โป๊ปเตือนสติสงฆ์ใหม่ อย่าหลงไปกับชื่อเสียงและความสำเร็จทางโลก เพราะของพวกนี้อยู่ได้ไม่นาน

  • โป๊ปเลโอ เตือนสติสงฆ์ใหม่ อย่าหลงและปล่อยให้ตัวเองถูกหลอกไปกับชื่อเสียงและความสำเร็จทางโลก เพราะของพวกนี้อยู่ได้ไม่นาน
  • ทรงสอน สงฆ์ใหม่จงศึกษาตัวอย่าง “สงฆ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์” ที่ศาสนจักรมีอยู่ตลอด 2,000 ปี ชีวิตของพวกท่านเหล่านั้น ไม่โอ้อวดตัวเอง จงไปหาแรงบันดาลใจจากแบบอย่างดีๆ
  • ทรงย้ำ สงฆ์ต้องเดินตามพระเยซู จำไว้ว่า การเป็นนายชุมพาบาลต้องไม่มีที่ว่างสำหรับความแตกแยกหรือความเกลียดชัง




ช่วงสายวันศุกร์ที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงเป็นประธานในมิสซาสมโภชพระหฤทัยของพระเยซู ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ความพิเศษของมิสซานี้ยังตรงกับวันภาวนาเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของสงฆ์ และพระสันตะปาปาทรงบวชสงฆ์ใหม่ 32 คนด้วย


ในส่วนของบทเทศน์ประจำมิสซา Pope Report สรุปมาให้ดังนี้


1. แบบอย่างของชุมพาบาล “การแสวงหา การเยียวยา และความชื่นชมยินดี”


พระสันตะปาปาทรงไตร่ตรองบทอ่านและพระวรสาร เพื่อวาดภาพคุณลักษณะของสงฆ์ที่ต้องเจริญรอยตามพระคริสตเจ้า


“บทอ่านแรกจากหนังสือประกาศกเอเสเคียล ภาพของพระเจ้าในฐานะชุมพาบาลที่เอาใจใส่ฝูงแกะ แสวงหาผู้ที่หลงหาย ทรงพันแผลให้ผู้ที่บาดเจ็บ และเสริมกำลังผู้ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย เพื่อย้ำเตือนว่าความรักของพระองค์ไม่มีขีดจำกัดและไม่มีที่ว่างสำหรับความแตกแยกหรือความเกลียดชังใดๆ”


“บทอ่านที่สองจากจดหมายถึงชาวโรม พระเจ้าทรงคืนดีกับเรา ขณะที่เรายังอ่อนแอและยังเป็นคนบาป ดังนั้น ความหวังของเราจึงตั้งอยู่บนความจริงที่ว่าพระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งเรา เราถูกเรียกให้ร่วมมือกับพระองค์โดยให้ศีลมหาสนิทเป็นศูนย์กลางของชีวิต


“ส่วนพระวรสาร นักบุญลูกาใช้เรื่องอุปมาแกะที่หลงหายเพื่อพูดถึงความชื่นชมยินดีของพระเจ้าและของผู้อภิบาลทุกคน พวกเราในฐานะสงฆ์ เราต้องมีใจปรารถนาว่า ‘อย่าให้ผู้ใดหลงหายไป’ และสงฆ์ต้องเป็นบ่อเกิดแห่งความสามัคคีท่ามกลางพี่น้องสงฆ์ด้วยกัน”


"เราทำเช่นนี้โดยการแบกผู้ที่หลงหายไว้บนบ่าของเรา ให้อภัยแก่ผู้ที่ทำผิด แสวงหาผู้ที่พลัดหลงหรือถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และดูแลผู้ที่ทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ” พระสันตะปาปา ตรัสสอน


2. ความเป็นหนึ่งเดียวกันคือ “หัวใจของการสร้างพระกายของพระคริสต์”


พระสันตะปาปาทรงชี้ว่า “พันธกิจของสงฆ์คือการทำให้ศักดิ์สิทธิ์และการคืนดี เพื่อสร้างพระกายพระคริสต์ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ สภาสังคายนาวาติกัน ครั้งที่ 2 จึงขอให้สงฆ์พากเพียรนำทุกคนสู่เอกภาพแห่งความรัก โดยการประสานความแตกต่างเพื่อจะได้ไม่มีใครรู้สึกว่าถูกทิ้ง และที่สำคัญคือต้องเป็นหนึ่งเดียวกับบิช็อปของตนและหมู่คณะสงฆ์ของตนเอง”


จากนั้น พระสันตะปาปาทรงอ้างอิงคำสอนอันโด่งดังของนักบุญออกัสติน จากบทเทศน์ในวันครบรอบการบวชของท่านนักบุญ เพื่อเน้นย้ำถึงอัตลักษณ์ร่วมกันของทุกคนในศาสนจักรว่า “เพื่อท่าน ข้าพเจ้าเป็นบิช็อป แต่กับท่าน ข้าพเจ้าเป็นคริสตชน” 


พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ยังย้ำถึงความปรารถนาที่เคยประกาศไว้ในพิธีมิสซาเริ่มสมณสมัย “ศาสนจักรที่เป็นหนึ่งเดียวกันคือเครื่องหมายแห่งความสนิทสัมพันธ์ ซึ่งจะกลายเป็นเชื้อแป้งสำหรับโลกที่ได้รับการคืนดี เมื่อเราคืนดีกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน และได้รับการเปลี่ยนแปลงโดยความรักที่หลั่งไหลอย่างอุดมจากพระหฤทัยของพระคริสต์ ให้เราเดินไปด้วยกันอย่างถ่อมตนและแน่วแน่ตามรอยเท้าของพระเยซู”


3. ข้อคิดสำหรับสงฆ์ใหม่


ช่วงท้ายของบทเทศน์ พระสันตะปาปาทรงให้ข้อคิดเป็นพิเศษไปยังบรรดาสงฆ์ใหม่ที่ได้รับการบวชในวันนี้ว่า


“รากฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตสงฆ์ นั่นคือความรักและการรับใช้ … จงอยู่ใกล้ชิดกับฝูงแกะของท่าน จงมอบเวลาและพลังของท่านให้แก่ทุกคนอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการสงวนไว้และไม่มีความลำเอียง”


“พ่อขอเตือนสติบรรดาสงฆ์ใหม่ว่า จงอย่าหลงไปกับค่านิยมของโลกที่มุ่งเน้นความสำเร็จและเกียรติยศภายนอก บ่อยครั้งที่โลกนำเสนอรูปแบบของความสำเร็จและเกียรติยศที่น่าสงสัยและอยู่ได้ไม่นาน อย่าปล่อยให้ตนเองถูกหลอกโดยสิ่งเหล่านั้นเด็ดขาด”


“ขอให้ท่านมองไปยังแบบอย่างที่มั่นคงและบังเกิดผลในงานธรรมทูต ซึ่งบ่อยครั้งไม่โอ้อวดตัวเอง …​ พ่อขอเรียกร้องพวกท่านกลับไปศึกษาขุมทรัพย์ที่ศาสนจักรมีอยู่ตลอด 2,000 ปี นั่นคือชีวิตของบรรดาสงฆ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ จงเรียนรู้เรื่องราวของพวกเขา ศึกษาชีวิตและงานของพวกเขา เลียนแบบคุณธรรมของพวกเขา รับแรงบันดาลใจจากความกระตือรือร้นของพวกเขา และวอนขอคำเสนอวิงวอนของพวกเขาบ่อยๆ และอย่างไม่ลดละ” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย


Source:


- https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/homilies/2025/documents/20250627-omelia-giubileo-sacerdoti.html 


Comments