โป๊ปเตือนสติโรมันคูเรีย “จงระวังความแตกแยกในศาสนจักร อย่าใส่หน้ากากเข้าหากัน”

  • โป๊ป เลโอ ที่ 14 เตือนสติ บรรดาคาร์ดินัล สงฆ์ นักบวช และฆราวาสที่ทำงานในโรมันคูเรีย “จงระวังความแตกแยกในศาสนจักร” เฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำงานเกี่ยวกับความเชื่อ พิธีกรรม ศีลธรรม ต้องระวังการตกเป็นเหยื่อของความแข็งกระด้างหรืออุดมการณ์ต่างๆ 
  • ทรงย้ำ จงมองคนอื่นเป็นเพื่อนพี่น้อง อย่าใส่หน้ากากเข้าหากัน จงระวังการล่อลวงว่าเราต้องเด่นดัง ใช้อำนาจในทางที่ผิด และสนใจแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว 
  • ทรงระลึกถึงและยกย่อง “โป๊ปฟรานซิส” เป็นผู้นำที่ตัวพระองค์รักเป็นอันดับต้นๆ นี่คือคนที่สอนเราทุกคนให้นำความเมตตาของพระเจ้ากลับมาเป็นศูนย์กลาง



ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงต้อนรับบรรดาคาร์ดินัลและหัวหน้าสมณกระทรวงต่างๆ ของโรมันคูเรีย ที่มาเข้าเฝ้าเพื่อถวายพรโอกาสวันคริสต์มาส โดยนี่เป็นคริสต์มาสแรกในสมณสมัยของพระสันตะปาปาจากคณะออกัสติเนี่ยนอีกด้วย


สำหรับพระดำรัสสิ่งที่พระสันตะปาปาตรัสกับทุกคน Pope Report สรุปประเด็นสำคัญมาให้ดังนี้


1. รำลึกถึง “โป๊ปฟรานซิส” ผู้ล่วงลับ


พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการกล่าวรำลึกถึง พระสันตะปาปา ฟรานซิส ผู้ล่วงลับไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยทรงยกย่องบทบาทและมรดกที่พระองค์มอบไว้ให้ศาสนจักร


“พ่อปรารถนาที่จะระลึกถึง พระสันตะปาปา ฟรานซิส ผู้นำที่รักของพ่อเป็นอันดับแรก ผู้ซึ่งในปีนี้ท่านได้สิ้นสุดชีวิตบนโลกนี้ เสียงแห่งการเป็นประกาศก รูปแบบการอภิบาล และคำสอนอันล้ำค่าของพระองค์ ได้กำหนดเส้นทางของศาสนจักรในช่วงหลายปีมานี้ โดยสนับสนุนให้เรานำความเมตตาของพระเจ้ากลับมาเป็นศูนย์กลาง”


พระสันตะปาปา เลโอ ยังทรงอ้างอิงถึงสมณสาส์น “ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร” (Evangelii Gaudium) ของพระสันตะปาปา ฟรานซิส เพื่อย้ำเตือนให้ศาสนจักรต้องเป็น “ผู้ประกาศข่าวดี” และ “ก้าวออกไปหาผู้คน” อีกด้วย


2. เตือนสติเรื่อง “ความแตกแยกในศาสนจักร”


จากนั้น พระสันตะปาปาทรงเตือนบรรดาคาร์ดินัลและสงฆ์ผู้ทำงานในคูเรียให้ระวังภัยเงียบที่ทำลายความเป็นหนึ่งเดียว


“บางครั้ง ภายใต้ความสงบสุขที่เห็นภายนอก ปีศาจแห่งความแตกแยกกำลังปั่นป่วน และสิ่งเหล่านี้ทำให้เราตกอยู่ในการทดลองที่จะแกว่งไปมาระหว่างสองขั้วตรงข้าม นั่นคือ การทำให้ทุกอย่างเหมือนกันโดยไม่เห็นคุณค่าของความแตกต่าง”


“หรือในทางตรงกันข้าม การทำให้ความหลากหลายและมุมมองต่างๆรุนแรงขึ้น แทนที่จะแสวงหาความเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้น ในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ในหน่วยงานและในบทบาทต่างๆ หรือในการจัดการกับประเด็นที่เกี่ยวกับความเชื่อ พิธีกรรม ศีลธรรม หรืออื่นๆ มีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของความแข็งกระด้างหรืออุดมการณ์ พร้อมกับการเผชิญหน้าที่ตามมา” พระสันตะปาปา ตรัสเตือนสติ 


3. คูเรียต้อง “ไม่ใส่หน้ากากเข้าหากัน”


พระสันตะปาปาทรงตั้งคำถามที่ท้าทายกับผู้ทำงานในวาติกันว่า “เป็นไปได้ไหมที่จะเป็นเพื่อนกันในโรมันคูเรีย”


“ความขมขื่นบางครั้งก็เกิดขึ้น เมื่อเราเห็นว่าเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับการใช้อำนาจ ความกระหายที่จะเป็นที่หนึ่งหรือเป็นใหญ่ หรือการดูแลผลประโยชน์ตัวเอง แทบไม่เปลี่ยนเลย บนความเหนื่อยล้าประจำวัน มันช่างสวยงามเมื่อเราพบเพื่อนที่ไว้ใจได้ เมื่อหน้ากากและเล่ห์เหลี่ยมหลุดออกไป เมื่อผู้คนไม่ถูกข้ามหน้าข้ามตา”


พระองค์ทรงยกคำสอนของ นักบุญออกัสติน ที่ว่า “ไม่มีสิ่งใดเป็นที่รักของมนุษย์หากปราศจากเพื่อน” มาเตือนใจให้ทุกคนสร้างมิตรภาพที่แท้จริง


4. ศาสนจักรไม่ใช่ “คนสวน” ที่ดูแลแค่ผลของตัวเอง


ช่วงท้าย พระสันตะปาปาย้ำถึงพันธกิจของศาสนจักรในโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง โดยอ้างถึงสมณสาส์น “การประกาศข่าวดี” (Evangelii Nuntiandi) ของ นักบุญเปาโล ที่ 6 ที่ประกาศในวันสมโภช แม่พระผู้ปฏิสนธินิรมล


“เราไม่ใช่คนสวนตัวเล็กๆ ที่มุ่งแต่ดูแลสวนผลไม้ของตัวเอง แต่เราเป็นศิษย์และพยานแห่งอาณาจักรของพระเจ้า ขอให้เราจดจำสิ่งนี้ไว้ แม้ในการรับใช้ในคูเรีย งานของแต่ละคนมีความสำคัญต่อส่วนรวม และการเป็นพยานถึงชีวิตคริสตชน คือบริการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เรามอบให้ได้” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย


Source:


- https://press.vatican.va/content/salastampa/it/bollettino/pubblico/2025/12/22/1007/01829.html

Comments