Posts

โป๊ปฟรานซิสสอนความหมายของการเป็นคริสตชน

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสอน การเป็นคริสตชนไม่ใช่การนำใบรับศีลล้างบาปมาโชว์ให้ดู เพราะนั่นมันแค่กระดาษแผ่นเดียวเท่านั้น   แต่การเป็นคริสตชนหมายถึงการตอบรับการเลือกสรรจากพระเจ้า มีความหวังในคำสัญญา และยึดมั่นในพันธสัญญาที่พระเจ้าให้ไว้ ตัวอย่างที่เห็นได้คืออับราฮัม บรรพบุรุษของเรา  ทรงหวังเห็นคริสตชนมีจิตใจแบบ "นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตต้า" ที่ใกล้ชิดผู้เร่ร่อนในวิกฤตินี้  โป๊ปฟรานซิสถวายมิสซาเช้าวันที่ 2 เม.ย. 2020/ Copyright: Vatican Media ช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเชิญทุกคนภาวนาเพื่อผู้ไร้ที่อยู่อาศัย พระองค์ทรงเผยว่า ได้เห็นภาพจากหน้าหนังสือพิมพ์ที่คนไร้ที่อยู่ต้องเบียดเสียดกันนอนในลานจอดรถ มันเป็นภาพที่น่าเศร้าและแสดงให้เห็นถึงปัญหาที่มองไม่เห็นในสังคมของเรา พระสันตะปาปาทรงเชิญเราให้สวดขอนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตต้า โปรดช่วยปลุกจิตสำนึกของเราให้รู้จักใกล้ชิดกับพวกเขาท่ามกลางวิกฤติครั้งนี้ บทอ่านประจำมิสซานี้จากหนังสือปฐมกาล พระเจ้าได้ให้พันธสัญญากับอับราฮัม พระอง

สรุปใจความสำคัญบทเทศน์มิสซาเช้าของโป๊ปฟรานซิส

Image
Copyright: Vatican Media ใจความสำคัญบทเทศน์มิสซาวันเสาร์ที่ 28 มี.ค. 2020 พระวรสารเป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนเถียงกันว่าพระเยซูเป็นพระเมสซียาห์หรือไม่ พอเถียงเสร็จ พวกเขาก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ถึงตอนนี้ ความคิดของพวกเขาแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือคนที่เชื่อและติดตามพระเยซู กลุ่มที่สองคือไม่เชื่อ พวกนี้หัวหน้าสมณะและฟาริสี จากนั้น พระสันตะปาปาทรงยกเหตุการณ์ที่กำลังเกิดในอิตาลีมาสอนว่า ตอนนี้ มีคนพูดเกี่ยวกับบรรดาบาดหลวงและซิสเตอร์ควรเก็บตัว ไม่ควรออกไปทำงานอภิบาลและโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์ เพราะเดี๋ยวติดโควิด ความคิดแบบนี้กำลังทำให้เรากลายเป็น 2 กลุ่ม และกลุ่มนี้คือกลุ่มที่มือไม่ควรเปรอะเปรื้อนเลย มันเป็นความคิดแบบพวกหัวหน้าสมณะและฟาริสีในพระวรสาร พวกเขาหลงลืมความทรงจำที่ว่าเขาก็เป็นหนึ่งในประชากรของพระเจ้าไปแล้ว ใจความสำคัญบทเทศน์มิสซาวันอาทิตย์ที่ 29 มี.ค. 2020 ช่วงเริ่มพิธี พระสันตะปาปาทรงกล่าเริ่มต้นพระวรสาร ด้วยการเชิญทุกคนคิดถึงคนที่กำลังร่ำไห้จากผลกระทบของโควิด-19 อาทิ ผู้สูงอายุที่อยู่เพียงลำพัง คนที่ถูกกักกันตัวเอง รวมถึงครอบครัวต่างๆ ที่ไม่ได้รับเงินเดือนจากวิกฤติเศรษฐ

โป๊ปฟรานซิส "วิกฤติโควิด-19 เป็นเวลาให้เราแยกแยะสิ่งจำเป็นออกจากสิ่งไม่จำเป็นในชีวิต"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงย้ำ วิกฤติโควิด-19 ไม่ใช่การพิพากษาลงโทษของพระเจ้า แต่เป็นเวลาให้เราแยกแยะสิ่งจำเป็นในชีวิตออกจากสิ่งไม่จำเป็น  ทรงสอน ในวิกฤติโควิด เราลงเรือลำเดียวกัน ดังนั้นต้องช่วยเหลือกันในเวลาพายุรุนแรง  ทรงชี้ หนึ่งในคำพูดที่ทำร้ายจิตใจสมาชิกในครอบครัวมากที่สุดคือ "ไม่ห่วงกันเลยใช่ไหม" คำนี้ บรรดาศิษย์ก็พูดกับพระเยซูตอนเรือกำลังจะจม  พระสันตะปาปาประทานพร Urbi et Orbi/ Copyright: Vatican Media เย็นวันศุกร์ที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเป็นประธานในการนำภาวนาและประทานพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi) เพื่อวอนขอพระเจ้าโปรดหยุดยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 จากลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พิธีนี้จัดขึ้นท่ามกลางสายฝนและความว่างเปล่าในลานมหาวิหาร พิธีนี้เริ่มด้วยการอ่านพระวรสาร เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรงสั่งให้ลมพายุสงบ จากนั้น พระสันตะปาปาทรงกล่าวสอน ด้วยการเริ่มต้นว่าโรคโควิด-19 ทำให้ทุกคนต้องตระหนักว่าเรากำลังลงเรือลำเดียวกัน ใจความสำคัญของสิ่งที่พระสันตะปาปาตรัส มีว่า "ความมืดมิดอย่างใหญ่หลวงได้มาปกคลุมเหนือจัตุร

โป๊ปฟรานซิส "เมื่อถูกนินทาหรือพูดลับหลัง วิธีตอบโต้คือนิ่งเงียบและปล่อยให้เขาพูดต่อไป"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสอน เวลาเราโดนนินทาหรือพูดใส่ร้ายลับหลัง วิธีตอบโต้ที่ดีสุดคือ "นิ่งเงียบและปล่อยให้เขาพูดต่อไป" เฉกเช่นพระเยซูที่ทรงปล่อยให้คนนินทาพระองค์  ทรงแนะ อีกหนึ่งวิธีที่จะตอบโต้การนินทาคือการพูดจากัน แต่ถ้าพูดแล้ว ไม่มีอะไรดีขึ้น ก็จงนิ่งเงียบแบบพระเยซู  ทรงแบ่งปัน ตอนนี้ เห็นสัญญาณที่ดีจากสังคม เมื่อคนเริ่มห่วงใยกันเมื่อเจอความทุกข์ยากจากโรคระบาด พระสันตะปาปาถวายมิสซาเช้าวันที่ 27 มี.ค./ Copyright: Vatican Media ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซานตา มาร์ธา มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงกล่าวว่า ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ พระองค์ได้เห็นคนในสังคมเริ่มเป็นห่วงกัน เริ่มเป็นห่วงคนยากจน คนชรา และผู้ป่วยในโรงพยาบาล และเต็มใจจะช่วยเหลือบุคลาการทางการแพทย์ พระสันตะปาปามองว่า "นี่เป็นสัญญาณที่ดี พวกเราขอบคุณพระเจ้าที่ทรงทำให้เกิดความรู้สึกนี้อยู่ในหัวใจ" พระวรสารประจำมิสซานี้ ชาวเยรูซาเล็มนินทาพระเยซู จากนั้น พระองค์ทรงตรัสเสียงดังในพระวิหารว่า "ท่านทั้งหลายรู้จัก

นำไม้กางเขนจากวัดซาน มาร์เชลโล่ ไปที่วาติกัน เพื่อเตรียมพิธีเฝ้าศีลและอวยพรแด่โรมและโลก

Image
เจ้าหน้าที่วาติกันได้ทำการเคลื่อนย้ายไม้กางเขนที่ชาวโรมเชื่อกันว่า ช่วยปกป้องกรุงโรมจากโรคระบาดร้ายแรงในศตวรรษที่ 16 ออกจากวัดซาน มาร์เชลโล่ อัล คอร์โซ่ ไปยังมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน เพื่อที่จะใช้ในที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส จะนำภาวนาและเฝ้าศีลมหาสนิท ก่อนจะปิดท้ายด้วยการประทานพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi) ในวันพรุ่งนี้ ศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2020 Photo: Francesco Grana via Twitter Photo: Francesco Grana via Twitter Photo: Francesco Grana via Twitter Photo: Francesco Grana via Twitter Photo: Vatican Media ย้อนกลับไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พระสันตะปาปาฟรานซิส ได้เดินประมาณ 20 นาที มาภาวนาหน้าไม้กางเขนแห่งนี้ หลังจากที่พระองค์ได้ไปภาวนาหน้ารูปแม่พระผู้ปกป้องชาวโรม (Salus Populi Romani) ภายในมหาวิหาร ซานตา มารีอา มาจจอเร่ เพื่อช่วยโลกให้รอดพ้นจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเร็ววัน ครั้งสุดท้ายที่ไม้กางเขนนี้ ถูกเคลื่อนย้ายออกจากวัดซาน มาร์เชลโล่ ก็คือใน ค.ศ.2000 หรือ 20 ปีที่แล้ว สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ทรงสั่งให้นำไม้กางเขนนี้ไปที่มหาวิห

พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในซานตามาร์ธา ที่โป๊ปฟรานซิสพักอาศัย

Image
หมายเหตุ: เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 26 มีนาคม 2020 (10.00 น.ของกรุงโรม) ฟรานเชสโก้ กราน่า รายงานว่า ผลตรวจโควิด-19 ของทุกคนในซานตามาร์ธา รวมทั้งพระสันตะปาปา ออกมาเป็นลบ (ไม่ติดโควิด-19)  ทั้งนี้ นี่คือการตรวจรอบที่ 2 ของพระสันตะปาปาแล้ว ฟรังก้า จานโซลดาติ, เจราร์ด โอคอนเนลล์, ฟรานเชสโก้ กราน่า และ ฟิลิป ปูลเยลล่า สี่นักข่าวสายวาติกันชื่อดัง พร้อมใจรายงานข่าวตรงกันว่า มงซินญอร์จานลูก้า เปซโซลี่ หัวหน้าแผนกภาษาอิตาเลี่ยนของสำนักเลขาธิการนครรัฐวาติกัน ตรวจพบเชื้อโควิด-19 โดย มงซินญอร์เปซโซลี่ พักประจำที่หอพักซานตา มาร์ธา ที่พักเดียวกับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ตอนนี้ มงซินญอร์เปซโซลี่ วัย 58 ปี ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเจเมลลี่ในกรุงโรม ขณะที่ห้องพักและห้องทำงานซึ่งมงซินญอร์เปซโซลี่พัก ได้รับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ มีคำสั่งให้ปิดชั้นที่มงซินญอร์คนนี้พักแล้ว ต่อความกังวลว่าพระสันตะปาปาจะได้รับเชื้อโควิด-19 หรือไม่ เจราร์ด โอคอนเนลล์ นักข่าวสายวาติกันที่มีความสนิทสนมกับพระสันตะปาปาตั้งสมัยพระองค์เป็นคาร์ดินัล รายงานว่า แหล่งข่าวในวาติกันที่ไม่ประสงค์ออกนาม ได้ให้

โป๊ปฟรานซิส "การปลดคนงานเพื่อให้บริษัทรอดจากวิกฤติ ไม่ใช่ทางออกของปัญหา"

Image
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประทานการสัมภาษณ์แก่ ฆอร์ดี้ เอโบเล่ นักข่าวจากสเปน ผ่าน "สไกป์" (Skype) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ใจความสำคัญของบทสัมภาษณ์ดังกล่าว อาทิ โป๊ปฟรานซิสให้สัมภาษณ์ ฆอร์ดี้ เอโบเล่ ผ่านทางสไกป์ พระสันตะปาปา สอนว่า  ในวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้ การปลดคนงานเพื่อให้ตัวเองรอด ไม่ใช่ทางออกของปัญหา สิ่งที่ต้องทำ ควรให้พนักงานรู้สึกว่าบริษัทแห่งนี้เป็นสังคมของความเป็นหนึ่งเดียวกันต่างหาก พระสันตะปาปา ยอมรับ ไม่มีความรู้เรื่องการบริหารธุรกิจและไม่รู้ว่าบริษัทเหล่านั้นขาดทุนแค่ไหน แต่พระองค์รู้ถึงความทุกข์ของเจ้าของกิจการและนายจ้างที่กำลังจะปลดพนักงาน กระนั้น ก่อนลงมือทำอะไร ขอให้พิจารณาสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ทรงเผย สิ่งที่อยากบอกกับคนที่สูญเสียคนรักจากโรคโควิด-19 ก็คืออยากทำให้เขารู้ว่าพระสันตะปาปาอยู่เคียงข้างพวกเขา เพราะตอนนี้การกระทำสำคัญกว่าการพูดลอยๆ ทรงยกย่องหมอและพยาบาลที่ทำงานสู้โควิด เป็น "นักบุญข้างบ้าน" (The saints next door) พร้อมกันนี้ ทรงขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานในซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะพวกเขาช่วยทำให้สังคมเ