Posts

โป๊ปฟรังซิส: "ขอให้ซาเลเซียนพยายามสนองตอบต่อวิกฤติการศึกษาในปัจจุบัน"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงให้กำลังใจคณะซาเลเซียนในการสนองตอบต่อวิกฤติการศึกษาในปัจจุบัน พร้อมขอให้สมาชิกยึดมั่นใน "ระบบป้องกัน" (Preventive System) ของนักบุญจอห์น บอสโก ซึ่งตั้งอยู่บนความเมตตาและความเป็นมิตรกับนักเรียน นอกจากนี้ ทรงย้ำซาเลเซียนอย่าทอดทิ้งบรรดาเยาวชนที่กลายเป็นส่วนเกินของสังคม ช่วงสายวันจันทร์ที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับคุณพ่ออังเคล เฟร์นานเดซ อาร์ติเม่ อัคราธิการคนใหม่ของคณะซาเลเซียนและสมาชิกของคณะที่มาเข้าเฝ้า โอกาสมาร่วมประชุมทั่วไปของคณะที่กรุงโรม โดยคุณพ่ออาร์ติเม่ ถือเป็นอัคราธิการคนที่ 10 ของคณะซาเลเซียน (นักบุญจอห์น บอสโก เป็นผู้ก่อตั้งคณะ และมีผู้สืบตำแหน่งจากนักบุญจอห์น บอสโก มาแล้ว 9 คน คุณพ่ออาร์ติเม่ เป็นคนที่ 10) ในส่วนพระดำรัสที่พระสันตะปาปาตรัสกับชาวซาเลเซียน พระองค์ตรัสว่า: - พันธกิจหลักของคณะซาเลเซียนคือการอภิบาลเยาวชน พระจิตจะช่วยเหลือชาวคณะให้เข้าใจความคาดหวังและความท้าทายประจำยุคสมัยของเรา - การประกาศพระวรสารของซาเลเซียนจัดได้ว่ามีความชิดใกล้กับการศึกษามากๆ พ่ออยากให้กำลังใจพวกท่านใ

โป๊ปฟรังซิส: "เดินไปหาพระเจ้าต้องเดินอย่างตั้งใจและมีความหวัง ไม่ใช่เดินเลื่อนลอย"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงแบ่งปัน การเดินไปสู่พระสัญญาของพระเจ้า เราต้องเดินให้ถูกเส้นทางและเดินแบบมีความหวังตั้งใจ ไม่ใช่เดินแบบนักท่องเที่ยวที่เตร่ไปเรื่อยไร้จุดหมาย ทรงย้ำ ถ้ารู้ว่าเดินทางผิด จงกลับใจและไปแก้บาป วอนขอพระหรรษทานจากพระเจ้าให้เราเดินให้ถูกทางและก้าวไปหาพระองค์ ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซา พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พี่น้องที่รัก ก่อนที่พระเจ้าจะตรัสถามเรา พระองค์มักจะสัญญากับเราถึงชีวิตใหม่แห่งความชื่นชมยินดีเสมอ ดังนั้น ความสำคัญของชีวิตคริสตชนของเราจึงเป็นการเดินทางในความหวังอยู่เสมอ และวางใจต่อพระสัญญาของพระเจ้า - ในบทอ่านและพระวรสารวันนี้ (จากหนังสืออิสยาห์และพระวรสารจากนักบุญจอห์น) เราได้เห็นความแตกต่างของคริสตชน 3 แบบและได้เห็นว่าพวกเขาดำเนินชีวิตฝ่ายจิตกันอย่างไร - พวกแรกคือพวกคริสตชนที่ความหวังของเขาอ่อนแอ แม้พวกเขายังเชื่อและทำตามพระบัญญัติ แต่พระเจ้าไม่สามารถใช้ให้พวกเขาเป็นเชื้อแป้งท่ามกลางประชากรของพระองค์ เพราะพวกเขาหยุด

โป๊ปฟรังซิส: "อย่ามีนิสัยชอบตัดสินคนอื่นแบบพวกฟาริสี"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงสอน เราต้องอย่าทำตัวเหมือนพวกฟาริสีที่ชอบตัดสินคนอื่น แบบที่ฟาริสีตัดสินชายตาบอดว่าเป็นเพราะพระเจ้าลงโทษ ทรงย้ำ หัวใจของเราต้องเปิดรับความสว่างจากพระคริสตเจ้า เพื่อเราจะได้เดินอย่างมั่นคงบนหนทางแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในการสวดทูตสวรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงรักษาคนตาบอดและทำให้เขาได้พบกับความสว่างซึ่งเป็นแสงจากพระคริสตเจ้า - พระเยซูทรงรักษาคนตาบอดคนนี้ให้พบแสงสว่าง ทำให้เขามองเห็นอีกครั้ง ผิดกับพวกฟาริสีที่ยังตาบอดในจิตใจ พวกเขาปิดตัวเองด้วยความหยิ่งและโอหัง พวกเขาเชื่อว่า ตนเองคือความสว่างให้กับประชาชน พวกเขาจึงไม่เปิดตัวเองให้กับความจริงของพระคริสตเจ้า พวกเขาจึงทำทุกอย่างเพื่อปฏิเสธอัศจรรย์ที่พระเยซูทรงกระทำ - หันมาดูชีวิตเราบ้าง บางครั้งชีวิตเราเหมือนกับชายตาบอดคนนั้นที่เปิดต้อนรับแสงสว่างจากพระคริสตเจ้าและพระหรรษทานของพระองค์  แต่บางครั้งอีกเช่นกัน มันก็เป็นเหมือนพวกฟาริ

โป๊ปฟรังซิส: "อย่ามีทัศนคติแบบฟาริสีที่ชอบตัดสินผู้พิการ"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ อย่าทำตัวเหมือนพวกฟาริสีที่ตัดสินความพิการของคนว่าเกิดจากพระประสงค์ของพระเจ้า ทรงชี้ คนที่พระเยซูต้องการให้มาเป็นศิษย์ติดตามพระองค์คือคนที่เป็นส่วนเกินของสังคม คนที่ถูกมองข้าม และคนที่ถูกเหยียดหยาม ช่วงสายวันเสาร์ที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาผู้พิการทางสายตาและการฟังที่มาเข้าเฝ้าในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน โอกาสมาร่วมงาน "วันแห่งการแบ่งปัน" ซึ่งจัดที่กรุงโรม โดยวันนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาว่า: - การจัดงานวันแห่งการแบ่งปัน จัดภายใต้หัวข้อ "ประจักษ์พยานถึงพระวรสารเพื่อวัฒนธรรมของการพบกัน" คำว่า การพบกัน คือการพบกับพระคริสตเจ้า และเพื่อให้การเป็นประจักษ์พยานถึงพระวรสารบังเกิดผล เราต้องได้พบกับพระเยซู ใครที่รู้จักพระเยซูอย่างลึกซึ้ง เขาก็จะเป็นประจักษ์พยานถึงพระองค์ เหมือนอย่างที่หญิงชาวสะมาเรียที่ได้รับฟังกันในพระวรสารเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วได้แสดงให้เห็น สตรีคนนี้พูดกับพระเยซูและชีวิตเธอก็เปลี่ยนไป เธอกลับไปหาเพื่อนๆและประกาศว่า "มาซิ มาดูชายคนที่เป็นพระเมสซิยาห

โป๊ปฟรังซิส: "เราต้องกลับใจตลอดชีวิต ไม่ใช่กลับใจแค่มหาพรต"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงย้ำ การกลับใจไม่ใช่ทำแค่เทศกาลมหาพรต ไม่ใช่ทำปีละครั้งเท่านั้น แต่เราต้องทำไปตลอดชีวิต พร้อมกันนี้ ทรงทำเซอร์ไพรส์ด้วยการไปคุกเข่ารับศีลอภัยบาปกับพระสงฆ์ ก่อนที่พระองค์จะไปโปรดศีลอภัยบาปให้สัตบุรุษด้วย ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในงาน "24 ชั่วโมงเพื่อพระเจ้า" พิธีที่จัดเพื่อให้บริการโปรดศีลอภัยบาป 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม ถึง เย็นวันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พิธีนี้จัดในมหาวิหารนักบุญเปโตร และมหาวิหารอีก 3 แห่งในกรุงโรม ในพิธีนี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอน ใจความว่า: - ช่วงเวลาของเทศกาลมหาพรต พระศาสนจักรในนามของพระเจ้ารื้อฟื้นการเรียกร้องให้เรากลับใจ นี่คือการเรียกให้แต่ละคนเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง การกลับใจไม่ใช่แค่ปีละครั้งเท่านั้น แต่นี่คือการมุ่งมั่นกลับใจไปตลอดชีวิต มีใครบ้างในพวกเราที่คิดว่าตัวเองไม่ใช่คนบาป ไม่มีสักคนนะ! - นักบุญจอห์น กล่าวว่า ถ้าเรายอมรับว่าเป็นคนบาป พระเจ้าผู้ทรงความชอบธรรมจะให้อภัยบาปเราและชำระเราจากความอยุติธรรมทุกอย่าง พระวาจาที่เราได้

โป๊ปฟรังซิส: "จงต้อนรับผู้มาแก้บาปด้วยความรักของพระเจ้า ไม่ใช่เตรียมตัดสินพิพากษาเขา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติ พระสงฆ์ต้องต้อนรับสัตบุรุษที่มาแก้บาปด้วยความรักของพระเจ้า ไม่ใช่เตรียมตัดสินพิพากษาเขา ทรงย้ำ อย่าเข้มงวดหรือปล่อยปะละเลยเกินไป เพราะศีลอภัยบาปไม่ใช่ศาลแห่งการตัดสินประณาม ทรงชี้ สัตบุรุษจะดีใจเสมอเมื่อมาวัดแล้วเห็นมีพระสงฆ์นั่งฟังแก้บาป ช่วงสายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบรรดาพระสังฆราชและพระสงฆ์ที่เข้ารับการอบรมหลักสูตรการอภิบาลศีลแห่งการคืนดีและการอภิบาลของผู้โปรดศีลอภัยบาป ที่มาเข้าเฝ้าหลังเสร็จสิ้นการอบรม โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาว่า: - พ่อหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลักสูตรนี้จะช่วยพระศาสนจักรและบรรดาพระสงฆ์ที่โปรดศีลอภัยบาปได้ทำงานอภิบาลแห่งความเมตตาได้ดียิ่งขึ้น เพราะสิ่งนี้จัดว่าสำคัญมากๆ - พ่อขอเตือนใจบรรดาพระสงฆ์ว่า พระจิตคือองค์อุปถัมภ์ของการอภิบาลศีลแห่งการคืนดี พระเจ้าทรงเรียกพวกเราให้เป็นบุรุษของพระจิตเจ้าเสมอ ดังนั้น พระสงฆ์ต้องต้อนรับสัตบุรุษที่มาแก้บาปด้วยความรักของพระเจ้า ไม่ใช่ต้อนรับด้วยทัศนคติที่เตรียมตัดสินพิพากษาเขา จงต้อนรับเขาด้วยความรักของพ่อที่มองลูกกำลัง

โป๊ปฟรังซิส: "ถ้าพระเจ้ามีงบดุลการให้อภัย พระองค์คงขาดทุนเพราะให้อภัยมนุษย์ไม่หยุด"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงชี้ ถ้าทำงบดุลการให้อภัยของพระเจ้า พระองค์คงขาดทุนติดตัวแดงแน่นอน เพราะ "ให้" อภัยมนุษย์ตลอดเวลา ทรงย้ำ พระเจ้าไม่เคยเหนื่อยที่จะให้อภัยมนุษย์ มีแต่มนุษย์นี่แหละที่เหนื่อยกับการขอร้องให้พระเจ้าอภัยบาปเรา  ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซา พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า: - ในบทอ่านวันนี้ เราได้ยินได้ฟังแล้วว่า พระเจ้าตรัสกับประชากรของพระองค์ด้วยความอ่อนโยนละมุนละม่อม แม้เวลาที่พระเจ้าทรงเชิญเราให้กลับใจและใช้คำพูดที่เข้มงวด คำพูดเหล่านั้นก็ยังเป็นคำพูดแห่งความรักและเตือนใจเราว่า พระบิดากำลังตรัสกับลูกๆของพระองค์ว่า "กลับมาเถิด นี่คือเวลาที่จะกลับมาบ้านแล้ว" - นี่แหละคือหัวใจของพระบิดา พระเจ้าทรงเป็นเช่นนี้ พระองค์ไม่เคยเหน็ดเหนื่อย ไม่เคยอ่อนล้า พระเจ้าทำแบบนี้มาหลายศตวรรษ แม้มนุษย์จะทิ้งพระองค์บ่อยแค่ไหน ที่สุดแล้ว เขาก็จะกลับมาเพราะพระเจ้าคือพระเจ้าที่รอคอยเขาเสมอ - เหมือนกับพระวรสารตอนลูกล้างผลาญ พ่อมองเห็นลูกมาแต่ไ