โป๊ปฟรานซิส: ขอพระเจ้าโปรดหยุดยั้งการระบาดของไวรัสด้วยเถิด
- สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเผย คำภาวนาที่พระองค์สวดขอพระเจ้าตอนไปภาวนาหน้ารูปแม่พระผู้ปกป้องชาวโรมและไม้กางเขนที่วัดซาน มาร์เชลโล่ ก็คือ "พระเจ้าข้า โปรดหยุดยั้งการระบาดของโรคด้วยเถิด"
- ทรงสอน อย่าปล่อยให้เวลาช่วงนี้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่จงใช้มันด้วยการแสดงออกถึงความเอาใจใส่ต่อคนในครอบครัว
- ทรงเตือนสติ เวลาทานอาหารกับครอบครัว อย่าทำตัวเป็นนักพรตที่ปลีกวิเวกด้วยการนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ เพราะช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้ควรพูดคุยกันให้มากๆ
โป๊ปภาวนาหน้าไม้กางเขนที่วัดซาน มาร์เชลโล่ อัล คอร์โซ่/ Photo: Vatican Media |
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงประทานการสัมภาษณ์พิเศษแก่ เปาโล โรดารี่ นักข่าวสายวาติกันจากหนังสือพิมพ์ลา เรปุบบลิก้า เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่พระองค์ทรงไปภาวนาหน้ารูปแม่พระผู้ปกป้องชาวโรม (Salus Populi Romani) ภายในมหาวิหาร ซานตา มารีอา มาจจอเร่ เพื่อช่วยโลกให้รอดพ้นจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อจากนั้น ทรงเดินอีก 20 นาทีไปยังวัดซาน มาร์เชลโล่ อัล คอร์โซ่ เพื่อภาวนาหน้าไม้กางเขนที่ชาวโรมเชื่อกันว่า ช่วยปกป้องกรุงโรมจากโรคระบาดร้ายแรงในศตวรรษที่ 16 การออกจากวาติกันเพื่อไปภาวนาครั้งนี้ สร้างความประทับใจให้ชาวคาทอลิกเป็นอย่างมาก
เมื่อถูกถามคำถามแรกว่า พระองค์ทรงภาวนาขอสิ่งใดในวัดคาทอลิกทั้งสองแห่ง พระสันตะปาปาตรัสตอบว่า "พ่อขอพระเจ้าโปรดหยุดยั้งการระบาดของโรค โปรดหยุดมันด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ นี่คือสิ่งที่พ่อภาวนา"
คำถามต่อมาคือ "เราทุกคนจะดำเนินชีวิตอย่างไรในช่วงนี้ แบบไม่ให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์" พระสันตะปาปาตอบว่า "เราต้องแสวงหาคุณสมบัติที่จับต้องได้จากการแสดงออกเล็กๆ น้อยๆ การเอาใจใส่ที่เราสามารถมอบให้กับคนใกล้ตัว ครอบครัว และเพื่อนๆ ... การแสดงออกถึงความอ่อนโยน ความรักความเอาใจใส่ ความเห็นอกเห็นใจ ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและมีแนวโน้มจะสาบสูญไปจากชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ของเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างแท้จริง เช่น การเตรียมอาหารร้อนๆ การเอาใจใส่ การสวมกอด และการโทรศัพท์คุยกัน ... สิ่งเหล่านี้คือการแสดงออกแบบสนิทสนมถึงการเอาใจใส่ต่อรายละเอียดต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมันทำให้ชีวิตมีความหมายและยังสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันและทำให้เกิดการสื่อสารระหว่างเราด้วย"
พระสันตะปาปายังทรงให้มุมมองว่า ช่วงเวลายากลำบากในตอนนี้ ครอบครัวต่างๆ ควรใช้เวลานี้พูดคุยกันให้มากขึ้น อาทิ ตอนทานอาหาร ไม่ใช่ต่างคนต่างเล่นมือถือของตนเอง
"มิตรภาพที่จับต้องได้สร้างจากความเอาใจใส่และความอดทน หลายครั้งในครอบครัวต่างๆ นั่งทานอาหารร่วมกันด้วยความเงียบงัน มันไม่ใช่ความเงียบที่เกิดจากการฟังกันและกัน แต่เป็นเพราะพ่อแม่นั่งดูทีวีตอนทานอาหาร ส่วนลูกๆ ก็เล่นโทรศัพท์มือถือ พวกเขาดูเหมือนนักพรตเลย! พวกเขาทั้งหมดปลีกตัวออกจากกัน แบบนี้มันไม่ใช่การสื่อสาร
"ขณะที่การฟังกันและกันถือว่าสำคัญมาก เพราะนี่คือการบอกว่าเราจะเข้าใจความจำเป็น ความพยายาม และความปรารถนาของผู้อื่นได้อย่างไร ภาษาเหล่านี้สร้างขึ้นจากการแสดงออกที่จับต้องได้ มันต้องได้รับการปกป้อง ในความคิดของพ่อ ความเจ็บปวดจากเหตุการณ์ช่วงนี้ควรเปิดทางให้เราแสวงหาคุณสมบัติที่จับต้องได้เหล่านี้อีกครั้ง"
ตอนท้าย โรดารี่ ทูลถามพระสันตะปาปาว่า สำหรับคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า ไม่มีความเชื่อในศาสนา เขาคนนั้นจะยังมีความหวังในการดำเนินชีวิตในช่วงเวลายากลำบากแบบนี้ได้อย่างไร
พระสันตะปาปาชาวอาร์เจนไตน์ ตรัสตอบว่า "พวกเขาทั้งหมดก็เป็นลูกของพระเจ้าและพระองค์ยังมองดูพวกเขา แม้แต่คนที่ไม่เคยพบกับพระเจ้าและไม่เคยมีพระพรแห่งความเชื่อ ก็สามารถพบหนทางของเขาได้โดยอาศัยสิ่งนี้ อาศัยสิ่งดีงามที่พวกเขาเชื่อ พวกเขาจะสามารถค้นหาพละกำลังจากความรักเพื่อครอบครัวของเขา คนๆ หนึ่งสามารถพูดว่า 'ผมไม่สามารถภาวนาได้ เพราะผมไม่เชื่อ' แต่ในเวลาเดียวกัน เขาสามารถเชื่อในความรักของคนที่อยู่รอบตัวเขา และนั่นแหละ เขาจะพบความหวังอีกครั้ง"
Comments
Post a Comment