โป๊ปสอน “ทุกวันคือปาสกา พระเยซูอยู่กับเราทุกวัน เหมือนที่สัญญา ‘เราอยู่กับท่านเสมอไป จนกว่าจะสิ้นพิภพ’”

• โป๊ป เลโอ ที่ 14 ทรงสอน ทุกวันคือ “ปาสกา” พระเยซูอยู่กับเราทุกวัน เหมือนที่พระองค์สัญญาว่า “เราอยู่กับท่านเสมอไป จนกว่าจะสิ้นพิภพ”

• ทรงย้ำ การประกาศปาสกาคือชัยชนะของความรักเหนือความตาย และเป็นคำตอบเดียวที่สามารถสยบความกระหายความหมายในใจมนุษย์ได้

• ทรงขอร้องนานาชาติ อย่าทอดทิ้ง “ประชาชนชาวเมียนมาร์” ที่กำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบากในประเทศ

ช่วงสายวันพุธที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ ลานมหาวิหารนักบุญเปโตร พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงออกมาพบปะและสอนคำสอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป ในบทสอนคำสอนวันนี้ พระองค์ทรงแบ่งปันข้อไตร่ตรองที่ลึกซึ้งที่สุดในหัวข้อ "ปาสกาให้ความหวังแก่ชีวิตประจำวัน"

พระสันตะปาปาทรงย้ำว่าการกลับคืนพระชนม์ของพระเยซูไม่ใช่เพียงเรื่องราวในอดีต แต่เป็นเหตุการณ์ที่เป็นจริงและเกิดขึ้นในปัจจุบัน

Pope Report เรียบเรียงใจความสำคัญจากบทสอนคำสอนของพระองค์มาให้ดังนี้

1. ทุกวันคือวันปาสกา นี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นและจบไปแล้ว

พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการอธิบายว่า ปาสกาของพระเยซูไม่ใช่เหตุการณ์ที่จบไปแล้ว แต่ศาสนจักรสอนเราให้ระลึกถึงอย่างมีชีวิตชีวาทุกปี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทุกๆ วันระหว่างพิธีมิสซา

พระสันตะปาปาชี้ว่า “ในพิธีบูชาขอบพระคุณ คำสัญญาของพระเจ้าผู้กลับคืนชีพได้สำเร็จอย่างบริบูรณ์ที่สุด ตามที่พระองค์ตรัสว่า ‘เราอยู่กับท่านเสมอไป จนกว่าจะสิ้นพิภพ’ (แม็ทธิว 28:20)”

“ด้วยเหตุนี้ ธรรมล้ำลึกปาสกาจึงเป็นเสาหลักของชีวิตคริสตชน ... เราจึงสามารถกล่าวได้ว่า นี่คือข้อเท็จจริง ไม่ใช่การพูดเพื่อเอาใจใคร หรือการพูดแบบซาบซึ้ง แต่เราสามารถพูดได้ว่า ทุกวันคือวันปาสกา” 

2. ปาสกาคือคำตอบเดียวที่มนุษย์โหยหา

พระสันตะปาปาทรงอธิบายว่า ในแต่ละวันเราเผชิญทั้งความเจ็บปวด ความทุกข์ และความเศร้าโศก แต่ลึกๆ แล้วหัวใจมนุษย์ยังคงปรารถนาความบริบูรณ์และความสุขที่แท้จริง

“การประกาศปาสกาเป็นข่าวที่งดงามที่สุด ชื่นชมยินดีที่สุด และท่วมท้นที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ ... ซึ่งเป็นพยานถึงชัยชนะของความรักเหนือบาปและของชีวิตเหนือความตาย และนี่คือเหตุผลว่าทำไมมันจึงเป็นสิ่งเดียวที่สามารถตอบสนองความต้องการความหมายที่รบกวนจิตใจและหัวใจของเราได้” พระสันตะปาปาทรงสอน

3. ความหวังปาสกาไม่ทำให้ผิดหวัง

พระสันตะปาปาย้ำอีกว่า การกลับคืนชีพของพระเยซูไม่ใช่แนวคิดหรือทฤษฎี “นี่เป็นเหตุการณ์ที่เป็นรากฐานของความเชื่อ เมื่อเราเผชิญกับความสับสน ความชั่วร้าย หรือความตาย พระเยซูผู้กลับคืนชีพคือดาวนำทางที่เราสามารถใช้กำหนดทิศทางชีวิตที่ดูเหมือนวุ่นวายของเราได้เสมอ”

“ด้วยมุมมองนี้ ‘Via Crucis’ หรือหนทางแห่งกางเขน ได้รับการแปรเปลี่ยนไปสู่ ‘Via Lucis’ หรือทางแห่งแสงสว่าง … ปาสกาไม่ได้ลบล้างไม้กางเขน แต่เอาชนะมันในศึกอัศจรรย์ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์มนุษย์ไปตลอดกาล”

ช่วงท้าย พระสันตะปาปาทรงสรุปว่า “ความหวังปาสกาไม่ทำให้ผิดหวัง การเชื่อในปาสกาอย่างแท้จริงหมายถึงการปฏิวัติชีวิตของเรา การเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงโลกด้วยพลังที่อ่อนโยนและกล้าหาญของความหวังคริสตชน”

4. ทรงภาวนาเพื่อสันติภาพ และวอน “อย่าลืมเมียนมาร์”

หลังจบการสอนคำสอน พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงหันมากล่าวถึงผู้ที่กำลังทนทุกข์จากสงครามทั่วโลก พระองค์ตรัสเชิญชวนทุกคนให้ร่วมภาวนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชาชนชาวเมียนมาร์

“พ่อขอร้องทุกคน วอนขอให้ประชาคมโลก อย่าลืมประชาชนชาวเมียนมาร์ และโปรดให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นแก่พวกเขาด้วย” พระสันตะปาปา ตรัสย้ำ

Source:

- https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/audiences/2025/documents/20251105-udienza-generale.html