โป๊ป ชี้ ความเป็นพี่น้องกันคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของยุคนี้ เพราะแม้แต่พี่น้องแท้ๆ ยังเกลียดกันได้

  • โป๊ป เลโอ ที่ 14 ทรงชี้ ความเป็นพี่น้องกันคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของยุคนี้ เพราะแม้แต่พี่น้องแท้ๆ ก็ยังเกลียดกันได้
  • ทรงยกคำพูดของ “นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี” และ “โป๊ปฟรานซิส” ที่อยู่ในสมณสาส์น Fratelli Tutti มาสอนว่า ความเป็นพี่น้องกันแบบคริสตชนต้องเป็นเหมารวมทุกคน ไม่ใช่แค่ในครอบครัวหรือพวกพ้องของตน
  • ทรงอธิบาย บรรดาศิษย์พระเยซูกลายเป็นพี่น้องกันอย่างสมบูรณ์ ไม่ใช่ตอนที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ แต่เป็นตอนที่พวกเขาจำพระเยซู ผู้กลับคืนชีพจากความตาย ได้ต่างหาก







ช่วงเช้าวันพุธที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงออกมาพบปะและสอนคำสอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยหัวข้อการสอนคำสอนวันนี้คือ “จิตตารมณ์ปาสกาขับเคลื่อนความเป็นพี่น้องกัน”


สำหรับใจความสำคัญของบทสอน Pope Report เรียบเรียงมาให้ดังนี้


1. ความเป็นพี่น้องกันคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แม้อยู่ในครอบครัว


พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการยอมรับว่า “ความเป็นพี่น้องกัน” (Fraternity) คือหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติยุคนี้ ดังที่พระสันตะปาปา ฟรานซิส ได้มองเห็นอย่างชัดเจน


“แม้มนุษย์จะถูกสร้างมาเพื่อมีความสัมพันธ์ แต่เราก็ถูกครอบงำด้วย ‘ความเหงา’ และ ‘การหลงตัวเอง’ ที่มองผู้อื่นเป็นเพียงสิ่งของที่เราจะตักตวงผลประโยชน์”


พระสันตะปาปาชี้ให้เห็นจุดที่อันตรายที่สุดว่า “บ่อยครั้ง เราคิดว่าบทบาทของพี่ชาย น้องสาว หมายถึงความเป็นญาติ ... ในความเป็นจริง เรารู้ดีว่าความไม่ลงรอยกัน ความแตกแยก และบางครั้งความเกลียดชัง สามารถทำลายล้างแม้กระทั่งความสัมพันธ์ระหว่างญาติพี่น้องได้ ไม่ใช่แค่ระหว่างคนแปลกหน้า … นี่คือหลักฐานที่แสดงว่า เราจำเป็นต้องไปให้ถึงแหล่งที่มาที่ลึกซึงกว่าสายเลือด” 


2. บทบัญญัติของพระเยซู - นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี - โป๊ปฟรานซิส “จงรักกัน ทุกคนเป็นพี่น้องกัน”


พระสันตะปาปาทรงย้ำว่า “ความเป็นพี่น้องกันไม่ใช่ความฝันที่สวยงามแต่เป็นไปไม่ได้ แต่เราต้องไปให้ถึงแหล่งที่มา นั่นคือ พระเยซูคริสต์”


“นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี ทักทายทุกคนว่า omnes fratres (ออมเนส ฟราเตรส แปลว่า “พี่น้องทั้งหลาย”) โดยไม่คำนึงถึงศาสนาหรือวัฒนธรรม และนี่คือสิ่งที่ โป๊ปฟรานซิส นำมาขยายความในสมณสาส์น Fratelli tutti (ฟราเตลลี่ ตุดติ แปลว่า “ทุกคนเป็นพี่น้องกัน”)


“ความเป็นพี่น้องกันตั้งอยู่บนบทบัญญัติของพระเยซู ซึ่งเป็นสิ่งใหม่เพราะพระองค์ทรงทำให้สำเร็จด้วยพระองค์เอง …​  เราจึงสามารถรักกันและกันและมอบชีวิตของเราเพื่อผู้อื่นได้ ในฐานะพี่น้องที่แท้จริงในพระเยซูคริสต์ ดังที่พระองค์ตรัสว่า ‘จงรักกันและกันดังที่เรารักท่าน’ (จอห์น 15:12)”


3. การกลับคืนชีพของพระเยซูทำให้เราเป็นพี่น้องกันอย่างสมบูรณ์แบบ 


พระสันตะปาปาอธิบายว่า “จิตตารมณ์ปาสกา” ซึ่งก็คือการกลับคืนชีพของพระเยซู ถือเป็นกุญแจสำคัญอย่างไร


“พระเยซูทรงรักเราจนถึงที่สุด (จอห์น 13:1) แต่จุดที่บรรดาศิษย์กลายเป็นพี่น้องกันอย่างสมบูรณ์ ไม่ใช่ตอนที่พวกเขาเห็นพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน แต่เหนือสิ่งอื่นใด (พวกเขาเป็นพี่น้องกัน) เมื่อพวกเขาจำพระองค์ได้ในฐานะผู้กลับคืนชีพจากความตาย พวกเขาได้รับของขวัญจากพระจิต และกลายเป็นประจักษ์พยานถึงพระองค์”


ตอนท้าย พระสันตะปาปาทรงสรุปว่า “ความเป็นพี่น้องกันที่พระเยซูคริสต์มอบให้เรา ได้ปลดปล่อยเราจากตรรกะเชิงลบของความเห็นแก่ตัว ความแตกแยก และความเย่อหยิ่ง พระองค์แสดงให้เราเห็นถึงหนทางที่จะเดินร่วมทางไปกับพระองค์ และสร้างความรู้สึกเป็นพี่น้องกันทั้งทุกคน”


Source:


- https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/audiences/2025/documents/20251112-udienza-generale.html 

Comments