Dark Night of the Soul (ตอน 1)

เราทุกคนต้องเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ เกิดความสับสนและสงสัยว่า “พระเจ้าอยู่ไหน ทำไมพระเจ้าทำแบบนี้กับเรา” แม้แต่พระเยซูก็เคยเจอ นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตต้าก็เคยเจอ (ตอนนั้น นิตยสาร TIME ถึงกับลงหน้าหนึ่งเลยทีเดียว ซิสเตอร์แชร์ความรู้สึกว่า ช่วงหนึ่งของชีวิตที่ยากลำบาก เคยท้อและบ่นว่า “พระเจ้าไปไหน ทำไมเราไม่รู้สึกเลยว่าพระองค์อยู่กับเรา”)

พระสันตะปาปา ฟรานซิส ก็เคยเจอ และ แดเนี่ยล เบิร์ก นักข่าวของ CNN ก็ได้ตีแผ่เรื่องนี้ไปเมื่อปี 2015 กับชื่อบทความว่า The Pope’s Dark Night of the Soul (แปลเป็นไทยน่าจะประมาณว่า ราตรีอันมืดมิดในชีวิตฝ่ายจิตของโป๊ปฟรานซิส)

บทความนี้ยาวมากๆ แต่เป็นหนึ่งในบทความที่ “ยอดเยี่ยมสุดเกี่ยวกับโป๊ปฟรานซิส” ที่ผมเคยอ่านมา เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมเคยส่งบทความนี้ให้ มงซินญอร์ วิษณุ ธัญญอนันต์ เก็บไว้รำพึงไตร่ตรอง และมงซินญอร์ช่วยถอดความให้ทุกตัวอักษร วันนี้ ผมเลยอยากนำมาแบ่งปันทุกท่านให้ติดตามกัน โดยจะขอแบ่งเป็นตอนๆ ไปนะครับ 





_____________

The Pope’s Dark Night of the Soul (บทความโดย แดเนี่ยล เบิร์ก, ถอดความโดย มงซินญอร์ วิษณุ ธัญญอนันต์)

นักข่าว: “ใครคือ ฆอร์เค่ มาริโอ แบร์โกโญ่”

พระสันตะปาปา ฟรานซิส: “พ่อเป็นคนบาป นี่เป็นคำจำกัดความที่ตรงมาก นี่ไม่ใช่รูปแบบวิธีของการพูดหรือเป็นวรรณกรรม แต่พ่อเป็นคนบาปจริง ๆ”

ณ กอร์โดบา ประเทศอาร์เจนติน่า 

    ห้องแคบๆ ที่เต็มไปด้วยสีแดง ทั้งม่านหนาสีแดง พื้นสีแดง ผ้าคลุมเตียงสีแดง ในห้องมีเครื่องประดับชิ้นเดียวคือรูปวาดไม้กางเขน ที่นั่นเป็นเหมือนห้องใต้ดิน เป็นห้องของนักพรต เสมือนห้องคุมขังนักโทษ


    นี่คือห้องหมายเลข 5 ของที่พักคณะนักบวชเยสุอิต ณ เมืองกอร์โดบา ประเทศอาร์เจนตินา ภายในห้องหมายเลข 5 แห่งนี้ เสียงที่คุณจะได้ยินก็มีก็แต่เสียงสะท้อนแห่งความคิดของตัวคุณเอง และการอธิษฐานภาวนาตามลำพังต่อพระเจ้าที่อยู่ห่างไกล


    ฆอร์เค่ มาริโอ แบร์โกโญ่ บุรุษผู้ที่จะกลายเป็นพระสันตะปาปาฟรานซิสใช้เวลาสองปีในห้องนี้ ระหว่างปี 1990 - 1992 นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความว่างเปล่า นับว่าเป็นช่องว่างที่อธิบายไม่ได้ชัดเจน


    ที่นั่นเป็นราตรีกาลอันมืดมิดสำหรับบุรุษผู้นี้ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าท่านเป็นเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดฝูงแกะที่คอยติดตาม ตอนนั้นท่านมีอายุ 50 ปี ซึ่งไม่เป็นที่สนใจของเพื่อนนักบวชเยสุอิตหลายคน ท่านถูกทอดทิ้งให้ทนทุกข์อยู่ในความเงียบ ท่านมักจะพูดในภายหลังว่า “นี่เป็นเวลาแห่งวิกฤติภายในที่ยิ่งใหญ่”


    นี่เป็นเรื่องราวที่ทำไมฆอร์เค่ มาริโอ แบร์โกโญ่ จึงถูกเนรเทศมาที่ห้องนี้ บทเรียนที่แสนเจ็บปวดที่นี้ได้เปลี่ยนแปลงพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างไร


    กอร์โดบาคือเมืองใหญ่อันดับ 2 ของอาร์เจนติน่า นี่คือสถานที่ซึ่งพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบันเคยถูกเนรเทศไป ที่นั่นห่างไกลถึง 805 กิโลเมตรจากกรุงบัวโนสไอเรส นี่คือเมืองที่ใหญ่กว่าดัลลัสและใหญ่กว่าบอสตันในสหรัฐอเมริกาถึงสองเท่า

พระสันตะปาปาของประชาชน

    ประมาณ 66 ปีมาแล้วที่พระสันตะปาปาในอนาคตได้มาที่เมืองกอร์โดบาในฐานะที่เป็นนวกหน้าใหม่คณะเยสุอิต ทรงผมและเสื้อหล่อยาวของท่านดำดุจถ่านหิน ท่านอายุ 21 ปีในรูปถ่ายจากปี ค.ศ. 1958 ปีที่แบร์โกโญ่เข้าคณะเยสุอิตท่านดูมีความมั่นใจและมีความสุข คุณแม่ของท่านที่ต้องการให้ลูกชายคนโตเรียนแพทย์ดูจะไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย

    กระแสเรียกเป็นสงฆ์คาทอลิกของแบร์โกโญ่ค่อนข้างเร้นลับ ทว่ามันเข้มแข็งผิดไปจากชายหนุ่มทั่วไป เนื่องจากเป็นวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิที่กรุงบัวนอสไอเรสเมื่อท่านเดินผ่านวัดแห่งหนึ่งแล้วถูกล่อใจเหมือนปลาเห็นเหยื่อที่คันเบ็ด ชายหนุ่มอายุ 16 ปี ได้เดินเข้าในที่โปรดศีลอภัยบาปทีค่อนข้างมืด ซึ่งสงฆ์ศาสนบริกรคนหนึ่งกำลังนั่งโปรดบาป “ที่นั่นมีบางสิ่งบางอย่างที่แปลกๆ เกิดขึ้นกับตัวพ่อในการเข้าไปสารภาพบาปนั้น” พระสันตะปาปา ฟรานซิส เคยกล่าวไว้ “พ่อเองก็ไม่ทราบว่าสิ่งนั้นคืออะไร ทว่าเป็นแรงผลักดันให้เปลี่ยนแปลงชีวิตของพ่อ”

    นั่นเป็นการช็อคครั้งแรกของแบร์โกโญ่จาก “สิ่งประหลาดใจจากพระเจ้า” พระเจ้าที่รอคอยและโถมเข้าใส่จิตวิญญาณที่ไม่ทันระวังตัว ซึ่งพระองค์เรียนรู้ภายหลังว่าความประหลาดใจของพระเจ้าเป็นไปได้สองทาง 

         หลังมิสซาวันรุ่งขึ้น ผมไปตามหาคุณพ่อเยสุอิตซึ่งจำแบร์โกโญ่ได้สมัยที่ท่านอยู่ในเมืองนั้น ตึกที่ท่านเริ่มพันธกิจเยสุอิตถูกทุบทิ้งไปแล้วและมีซูเปอร์มาร์เก็ตเข้ามาแทน แต่คุณพ่ออันเดรส สวินเน่น ซึ่งอยู่ที่วัดครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ (Parroquia de la Sarada Familia) วัดคาทอลิกที่อยู่ข้างถนนตรงกันข้าม จำเรื่องราวได้ทั้งหมด

    คุณพ่ออันเดรส สวินเน่น เข้าคณะเยสุอิตหนึ่งปีก่อนแบร์โกโญ่ ตอนนี้ คุณพ่อสวินเน่นอยู่ในคณะมา 7 ทศวรรษ ท่านเป็นคนสูงสง่า ผมสีเงิน เหมือนผู้ดีที่ใจเย็น คุณพ่อสวินเน่นกล่าวว่าตัวท่านเข้าคณะเยสุอิตเพราะชอบวินัยที่เคร่งครัด  มุ่งงานธรรมทูต และชีวิตที่มีระเบียบ เวลาที่เป็นนวกมีความเข้มงวดทุกนาที “มีหมายกำหนดการ มีเครื่องแบบที่แน่นอน ท่านต้องรายงานตัวเป็นบางเวลา”

    ปกติต้องใช้เวลากว่าหนึ่งทศวรรษสำหรับเยสุอิตซึ่งรวมถึงการศึกษาวิชาปรัชญาและเทววิทยา การฝึกงานธรรมทูต และการเข้าเงียบอย่างเข้มข้น เพื่อที่จะจบการอบรม จุดประสงค์ก็เพื่อที่จะอบรมคณะนักบวชชายให้สามารถไปที่ใดก็ได้เพื่อที่จะทำพันธกิจให้สำเร็จลุล่วงไป ทั้งนี้เพื่อ “พระสิริมงคลของพระเจ้า”

    แบร์โกโญ่หวังว่าจะได้เดินทางไปยังตะวันออกไกลเฉกเช่นวีรบุรุษเยสุอิต แต่การร้องขอของท่านถูกปฏิเสธเพราะโรคปอดที่ทำให้ท่านแทบเอาตัวไม่รอด ตรงกันข้าม สนามพันธกิจของแบร์โกโญ่จะอยู่ใกล้บ้าน

(จบตอน 1 ติดตามตอน 2 ได้ในวันพรุ่งนี้)


Source


1. https://edition.cnn.com/interactive/2015/09/specials/pope-dark-night-of-the-soul/

Comments