Posts

โป๊ปฟรังซิส: "พ่อแม่ควรนำลูกๆไปรับศีลกำลังด้วย ไม่ใช่ให้รับศีลล้างบาปอย่างเดียว"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงขอร้องพ่อแม่ผู้ปกครอง จงนำลูกๆไปรับศีลกำลังด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้รับศีลล้างบาปอย่างเดียว แล้วก็ปล่อยเขาไปแบบไม่สนใจอะไร ทรงย้ำศีลกำลังจะทำให้เราผูกพันอย่างสมบูรณ์กับพระศาสนจักร ช่วงสายวันพุธที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 50,000 คน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พี่น้องที่รัก วันนี้พ่อยังคงแบ่งปันเรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ด โดยวันนี้พ่อขอเน้นที่เรื่อง "ศีลกำลัง" - นี่คือศีลที่ยืนยันเราว่าอยู่ในพระหรรษทานแห่งศีลล้างบาปที่เราได้รับ ศีลกำลังรวมเราให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับพระคริสตเจ้า ศีลกำลังช่วยให้เราได้ผูกพันอย่างสมบูรณ์กับพระศาสนจักร และช่วยเราให้มีพละกำลังพิเศษจากพระจิต เพื่อให้เรามีแรงประกาศพระวรสารและปกป้องความเชื่อของพระเจ้า - ผลงานของพระจิตในชีวิตของเราได้ถูกสะท้อนออกมาในพระคุณ 7 ประการของพระจิต นั่นคือ 1) ปรีชาญาณ, 2) สติปัญญา, 3) ความคิดอ่าน, 4) พละกำลัง, 5) ความรู้, 6) ความศรัทธา และ 7) ความยำเกรงพระ

โป๊ปฟรังซิส: "จงสวดภานาสรรเสริญพระเจ้าบ้างนะ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเปรียบ เวลาดูบอล ทีมโปรดยิงเข้าเราโห่ร้องดีใจ แต่ทำไมพระเจ้าทำให้เราพบสิ่งดีๆ เรากลับไม่โห่ร้องสรรเสริญพระองค์ ทรงย้ำ การสวดขอพระเจ้าและสวดขอบคุณพระเจ้า เป็นเรื่องเข้าใจง่ายมาก แต่การสวดสรรเสริญพระเจ้า เรากลับทำกันไม่เป็นซะงั้น ช่วงเช้าวันอังคารที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พี่น้องที่รัก วันนี้พ่อยังขอแบ่งปันแบบต่อเนื่องจากหนังสือซามูเอล ในบทอ่านวันนี้ เราได้เห็นว่า "กษัตริย์เดวิดได้เต้นรำสุดความสามารถต่อหน้าพระเจ้า" และเราได้เห็นว่าประชากรอิสราเอลฉลองกันสุดๆ เพราะพวกหีบของพระเจ้าได้กลับมาสู่ชาวอิสราเอล นอกจากนี้ กษัตริย์เดวิดได้ภาวนาขอบคุณพระเจ้า โห่ร้องด้วยความยินดี และเป่าแตรสรรเสริญพระเจ้า - พระคัมภีร์ตอนนี้ชวนให้พ่อคิดถึงเหตุการณ์ที่นางซาร่าห์ ภรรยาของอับราฮัม ซึ่งให้กำเนิดบุตรชายอิสอัคตอนที่ตนอายุมากแล้ว เธอก็ลุกขึ้นเต้นรำสรรเสริญพระเจ้าเพราะพระองค์นำความชื่นชมยินดีมาให้กับเธอ - มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะทำความเข้าใจกั

โป๊ปฟรังซิส: "สังฆราชหรือสงฆ์ทำผิดคนเดียว ส่งเสียงดังกว่าการที่มีพระสงฆ์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเปรียบ สังฆราชหรือสงฆ์ทำผิดคนเดียว ส่งเสียงดังกว่าการที่มีพระสงฆ์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทรงย้ำ พระองค์ตามข่าวพระสังฆราชและพระสงฆ์ที่เป็นข่าวในหนังสือพิมพ์เสมอๆ และหนังสือพิมพ์ไม่รายงานข่าวพระสงฆ์ทำดีหรอก แต่จ้องรายงานข่าวเชิงลบเป็นหลัก ดังนั้น เราต้องสวดภาวนาให้พระสังฆราชและพระสงฆ์ให้สมกับเป็น "ผู้ได้รับการเจิม" และเลือกจากพระเจ้า ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในบทอ่านจากหนังสือซามูเอล (2 ซมอ 5:1-7,10) เราได้เห็นการกล่าวถึงการเจิมเดวิดขึ้นเป็นกษัตริย์ การเจิมเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าไม่มีการเจิม เดวิดจะเป็นกษัตริย์แค่ศีรษะ เขาจะเป็นกษัตริย์ของอาณาจักรอิสราเอล เขาจะเป็นแค่ผู้นำทางการเมือง แต่เมื่อเขาได้รับการเจิม พระจิตของพระเจ้าจะเจ้าเสด็จมาเหนือเดวิดและสถิตย์อยู่กับเขา พระคัมภีร์ก็ระบุชัดเจนว่า เดวิดจะมีอำนาจยิ่งขึ้นและพระเจ้าจะอยู่กับเขา นี่แหละคือความแตกต่างของการได้รับการเจิมขึ้นเป็นกษัตริย์และเป็นบุคคลที่ได

ได้เวลาออกไปตามท้องถนนตามที่โป๊ปฟรังซิสสอน

Image
หลายคนถามว่า ทำไม Pope Report ลุยทำข่าวพระสันตะปาปาในหลายช่องทาง ทั้ง Facebook, Twitter และ Instagram  คำตอบคือได้แรงกระตุ้นจาก สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ที่สอนว่า "จงเป็นชาวสะมาเรียผู้ใจดีบนโลกดิจิตอล" และ "จงออกไปประกาศพระวรสารตามท้องถนน" การประกาศพระวรสารตามท้องถนนในบทบาทของผมคือประกาศบนถนนสาย "โซเชี่ยล มีเดีย" นี่แหละ ถนนมีหลายสายทั้ง FB, Twitter and IG ดังนั้น ผมจะเดินให้ครบทุกสาย (ประกอบกับทำงานวงการดิจิตอลอยู่แล้ว ผมคิดว่า ผมได้นำความรู้ความสามารถที่ทำงานอยู่มาใช้ในการวาง "ยุทธศาสตร์" ให้กับ Pope Report ด้วย) การบาดเจ็บจากการประกาศพระวรสารบนถนนโซเชี่ยล มีเดีย หมายถึงอาจเพิ่มงานมากขึ้น (กลางวันทำงานออฟฟิศ กลางคืนทำงานข่าวพระสันตะปาปา) และอาจถูกคอมเมนต์จากพวกที่มีอคติ แต่พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงอยากให้เป็นเช่นนั้น ดังนั้น ถนนสายโซเชี่ยล มีเดีย ที่ Pope Report เดินคือ FB: www.facebook.com/popereport Twitter: @PopeReport IG: @PopeReport ใครมีช่องทางไหน ก็สามารถติดตามได้จากช่องทางนั้นครับ

โป๊ปฟรังซิส: "ยุคนั้นพระเยซูตามหาศิษย์ที่ทะเลสาบกาลิลี ยุคนี้พระองค์ตามหาศิษย์ตามท้องถนน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ สมัยก่อนพระเยซูออกตามหาศิษย์กลุ่มแรกที่ทะเลสาบกาลิลี ส่วนสมัยนี้ พระองค์เดินตามหาศิษย์ติดตามพระองค์ตามท้องถนน ดังนั้น จงอย่าลังเลที่จะตอบรับและติดตามพระองค์ พร้อมกันนี้ ทรงขอร้องมาเฟียที่ฆ่า "ด.ช.โคโค่" วัย 3 ขวบที่ให้สำนึกผิดและกลับใจ หลังจับเด็กน้อยคนนี้เผาทั้งเป็น เนื่องจากคุณลุงของโคโค่ติดหนี้แก๊งค์ค้ายาเสพติด ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วมกว่า 75,000 คน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ทะเลสาบกาลิลี พระเยซูทรงเริ่มต้นพันธกิจของพระองค์ ณ ดินแดนที่เป็นชายแดนและเป็นท่าสำหรับเดินทาง กาลิลีเป็นดินแดนที่มีคนหลายเผ่าพันธุ์ หลายวัฒนธรรม และหลายศาสนามาพบกัน กาลิลีในวันนั้นก็เหมือนกับโลกเราทุกวันนี้นี่แหละ โลกที่เปี่ยมด้วยวัฒนธรรมอันหลากหลายที่เราต้องเผชิญกับมัน - พระเยซูทรงเลือกศิษย์ให้มาติดตามพระองค์ด้วยการเรียกคนที่เรียบง่าย เรียกพวกชาวประมงจับปลาให้ม

โป๊ปฟรังซิส: "ความแตกแยกในกลุ่มคริสตชนทำลายความน่าเชื่อถือของเราเอง"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ ความแตกแยกในกลุ่มคริสตชนทำลายความน่าเชื่อถือของการเป็นประจักษ์พยานถึงพระวรสาร ทรงยกย่อง "บุญราศี จอห์น ที่ 23 และ บุญราศี จอห์น ปอล ที่ 2" เป็นผู้ทำงานหนักเพื่องานคริสตศาสนสัมพันธ์มาโดยตลอด จนงานนี้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตพระศาสนจักรไปแล้ว ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทำวัตรเย็น โอกาสวันฉลองนักบุญเปาโลกลับใจและยังเป็นวันปิดสัปดาห์ภาวนาเพื่อเอกภาพคริสตชน พิธีนี้ จัดในมหาวิหารนักบุญเปาโล นอกกำแพงกรุงโรม พิธีนี้ มีผู้แทนจากพระศาสนจักรออโธด็อกซ์และแองกลิกันมาร่วมพิธีด้วย ในส่วนของบทเทศน์ประจำพิธี พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่หนึ่ง ท่านถามคริสตชนที่นั่นว่า "มีการแตกแยกในองค์พระคริสตเจ้าหรือ" (1 โครินธ์ 1:13) เพราะพวกเขาต่างอ้างตัวว่าเป็นพวกของเปาโล พวกของเคฟาส หรือพวกของอพอลโล่ - ท่ามกลางความแตกแยกนี้ เปาโลขอร้องคริสตชนที่โครินธ์ผ่านทางพระนามของพระเยซูคริสต์พระเจ้าของเรา เพื่อที่ว่า ความแตกแยกจะไม่เกิดอีกในหมู่พวกเขา อย่างไรก็

โป๊ปโทรหาสตรีที่ลูกสาวถูกฆาตกรรมพร้อมเชิญมาพบที่วาติกัน

Image
"คอร์ริเอเร่ เดลล่า เซร่า" หนังสือพิมพ์ชื่อดังของอิตาลี รายงานว่า สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงโทรศัพท์ไปหา ฟิโลเมน่า คลัปส์ สตรีชาวอิตาเลี่ยนที่เขียนจดหมายมาหาพระสันตะปาปา เพื่อบอกเล่าความทุกข์ถึงเหตุที่ เอลิซ่า คลัปส์ ลูกสาวถูกฆาตกรรมและนำศพไปเก็บไว้ห้องใต้หลังคาของวัดคาทอลิกเมืองโปเตนซ่า จนทำให้เธอสิ้นหวังและละทิ้งความเชื่อ ทางด้าน พระสันตะปาปาทรงสัญญาว่า จะช่วยเหลือให้ความจริงปรากฏ ทั้งยังเชิญเธอมาพบที่วาติกันด้วย เอลิซ่า คลัปส์ หายตัวไปตั้งแต่ ค.ศ.1993 ขณะอายุ 16 ปี และเมื่อปี 2010 ศพของเธอก็ถูกพบที่ห้องใต้หลังคาวัดคาทอลิก คดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวชายหนุ่มผู้ทำผิดได้ตั้งแต่ปี 1993 และชายคนนั้นถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต กระนั้น ครอบครัวคลัปส์ ยังคาใจว่าทำไมศพของลูกสาวถึงถูกพบอยู่ที่หลังคาวัดคาทอลิก และสงสัยว่า เจ้าอาวาสในตอนนั้นมีส่วนรู้เห็นเป็นใจด้วย (เจ้าอาวาสเสียชีวิตแล้ว) ครอบครัวคลัปส์ได้ทำหนังสือถามไปยังพระสังฆราชประจำสังฆมณฑล แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองที่น่าพอใจ ที่สุดแล้ว ฟิโลเมน่า ผู้เป็นมารดา จึงทูลเรื่องนี้กับพระสันตะปาปาผ่านทางโทรศัพท์ พระสันตะปาปาสัญญาว่า