โป๊ปฟรานซิส "เมื่อถูกนินทาหรือพูดลับหลัง วิธีตอบโต้คือนิ่งเงียบและปล่อยให้เขาพูดต่อไป"

  • สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสอน เวลาเราโดนนินทาหรือพูดใส่ร้ายลับหลัง วิธีตอบโต้ที่ดีสุดคือ "นิ่งเงียบและปล่อยให้เขาพูดต่อไป" เฉกเช่นพระเยซูที่ทรงปล่อยให้คนนินทาพระองค์ 
  • ทรงแนะ อีกหนึ่งวิธีที่จะตอบโต้การนินทาคือการพูดจากัน แต่ถ้าพูดแล้ว ไม่มีอะไรดีขึ้น ก็จงนิ่งเงียบแบบพระเยซู 
  • ทรงแบ่งปัน ตอนนี้ เห็นสัญญาณที่ดีจากสังคม เมื่อคนเริ่มห่วงใยกันเมื่อเจอความทุกข์ยากจากโรคระบาด



พระสันตะปาปาถวายมิสซาเช้าวันที่ 27 มี.ค./ Copyright: Vatican Media


ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวว่า ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ พระองค์ได้เห็นคนในสังคมเริ่มเป็นห่วงกัน เริ่มเป็นห่วงคนยากจน คนชรา และผู้ป่วยในโรงพยาบาล และเต็มใจจะช่วยเหลือบุคลาการทางการแพทย์ พระสันตะปาปามองว่า "นี่เป็นสัญญาณที่ดี พวกเราขอบคุณพระเจ้าที่ทรงทำให้เกิดความรู้สึกนี้อยู่ในหัวใจ"

พระวรสารประจำมิสซานี้ ชาวเยรูซาเล็มนินทาพระเยซู จากนั้น พระองค์ทรงตรัสเสียงดังในพระวิหารว่า "ท่านทั้งหลายรู้จักเรา และรู้ว่าเรามาจากไหน เราไม่ได้มาตามใจตนเอง พระองค์ผู้ทรงส่งเรามาทรงสัจจะ ท่านไม่รู้จักพระองค์ แต่เรารู้จักพระองค์ เพราะเรามาจากพระองค์ และพระองค์ทรงส่งเรามา" สิ่งนี้ทำให้ชาวยิวพยายามจะจับกุมพระเยซู แต่ไม่มีใครลงมือ

พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันว่า "สิ่งที่อยู่ในใจของคนพวกนี้ไม่ใช่ความเกลียดชังธรรมดา แต่เป็นความเกรี้ยวกราดอย่างไร้ความปราณีที่ได้รับการดลใจจากปีศาจ ... ความตั้งใจที่โหดเหี้ยมซึ่งต้องการจะทำลายคนอื่น มันคือความตั้งใจที่มาจากปีศาจ เรื่องแบบนี้เห็นไม่ได้เห็นแค่ตอนที่ปีศาจจู่โจมพระเยซู แต่ยังรวมถึงการเบียดเบียนคริสตชนด้วย

"แล้วเราจะตอบโต้ความตั้งใจที่โหดเหี้ยมนี้อย่างไร มีสองวิธีที่เหมาะสมจะตอบโต้ นั่นคือ การพูดจากันกับการอยู่เงียบๆ เราควรดูพระเยซูเป็นตัวอย่าง ในพระวรสาร เราเห็นพระเยซูตรัสเสียงดัง แต่เมื่อพระองค์รู้ว่าคำพูดนั้นอาจไม่ทำให้เกิดเรื่องดีขึ้น พระองค์ก็นิ่งเงียบ ในการเผชิญหน้ากับจิตใจแห่งความเกรี้ยวกราด พระเยซูทรงนิ่งเงียบ พ่อเน้นนะ พระองค์นิ่งเงียบ และในการนิ่งเงียบไม่ตอบโต้นี้เอง พระองค์ก็ทรงรับพระทรมาน

"การนิ่งเงียบคือการโต้ตอบที่เหมาะสมต่อพฤติกรรมเกรี้ยวกราดเล็กๆน้อยๆ ที่เราเจอในชีวิตประจำวัน เช่น การนินทา การพูดลับหลังคนอื่น สิ่งเหล่านี้คือการคุกคามทางสังคม มันไม่ใช่การเบียดเบียนข่มเหงแบบรุนแรง แต่อย่างไรก็ดี มันคือความเกรี้ยวกราดชนิดหนึ่ง เพราะมันทำร้ายผู้อื่น

"ดังนั้น ขอพระเจ้าประทานพระหรรษทานให้เราต่อสู้กับจิตชั่ว ขอให้เราพูดคุยเมื่อเราต้องพูด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับจิตใจที่เกรี้ยวกราด ขอให้เรากล้าที่จะนิ่งเงียบ และปล่อยให้คนอื่นพูดไป" พระสันตะปาปาตรัสปิดท้าย

Comments