบบนับไม่ถ้วน เมื่อเราให้อภัยเพื่อนพี่น้อง เราก็กำลังเลียนแบบพระองค์ ดังนั้น การให้อภัยไม่ใช่สิ่งดีที่เราสามารถเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ เพราะการให้อภัยคือข้อกำห

โป๊ปฟรานซิส “เวลาเจอปัญหา คริสตชนต้องลงมือแก้ปัญหา ไม่ใช่เอาแต่บ่น”

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสอน เวลาเจอปัญหาสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง คริสตชนต้องรู้จักมีส่วนร่วมในการจัดการปัญหา เพราะเราถูกเรียกให้ลงมือทำ ไม่ใช่เอาแต่บ่นและวิจารณ์ว่าทุกอย่างผิดเพี้ยนไปหมด ที่สำคัญเวลาเจอปัญหาเหล่านี้ นักบุญเปาโลสอนว่า เราต้องภาวนา อย่าปากพล่อยพูดความเท็จ CNS photo/Lola Gomez ช่วงสายวันพุธที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงออกเทศน์สอนคำสอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน  คำสอนวันนี้อยู่ในหัวข้อความกระตือรือร้นในการประกาศข่าวดี โดยบุคคลตัวอย่างที่พระสันตะปาปานำมาแบ่งปันคือ “บุญราศีโฮเซ่ เกรกอริโอ เอร์นานเดซ ซิสเนรอส” ฆราวาสชาวเวเนซูเอล่าที่อยากบวชเป็นสงฆ์ แต่สุขภาพไม่เอื้ออำนวย สุดท้ายจึงเลือกเส้นทางอาชีพเป็นหมอรักษาคนไข้ อาจารย์ และเป็นนักวิทยาศาสตร์ บุญราศีโฮเซ่ เกรกอริโอ เป็นหมอที่อยู่ใกล้ชิดและดูแลคนยากจน ท่านไม่ได้เลือกความร่ำรวยของเงินทอง แต่เลือกความมั่งคั่งของข่าวดี แม้ความฝันอยากเป็นสงฆ์หรือนักบวชจะถูกขัดขวางด้วยปัญหาสุขภาพของตน แต่มันไม่ได้ทำให้ โฮเซ่ เกรกอริโอ ปิดตัวเองแต่อย่างใด เขาเลือกเส้นทางเป็นหมอเพื่อดูแลผ

โป๊ปฟรานซิส: หนึ่งในการแสดงออกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่คือการช่วยคนทำผิดให้ปรับปรุงตัว

Image
Photo: Vatican Media โป๊ปฟรานซิส ตรัสแบ่งปันก่อนนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา   ใจความสำคัญของสิ่งที่พระองค์ตรัสมีดังต่อไปนี้ 1) พระวรสารวันนี้เป็นหนึ่งในการแสดงออกทางความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็น หนึ่งในความท้าทายมากที่สุด เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเราจะไปแก้ไขคนอื่น ดังนั้น เมื่อพี่น้องความเชื่อเดียวกับเราทำผิด สิ่งที่เราควรช่วยเขาคือช่วยให้เขาปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น 2) แต่น่าเสียดาย บ่อยครั้ง สิ่งแรกที่เกิดขึ้นรอบตัวผู้ทำผิดคือการซุบซิบนินทาที่ทุกคนจะได้รู้ความผิดที่เกิดอย่างละเอียด มีคนเดียวที่ไม่รู้คือคนที่เกี่ยวข้องคนนั้นนั่นแหละ สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง โป๊ปฟรานซิสย้ำว่า พระองค์ไม่เคยเหนื่อยกับการพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า การซุบซิบนินทาคือภัยพิบัติต่อชีวิตของผู้คนและชุมชน เพราะมันนำไปสู่ความแตกแยก ความทุกข์ทรมาน เรื่องอื้อฉาว มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย  3) สิ่งที่พระเยซูตรัสสอนในวันนี้คือเราต้องประพฤติตนให้แตกต่างออกไป นั่นคือ ถ้าพี่น้องคนนั้นทำผิดกับเรา จงไปบอกเขาต่อหน้าว่าเขาทำผิดอะไร การบอกต่อหน้าไม่ใช่การใส่

โป๊ปฟรานซิสย้ำยังไม่คิดสละตำแหน่งตอนนี้ แต่คงต้องทำอะไรให้ช้าลงบ้าง เพื่อถนอมร่างกาย

Image
ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา โป๊ปฟรานซิสเสด็จกลับถึงวาติกันแล้ว หลังจากเดินทางเยือนแคนาดามาหลายวัน หนึ่งในคำตอบที่โป๊ปฟรานซิสตอบนักข่าวระหว่างการสัมภาษณ์บนเครื่องบินคือ "เรื่องการสละตำแหน่ง" Photo: AP โป๊ปฟรานซิสย้ำอีกครั้งว่า ประตูของการสละตำแหน่งยังเปิดกว้าง แต่ตอนนี้พระองค์ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องสละตำแหน่ง แต่ทั้งนี้ มันไม่ได้หมายความว่าในอนาคต พระองค์จะไม่คิดถึงเรื่องนี้ โป๊ปฟรานซิสยอมรับว่า ทริปเยือนแคนาดา ทำให้พระองค์ต้อง "เปลี่ยนสไตล์" การเดินทางเยือนต่างประเทศ อาทิ ตารางเวลาอาจจะไม่อัดแน่นและจะทำอะไรด้วยความรวดเร็วเหมือนสมัยก่อนคงไม่ได้ เพราะพระองค์ต้องการ "ถนอมสุขภาพและร่างกาย" เพื่อจะได้รับใช้ศาสนจักรได้นานยิ่งขึ้น โป๊ปผู้ทรงพระชนมายุ 85 ชันษา ซึ่งตลอดทริปแคนาดา พระองค์นั่งรถเข็นและใช้ไม้เท้าพยุงเดินตลอด ตรัสอีกว่า ถึงจะเปลี่ยนสไตล์ทำอะไรช้าลงบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่จะไม่เปลี่ยนคือ "เวลาไปไหน ต้องไปใกล้ชิดกับผู้คนที่มาหา เพราะนี่คือวิถีของการรับใช้และอภิบาล" เรื่องการสละตำแหน่งหากอ่านบทความที่ผมเคยเขียนไว้ "โป๊ปฟรานซิสจะสละตำแหน่งจริงหรือ"

โป๊ปฟรานซิสตั้ง "อาร์คบิช็อปพอล ชาง อินนัม" เป็นสมณทูตประจำเนเธอร์แลนด์

Image
วันนี้ (เสาร์ที่ 16 กรกฏาคม) สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงแต่งตั้ง อาร์คบิช็อป พอล ชาง อินนัม สมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมา และเป็นผู้แทนพระสันตะปาปาประจำประเทศลาว ให้รับตำแหน่งใหม่ โดยเป็นสมณทูตประจำประเทศเนเธอร์แลนด์  อาร์คบิช็อป พอล ชาง อินนัม ได้รับแต่งตั้งจาก สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ให้มาดำรงตำแหน่งสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมา เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2012 นับถึงปัจจุบัน ท่านดำรงตำแหน่งดังกล่าว 10 ปี ทั้งนี้ อาร์คบิช็อป พอล ชาง อินนัม เป็นชาวเกาหลีคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งสมณทูตวาติกันอีกด้วย

สิ้น “คาร์ดินัลอูมมิช” คนที่บอกคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ตอนได้รับเลือกตั้งเป็นโป๊ปว่า "อย่าลืมคนยากจน"

Image
คาร์ดินัลเคลาดิโอ อูมมิช (คนขวา) ในวันที่ 13 มีนาคม 2013 ซึ่งโป๊ปฟรานซิสปรากฏพระองค์ครั้งแรก คาร์ดินัลเคลาดิโอ อูมมิช ( Cláudio Hummes) อาร์คบิช็อปกิตติคุณแห่งเซาเปาโล ประเทศบราซิล เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อวันที่ 4 กรกฏาคม 2022 ด้วยวัย 87 ปี โดยคาร์ดินัลอูมมิชป่วยด้วยมะเร็งปอดมานานหลายปีแล้ว ทั้งนี้ คาร์ดินัลอูมมิช เป็นคนที่นั่งติดกับ “คาร์ดินัลฆอร์เค่ มาริโอ แบร์โกโญ่” ในการเลือกตั้งพระสันตะปาปาเมื่อปี 2013 และตอนที่คาร์ดินัลแบร์โกโญ่ได้รับคะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 จากคาร์ดินัลที่ลงคะแนนเลือกตั้ง ซึ่งหมายถึงการได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่ คาร์ดินัลอูมมิช เป็นคนพูดกับคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ว่า “อย่าลืมคนยากจนนะ” ซึ่งต่อมาคาร์ดินัลแบร์โกโญ่ ยอมรับว่า คำพูดดังกล่าวดังก้องในหัวตลอดจนเป็นที่มาของการเลือกชื่อ “ฟรานซิส (อัสซีซี)” เป็นชื่อพระสันตะปาปา

โป๊ปฟรานซิสจะสละตำแหน่งจริงหรือ??

Image
การที่สุขภาพและร่างกายของโป๊ปฟรานซิสดูถดถอยลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้เกิดข่าวลือเรื่องการสละตำแหน่ง, ลาเกษียณ หรือบางคนจะเรียก “ลาออกจากตำแหน่ง” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ Photo: Reuters ข่าวลือรอบนี้ เป็นข่าวลือ “รอบสอง” ต้นตอจาก เลอ ฟิกาโฮ (Le Figaro) สื่อฝรั่งเศส และ เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ของสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็กระจายไปทั่วโลก อย่างเมืองไทยก็เห็นมีคนนำข่าวจาก เดอะ การ์เดี้ยน สื่ออังกฤษ มาถอดความรายงาน (ข่าวลือการสละตำแหน่งรอบแรกเกิดตอนที่โป๊ปฟรานซิสเข้ารับการผ่าตัดเมื่อปีที่แล้ว) สำหรับตัวผมเอง เวลาเช็คข่าวโป๊ปฟรานซิสแบบต้องการความแม่นยำเชิงลึก โดยเฉพาะข่าวเช่นนี้ ผมจะเช็คกับแหล่งข่าวสายวาติกัน 5 แหล่ง ได้แก่สายข่าวอิตาลี, อาร์เจนตินา (บ้านเกิดโป๊ปฟรานซิส), ฝรั่งเศส, สเปน และอเมริกา ถ้าถามว่าแหล่งข่าวใครลึกและแม่นยำมากๆ แน่นอนต้องเป็นสายอิตาลีและอาร์เจนตินา เนื่องจากพวกนี้ใช้ภาษาที่โป๊ปฟรานซิสและคนรอบตัวโป๊ปสื่อสาร จึงเข้าถึงข้อมูลได้ลึกมาก ถ้าเราใช้ข้อมูลจากแหล่งข่าวภาษาอังกฤษอย่างเดียว ข้อเสียคือการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกสุดๆ จะน้อยกว่าสายอิตาลีและอาร์เจนตินาพอสมควร แล้วข่าวที่ว่า “โป

คนสุดท้ายจะกลับกลายเป็นคนแรก

Image
“คนสุดท้ายจะกลับกลายเป็นคนแรก” ประโยคนี้เหมาะสมกับการแต่งตั้งคาร์ดินัลใหม่ครั้งล่าสุดมาก มันเป็นการประกาศรายชื่อคาร์ดินัลใหม่ที่แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย แต่ผมมีความสุขที่ได้เห็นรายชื่อเหล่านี้จริงๆ Photo: Pope Report  ครั้งที่แล้ว ผมเขียนถึง “ว่าที่คาร์ดินัล” อย่าง บิช็อปจอร์โจ้ มาเร็นโก้ ผู้แทนพระสันตะปาปาประจำอูลานบาตาร์ ประเทศมองโกเลีย ซึ่งกำลังจะกลายเป็นคาร์ดินัลที่ยังมีชีวิตและอายุน้อยสุดในโลกด้วยวัย 48 ปี  ยังมีอีกหลายรายชื่อน่าสนใจที่ผมไม่ได้กล่าวถึง หนึ่งในนั้นคือว่าที่คาร์ดินัลอย่าง  “อาร์คบิช็อปแอนโธนี่ ปูลา” แห่งไฮเดอราบัด ประเทศอินเดีย และ “บิช็อปปีเตอร์ อ็อกปาเลเก้” แห่งเอ็กวูโลเบีย ประเทศไนจีเรีย "ว่าที่คาร์ดินัล" แอนโธนี่ ปูล่า ขอพูดถึงประวัติของ อาร์คบิช็อปแอนโธนี่ ปูลา จากอินเดียก่อนแล้วกัน ท่านเกิดในครอบครัววรรณะ “จัณฑาล” หรือ “ดาลิต” ซึ่งเป็นวรรณะต่ำสุดของชาวฮินดู ในสังคมอินเดียไม่ยอมรับคนจากวรรณะนี้ การที่โป๊ปฟรานซิสแต่งตั้งท่านเป็นคาร์ดินัล หมายความว่า นี่คือคาร์ดินัลคนแรกที่มาจากวรรณะจัณฑาล ตรงกับคำพูดที่ว่า “คนสุดท้ายจะกลับกลายเป็นคนแรก” &qu

โป๊ปฟรานซิสตั้งคาร์ดินัลใหม่ 21 คน, มาจากเอเชีย 6 คน, คาร์ดินัลอายุน้อยสุดคือ 47 ปี

Image
วันนี้ (29 พฤษภาคม) โป๊ปฟรานซิส แจ้งข่าวแก่ทุกคนหลังการสวดราชินีแห่งสวรรค์ว่า พระองค์จะแต่งตั้ง “คาร์ดินัลใหม่ 21 คน” (16 คน อายุต่ำกว่า 80 ปีซึ่งมีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ส่วนอีก 5 คน อายุเกิน 80 ปี ไม่มีสิทธิ์ร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่) บิช็อป จอร์โจ้ มาเร็นโก้ ผู้แทนพระสันตะปาปาประจำมองโกเลีย/ Photo: F amiglia Cristiana หากเจาะลึกลงไปใน 16 คนที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ปรากฏว่า มีถึง 6 คนที่มาจากเอเชีย 6 คนจากเอเชีย ปรากฏว่า มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2 คน ได้แก่สิงคโปร์และติมอร์ เลสเต้ นั่นหมายความว่า ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 11 ประเทศ จะมี 7 ประเทศที่คาร์ดินัลมีสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ได้แก่ อินโดนีเชีย, พม่า, ลาว, ไทย, สิงคโปร์, ติมอร์ เลสเต้ และ ฟิลิปปินส์ ส่วนอีก 4 ประเทศที่ไม่มีคาร์ดินัลก็คือ เวียดนาม, มาเลเซีย, กัมพูชา และ บรูไน (คาร์ดินัลคอร์เนลิอุส ซิม ของบรูไน เพิ่งเสียชีวิตเมื่อปี 2021 ด้วยวัย 69 ปี) อย่างไรก็ตาม ในการประกาศรายชื่อคาร์ดินัลใหม่ครั้งนี้ ผมลองไล่อ่านประวัติรายคนแล้ว พบว่า คนที

การเลือกตั้งพระสันตะปาปาครั้งต่อไป

Image
เผลอแป๊ปเดียว โป๊ปฟรานซิสดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปามา 9 ปี (ได้รับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปาวันที่ 13 มีนาคม 2013) ปัจจุบัน พระองค์อายุ 85 ชันษา ส่วนสุขภาพก็อย่างที่เห็นกัน จริงอยู่ที่โป๊ปฟรานซิสยังดูแข็งแรง แต่อาการเอ็นเข่าฉีกขาดทำให้พระองค์ต้องนั่งรถเข็นและหมอก็สั่งให้ยกเลิกพันธกิจบางอย่าง เพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรงกว่านี้ เรื่องทั้งหมดเหล่านี้ นำไปสู่คำถามที่เริ่มถูกถามมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ “การเลือกตั้งพระสันตะปาปาครั้งหน้า” นั่นเอง  Photo: Vatican Media หากพิจารณาจากความเป็นจริง ต้องยอมรับว่า เราต้องคิดเรื่องพวกนี้ไว้บ้าง เพราะโป๊ปฟรานซิสอายุ 85 ชันษา หากคิดว่าพระองค์จะอยู่ในตำแหน่งอีก 5 ปี ก็จะเป็น 90 ชันษา หาก 10 ปี ก็จะ 95 ชันษา ไม่มีใครรู้ว่า พระองค์จะเลือกวิธีสละตำแหน่งแบบโป๊ปเบเนดิกต์ ที่ 16 หรือจะเลือกดำรงตำแหน่งไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต  สาเหตุที่ “การเลือกตั้งพระสันตะปาปาครั้งต่อไป” ถูกจุดขึ้นมาเป็นประเด็นสนทนา ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเกิดจากภาพที่พระสันตะปาปาต้องนั่งรถเข็น นักข่าวสายวาติกันหลายคน อาทิ ฟรานเชสโก้ กราน่า คนข่าวจาก อิล ฟัตโต โกติดีอาโน่ (Il Fatto Quotidiano) ผู้