โป๊ปชี้ “จอห์น แบ๊พทิสท์” ยังประหลาดใจที่พระเจ้าปรากฏมาด้วยความอ่อนโยน
- โป๊ป เลโอ ที่ 14 ทรงชี้ แม้แต่ “จอห์น แบ๊พทิสท์” ที่เทศน์สอนด้วยน้ำเสียงดุดันให้ทุกคนกลับใจ แต่ในความเป็นจริง พระเจ้ากลับปรากฏมาในรูปแบบ “ความอ่อนโยน” เหมือนกิ่งไม้เล็กๆ
- ทรงขอร้องประชาคมโลกช่วยเหลือพี่น้องใน “เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ที่กำลังเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างหนัก และเชิญทุกคนภาวนาเพื่อผู้ประสบภัย เพื่อครอบครัวที่โศกเศร้ากับการสูญเสีย
ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร พระวรสารประจำวันนี้เป็นเหตุการณ์ที่ จอห์น แบ๊พทิสท์ เทศน์สอนในถิ่นทุรกันดาร พร้อมประกาศให้ทุกคนกลับใจ เพราะอาณาจักรสวรรค์มาใกล้แล้ว (แม็ทธิว 3:1)
ในส่วนใจความสำคัญของสิ่งที่พระสันตะปาปาแบ่งปัน พระองค์ชี้ว่าแม้แต่ จอห์น แบ๊พทิสท์ ยังประหลาดใจที่พระเจ้าเสด็จมาในรูปแบบความอ่อนโยน ซึ่งรายละเอียดต่างๆ Pope Report สรุปมาให้ดังนี้
1. แม้แต่ “จอห์น แบ๊พทิสท์” ยังประหลาดใจในความอ่อนโยนของพระเจ้า
พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการแบ่งปันพระวรสารเกี่ยวกับ จอห์น แบ๊พทิสท์ ผู้เตรียมทางให้พระเยซู โดยชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างภาพลักษณ์ที่เคร่งขรึมกับความจริงที่อ่อนโยนของพระเจ้า
พระสันตะปาปากล่าวว่า “แน่นอนว่า ในการเทศน์สอนของจอห์น น้ำเสียงของท่านดูเคร่งขรึม อย่างไรก็ตาม ผู้คนตั้งใจฟังเพราะพวกเขาได้ยินคำวิงวอนของพระเจ้าที่กึกก้องอยู่ในถ้อยคำของท่าน ให้ใช้ชีวิตอย่างจริงจัง ให้ใช้โอกาสปัจจุบันเตรียมตัวพบกับพระเจ้า”
“จอห์นผู้นี้เองประหลาดใจในรูปแบบอาณาจักรของพระเจ้าที่ปรากฏในพระเยซูคริสต์ เพราะพระองค์มาในความอ่อนโยนและความเมตตา ประกาศกอิสยาห์เปรียบเทียบพระเยซูเป็นดั่ง ‘กิ่งอ่อน’ ภาพลักษณ์นี้มิใช่เรื่องของอำนาจหรือการทำลายล้าง แต่เป็นการกำเนิดและความใหม่ บนกิ่งอ่อนซึ่งแตกหน่อออกมาจากตอไม้ที่ดูเหมือนตายแล้ว พระจิตเริ่มพัดพาของขวัญของพระองค์อย่างอ่อนโยน”
“พระเจ้ามักทำให้เราประหลาดใจเสมอด้วยวิธีที่อ่อนโยนและคาดไม่ถึงแบบนี้ในชีวิตของเราเช่นกัน” พระสันตะปาปา ทรงสรุปข้อคิดจากพระวรสาร
2. ครบ 60 ปี สังคายนาวาติกัน ที่ 2 กับ “ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าทำไม่ได้”
พระสันตะปาปาทรงเชื่อมโยงภาพลักษณ์ของ “กิ่งอ่อน” ไปสู่เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของศาสนจักร นั่นคือ สังคายนาวาติกัน ที่ 2
“สิ่งนี้เช่นกันคือสิ่งที่ศาสนจักรได้สัมผัสในการประชุมสังคายนาวาติกันที่ 2 ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อ 60 ปีก่อนพอดี เมื่ออาณาจักรบรรลุผล แม้แต่สิ่งเหล่านั้นที่โดยประสามนุษย์แล้วจะเป็นไปไม่ได้ ก็จะถูกนำไปสู่ความสมบูรณ์”
พระสันตะปาปาทรงยกคำทำนายของประกาศกอิสยาห์ที่ว่า “สุนัขป่าจะอยู่กับลูกแกะ เสือดาวจะนอนอยู่กับลูกแพะ และเด็กเล็กๆ จะนำทางสัตว์เหล่านั้น” มาเพื่อย้ำเตือนว่า “โลกต้องการความหวังนี้มากเพียงใด ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้ พระเยซูชาวนาซาเร็ธ จะนำทางเรา ... นี่คือจิตวิญญาณของเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ แสงไฟตามท้องถนนเตือนใจเราว่าเราแต่ละคนสามารถเป็นแสงสว่างดวงเล็กๆ ได้ หากเราต้อนรับพระเยซู กิ่งอ่อนแห่งโลกใหม่” พระสันตะปาปาทรงย้ำ
3. บทสรุปเยือนตุรกี-เลบานอนก็คือ “สันติภาพเป็นไปได้เสมอ”
หลังการภาวนาจบลง พระสันตะปาปาทรงกล่าวถึงการเยือนตุรกี-เลบานอน ทั้งการพบอัครบิดรบาร์โธโลมิวที่ตุรกี และการพบปะผู้คนต่างศาสนาที่เลบานอน
“ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ สอนเราว่า สันติภาพนั้นเป็นไปได้ และคริสตชนที่เสวนากับพี่น้องต่างศาสนาและต่างวัฒนธรรม สามารถช่วยสร้างสันติภาพขึ้นมาได้ อย่าลืมว่าสันติภาพนั้นเป็นไปได้” พระสันตะปาปา ทรงยืนยัน
4. วอนโลกช่วย “เอเชียใต้และอาเซียน” ฝ่าวิกฤตภัยพิบัติ
สุดท้าย พระสันตะปาปาตรัสถึงสถานการณ์ภัยธรรมชาติรุนแรงในภูมิภาคเอเชีย
“พ่อขอแสดงความใกล้ชิดกับประชาชนในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ซึ่งถูกทดสอบอย่างหนักจากภัยพิบัติทางธรรมชาติเมื่อเร็วๆ นี้ พ่อภาวนาเพื่อผู้ประสบภัย เพื่อครอบครัวที่โศกเศร้ากับการสูญเสีย และเพื่อผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ พ่อขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศและผู้ที่มีเจตนาดีทุกคน สนับสนุนพี่น้องชายหญิงของเราในภูมิภาคเหล่านั้นด้วยท่าทีแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย
Source:
- https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/angelus/2025/documents/20251207-angelus.html

Comments
Post a Comment