Posts

ปธน.อิสราเอลเชิญโป๊ปเสด็จเยือนประเทศ

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับ ชิม่อน เปเรส ประธานาธิบดีอิสราเอลที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน ทั้งนี้ เปเรส ได้ทูลเชิญพระสันตะปาปาเสด็จเยือนอิสราเอล ทั้งยังทูลเสริมว่า ตนจะไปเมืองอัสซีซี และจะสวดให้พระสันตะปาปาด้วย สันตะสำนักออกแถลงการณ์ที่ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับและสนทนากับ ชิม่อน เปเรส ผู้นำอิสราเอลที่มาเข้าเฝ้าช่วงเที่ยงวันอังคารที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ใจความว่า "การสนทนามีขึ้น 30 นาที บรรยากาศเป็นไปแบบมิตรภาพมากๆ ผู้นำทั้งสองได้สนทนากันเกี่ยวกับปัญหาสังคมในตะวันออกกลางเป็นหลัก อาทิ ปัญหาในซีเรีย" "โดยทาง ชิม่อน เปเรส ได้ทูลเชิญพระสันตะปาปาฟรังซิส เสด็จเยือนอิสราเอลอย่างเป็นทางการด้วย ซึ่งเปเรสทูลพระสันตะปาปาว่า 'ผมกำลังคาดหวังจะเห็นพระองค์ที่กรุงเยรูซาเล็ม ไม่เฉพาะผมเท่านั้น แต่ประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหมดก็หวังเช่นกัน' "ขณะที่พระสันตะปาปาทรงกล่าวตอบว่า 'ข้าพเจ้าก็หวังจะได้ไปเยือนเช่นกัน' "ในส่วนของการแลกเปลี่ยนของที่ระลึก เปเรส ได้ถวายพระคัมภีร์ไบเบิ้ลภาษาฮีบรูและอังกฤษแด่พระสันตะปาปาด้วย พร้อมกันนี้ ยังได้ทูลพระสันตะปาปาว่า '

โป๊ปกระตุ้นคริสตชนให้สวดภาวนาเพื่อพระศาสนจักร

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงกระตุ้นคริสตชนให้หมั่นสวดภาวนาเพื่อพระศาสนจักรเป็นประจำ พร้อมกันนี้ ทรงเตือนสติ ถ้าพระศาสนจักรหลงไปกับกระแสโลก เราก็จะไร้ความสามารถในการประกาศพระวรสาร สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา ในมิสซานี้ พระสันตะปาปาเทศน์สอนว่า: - พึงระลึกว่า เราทุกคนต้องสวดภาวนาเพื่อพระศาสนจักร เราต้องสวดภาวนาเพื่อคนชรา คนป่วย เด็กและเยาวชน และบรรดาผู้ที่ถูกเบียดเบียน เพื่อพระเจ้าจะได้ประทานพละกำลังให้กับพวกเขา จะได้ไม่สูญเสียความเชื่อและความหวัง - ความอันตรายที่สุดสำหรับพระศาสนจักรคือ ถ้าพระศาสนจักรกลายเป็น(สถาบัน)ทางโลก พระศาสนจักรก็ไม่สามารถประกาศพระวรสารได้ - พวกเราคือข้ารับใช้ผู้ต่ำต้อยยากจน มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้พระศาสนจักรเจริญเติบโตในความศักดิ์สิทธิ์ - พระเจ้าเท่านั้นที่จะปกป้องพระศาสนจักร ไม่ให้เป็นศาสนจักรฝ่ายโลก พระเจ้าคือผู้เดียวที่สามารถมองเห็นหน้าตาของปีศาจและเอาชนะมันได้ Read More: Radio Vaticana

โป๊ปย้ำการแก้บาปไม่ใช่การไปรับโทษจากพระเจ้า

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำการไปแก้บาปไม่ใช่การไปรับการลงโทษจากพระเจ้า แต่เป็นการไปสรรเสริญพระองค์ผู้ทรงให้อภัยเรา พร้อมกันนี้ ทรงชี้ ทุกคนย่อมมีด้านมืด แต่ใครที่ยังเลือกเดินบนความมืด ก็ไม่ต่างจากคนที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองไม่เคยทำบาปเลย สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา โดยผู้รับเชิญร่วมมิสซาวันนี้ได้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพย์สินของวาติกัน ในมิสซานี้ พระสันตะปาปาเทศน์สอนว่า: - การที่คนๆหนึ่งรู้สึกผิดต่อบาปที่ตนได้กระทำ จัดเป็นคุณธรรมของความถ่อมตน และยังเป็นการเตรียมตัวเองให้พร้อมเพื่อเปิดรับการให้อภัยจากพระเจ้า - ทุกคนย่อมมีเหตุการณ์ด้านมืดในชีวิต แต่ใครที่ยังก้าวเดินในความมืด ก็กำลังทำตัวเองให้งมงายต่อความคิดที่ว่า ตนเองไม่เคยทำบาปเลย - ก้าวแรกที่จะยอมรับว่าเราเป็นคนบาปก็คือการเชื่อในพระเจ้า พระองค์เป็นองค์ความดีและยุติธรรม พระองค์จะอภัยโทษเรา - การไปรับศีลอภัยบาปไม่ใช่การเดินไปรับการชำระตัวเองจากสิ่งสกปรก การไปรับศีลอภัยบาปไม่ใช่การมุ่งหน้าไปรับการทรมานหรือลงโทษ แต่มันเป็นการไปเพื่อสรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงช่วยเรา ให้อภัยเราด้วยความอ่อนโยน

โป๊ปฟรังซิสย้ำเยาวชน "จงกล้าสวนกระแสโลก"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงขอร้องเยาวชนกล้าดำเนินชีวิตสวนกระแสนิยม ทรงชี้ พระเจ้าเลือกเราเป็นคริสตชนเพื่อทำสิ่งยิ่งใหญ่ให้กับโลก นอกจากนี้ ทรงชวนภาวนาให้ชาวบังคลาเทศที่ประสบภัยด้วย สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาโปรดศีลกำลังให้กับสัตบุรุษ 44 คน ที่มาจาก 22 ประเทศทั่วโลก พวกเขาเหล่านี้มีอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 11-55 ปี ในส่วนของมิสซานี้ มีสัตบุรุษมาร่วมกว่า 120,000 คน สำหรับใจความสำคัญบทเทศน์ประจำมิสซา พระสันตะปาปา ทรงเทศน์ว่า: - พระจิตทรงนำสิ่งใหม่ๆจากพระเจ้ามาสู่ตัวเรา พระเจ้าเสด็จมาหาเราและบันดาลให้ทุกสิ่งเป็นไปได้ - พระจิตจะแปรเปลี่ยนตัวเราอย่างแท้จริง และอาศัยการเปลี่ยนแปลงนี้ พระเจ้ายังทรงต้องการให้เราเปลี่ยนแปลงโลกด้วย - เมื่อใดที่เราพบกับการประจญ จำไว้! จงอย่ากลัว เราต้องมีความเข้มแข็งที่พระจิตประทานให้ เพื่อเอาชนะการประจญเหล่านั้น - เยาวชนที่รัก ฟังนะ จงกล้าสวนกระแสโลก มันเป็นสิ่งดีต่อหัวใจของลูกเอง พวกเราคริสตชนไม่ได้ถูกเลือกให้ทำสิ่งเล็กๆ แต่พระเจ้าเลือกเราให้มาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ หลังพิธีมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงนำสัตบุรุษสวดทูตราชินีแห่งสวรรค์ โดยพระองค์ทรงแบ่งปั

My Share: ต่อยอดบทเทศน์ "รักและให้อภัย" มันทำยากจริงๆ

Image
วันนี้ (เสาร์ที่ 27 เมษายน 2013) ผมไปทำธุระแถวสาทร เลยมีโอกาสได้ไปร่วมมิสซาวันเสาร์เย็นที่วัดเซนต์หลุยส์ สาทร (ปกติ ผมจะมีวัดที่ไปร่วมมิสซาประจำ และไปอยู่วัดเดียวเกือบตลอดชีวิต) ที่เขียนเรื่องนี้นำเพราะผมค่อนข้างประทับใจการเทศน์ให้ข้อคิดของ "สังฆานุกร" ที่เทศน์ในมิสซานี้ พระวรสารประจำวันอาทิตย์นี้ พระเยซูทรงสอนอัครสาวกเกี่ยวกับบัญญัติแห่งความรัก "เรารักท่านอย่างไร ท่านก็จงรักกันแบบนั้น"  ในท่อนหนึ่งของเนื้อหาการเทศน์ สังฆานุกรท่านนี้ (ขออภัยที่ผมไม่รู้จักชื่อของท่าน) กล่าวประมาณว่า "พระเยซูอยู่กับบรรดาสาวก สั่งสอนพวกเขา รวมทั้งร่วมกิน ร่วมใช้ชีวิต ผ่านทุกข์ยากมาด้วยกัน 3 ปี แต่เมื่อถึงวันที่พระเยซูถูกจับตัดสินประหารชีวิต พวกสาวกที่บอกว่ารักพระเยซู หายหน้าไปกันหมด ไม่มีใครอยู่ร่วมทุกข์กับพระองค์เลยแม้แต่คนเดียว" ... ผมจำไม่ได้ว่า ประโยคถัดจากนี้ สังฆานุกรท่านนี้เทศน์อะไรต่อ เพราะช่วงเวลาดังกล่าว สมองผมจินตนาการเนื้อเรื่องที่สังฆานุกรท่านนี้เล่าไว้แล้ว ผมคิดในตอนนั้นว่า "ผมคงไม่สามารถทำแบบพระเยซูได้แน่ๆ ถ้าอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา 3 ปี แต่พอจังหวะช

บทเทศน์พระสันตะปาปาในมิสซาวันเสาร์ที่ 27 เม.ย. 2013

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา โดยผู้รับเชิญร่วมมิสซาวันนี้ได้แก่เจ้าหน้าไปรษณีย์วาติกัน ในมิสซานี้ พระสันตะปาปาเทศน์สอนว่า: - น่าแปลกใจมากที่หลายคนได้ยินพระเยซูประกาศพระวรสาร แต่ไม่ยอมรับฟัง สาเหตุน่าจะเป็นเพราะพวกเขาปิดหัวใจของตัวเอง พวกเขาไม่เปิดใจต้อนรับพระจิตเจ้า พวกเขามักจะคิดเอง เออเอง ดังนั้น พวกเขาจึงรู้สึกเหมือนกับว่า ตนเป็นผู้ปกป้องความเชื่อและเริ่มพูดจาต่อต้านอัครสาวก - คนพวกนี้ชอบคิดว่าตัวเองเป็นผู้ปกป้องความเชื่อ แต่สิ่งที่พวกเขาทำจริงๆนั้น มันเป็นการนินทาและใส่ร้ายกันต่างหาก พวกเขาดูเข้าอกเข้าใจกัน แต่ตอนจบ มันจบด้วยการทำลายซึ่งกันและกัน - แต่สำหรับชุมชนของพระเจ้าแล้ว เราต้องเปิดตัวเองต้อนรับพระจิต ชุมชนพระเจ้าต้องประกาศพระวรสาร เพราะนี่เป็นแนวทางสำหรับพระศาสนจักร แนวทางสำหรับความคิดอ่านของเรา และเป็นแนวทางของชุมชนวัด - ขอให้เราดูตอนที่พระเยซูทรงส่งสาวกออกไปประกาศพระวรสาร พระเยซูต้องการให้พวกเขาประกาศพระนามของพระองค์ด้วยความชื่นชมยินดี - ดังนั้น เราต้องอย่ากลัวความชื่นชมยินดีในพระจิต และต้องไม่ปิดตัวเอง ไม่ช่วยคนอื่น Read

บทเทศน์พระสันตะปาปาในมิสซาวันที่ 26 เม.ย. 2013

Image
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าส่วนพระองค์ในวัดน้อยหอพักซางตา มาร์ธา ในมิสซานี้ พระสันตะปาปาเทศน์สอนว่า: - พวกเราส่วนมากเนี่ย ตาเป็นต้อ แต่มักจะบอกว่า "ฉันมองเห็นทุกอย่างดี" และ "ฉันไม่รู้เลยว่า ฉันทำอะไรพลาดไป" - แต่โดยอาศัยพระเยซู เราจะได้รับการผ่าตัดและรักษา ขอให้พระเยซูเตรียมดวงตาและหัวใจของเราให้พร้อม เพื่อจะได้เห็นความงดงามของพระองค์และอาณาจักรสวรรค์ด้วย