โป๊ปเชิญคริสตชนทุกนิกายมุ่งหน้า ปีปีติมหาการุณย์แห่งการไถ่กู้ (Jubilee of Redemption) ค.ศ. 2033

  • โป๊ป เลโอ ที่ 14 เริ่มพันธกิจวันที่ 3 ในทูร์เคีย ด้วยการเยือน “มัสยิดสีน้ำเงิน” ในอิสตันบูล ตามรอย “โป๊ปฟรานซิส” และ “โป๊ป เบเนดิกต์ ที่ 16”
  • ทรงสวมกอด “อัครบิดรบาร์โธโลมิว” ผู้นำศาสนจักรออโธด็อกซ์แห่งคอนสแตนติโนเปิ้ล ณ อาสวิหารนักบุญจอร์จ พร้อมย้ำ “ข้าพเจ้ากำลังเดินตามรอยเท้าของโป๊ปฟรานซิส ผู้เป็นมิตรที่รักของอัครบิดรเสมอมา”
  • ทรงประชุมผู้นำคริสตชนทั่วโลก ณ วัดใหม่แห่งแรกในยุคสาธารณรัฐทูร์เคีย (Mor Ephrem) เชิญชวนทุกคนมุ่งหน้าสู่ “กรุงเยรูซาเล็ม” เพื่อฉลองปีปีติมหาการุณย์แห่งการไถ่กู้ ในปี 2033



เช้าวันเสาร์ที่ 3 ของการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรก สมเด็จพระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงปฏิบัติภารกิจสำคัญในกรุงอิสตันบูล ท่ามกลางบรรยากาศแห่งมิตรภาพระหว่างศาสนาและการสานต่อพันธกิจจากพระสันตะปาปาองค์ก่อนๆ


Pope Report สรุปเหตุการณ์สำคัญที่น่าประทับใจมาให้ดังนี้


1. “ความเงียบ” ในมัสยิดสีน้ำเงิน ที่แตกต่างจากโป๊ปองค์ก่อนๆ


พระสันตะปาปาเริ่มต้นวันที่สามด้วยการเยือน “มัสยิดสุลต่านอาห์เหม็ด” หรือ “มัสยิดสีน้ำเงิน” (Blue Mosque) ซึ่งสร้างเสร็จใน ค.ศ. 1617


วาติกันระบุว่า พระสันตะปาปาถอดรองเท้าและเดินเยี่ยมชมด้วย “ความเงียบ จิตใจที่รำพึงภาวนา และความเคารพอย่างสูงต่อสถานที่และความศรัทธาของพี่น้องมุสลิม” การเยือนครั้งนี้ทำให้พระองค์เป็นพระสันตะปาปาองค์ที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่มาเยือนที่นี่ ต่อจาก สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส (2014) และ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 (2006)


อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 และ พระสันตะปาปา ฟรานซิส เคยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการถอดรองเท้าและ “ยืนสงบนิ่งภาวนา” หันหน้าไปทางนครเมกกะ ร่วมกับอิหม่าม เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียว


แต่สำหรับพระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 พระองค์ถอดรองเท้าเดินชมความงามของมัสยิดด้วยความเคารพ แต่เมื่อผู้นำชมถามว่า “ท่านต้องการหยุดภาวนาไหม” พระองค์ทรงตอบปฏิเสธอย่างสุภาพว่า “ขอเดินชมต่อดีกว่า” ซึ่งต่อมา วาติกันได้ออกแถลงอย่างที่รายงานไปว่า “เป็นการเยี่ยมชมด้วยจิตใจที่ภาวนา”


2. เดินตามรอยเท้า “โป๊ปฟรานซิส” ณ อาสวิหารนักบุญจอร์จ


จากนั้น พระสันตะปาปาเสด็จไปยัง อาสวิหารอัครบิดรแห่งนักบุญจอร์จ (Patriarchal Church of Saint George) เพื่อร่วมพิธีภาวนา (Doxology) กับ อัครบิดร บาร์โธโลมิว ที่ 1 แห่งคอนสแตนติโนเปิ้ล ผู้นำศาสนจักรออร์โธดอกซ์แห่งคอนสแตนติโนเปิ้ล


โอกาสนี้ พระสันตะปาปาชาวอเมริกันได้ตรัสถึงความรู้สึกตื้นตันใจที่ได้สานต่อสายใยแห่งมิตรภาพที่พระสันตะปาปาองค์ก่อนๆ ได้สร้างไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส”


“เมื่อก้าวเข้ามาในวัดนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกตื้นตันใจมาก โดยระลึกเสมอว่าข้าพเจ้ากำลังเดินตามรอยเท้าของสมเด็จพระสันตะปาปา เปาโล ที่ 6, สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2, สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 และ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส”


ทางด้านอัครบิดร บาร์โธโลมิว ที่ 1 ได้กล่าวกับพระสันตะปาปาว่า “พระสันตะปาปา ฟรานซิส ต้องการมาร่วมฉลอง 1,700 ปีของสังคายนานิเชยา แต่ท่านสิ้นใจก่อน และท่าน(พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14) ก็ได้สานต่อความฝันของพระองค์”


ทั้งพระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 และ อัครบิดร บาร์โธโลมิว ที่ 1 ได้ลงนามในปฏิญญาร่วมเพื่อยืนยันพันธกิจร่วมกันในการสร้างเอกภาพและสันติภาพ สานต่อสิ่งที่พระสันตะปาปา ฟรานซิส และ อัยกาบาร์โธโลมิวเคยทำร่วมกันมาอย่างยาวนานด้วย


3. มุ่งหน้าสู่ “กรุงเยรูซาเล็ม 2033” (ปีปีติมหาการุณย์แห่งการไถ่กู้)

 

ช่วงบ่าย พระสันตะปาปาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำคริสตชน ณ วัดซีเรียออร์โธด็อกซ์ มอร์ เอฟเรม วัดคริสต์แห่งแรกที่สร้างขึ้นใหม่ในทูร์เคียนับตั้งแต่ค.ศ. 1924


พระสันตะปาปาย้ำถึงความสำคัญของการประกาศข่าวดี (Kerygma) เพราะความแตกแยกของคริสตชนคืออุปสรรคใหญ่ และโอกาสนี้ พระองค์ได้เชิญชวนผู้นำทุกนิกายให้มองไปข้างหน้าด้วยกัน สู่เป้าหมายสำคัญคือ “ปีปีติมหาการุณย์แห่งการไถ่กู้” (Jubilee of Redemption) ในค.ศ. 2033 ซึ่งจะครบรอบ 2,000 ปี การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระเยซู


“ขอให้เราออกเดินทางร่วมกัน เพื่อกลับไปยังกรุงเยรูซาเล็ม กลับไปยัง ‘ห้องชั้นบน’ (Upper Room) ที่ซึ่งพระเยซูล้างเท้าอัครสาวกและส่งพระจิตเจ้าลงมา” พระสันตะปาปาตรัสอย่างหนักแน่น


Sources:


1. https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/travels/2025/documents/20251129-dichiarazione-congiunta.html


2. https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/speeches/2025/november/documents/20251129-turchia-doxologia.html 


Comments