โป๊ปสอน “ความศักดิ์สิทธิ์เสียงดังกว่าปาฏิหาริย์” และ “เราต้องสร้างสะพานเชื่อมคนในคาทอลิกด้วยกัน เชื่อมคริสตชนต่างนิกาย และเชื่อมพี่น้องต่างศาสนา”

  • โป๊ป เลโอ ที่ 14 ถวายมิสซาเริ่มเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสต์ พร้อมยกคำสอนนักบุญจอห์น คริสซอสตอม มาเตือนใจ อย่ามัวแต่รอปาฏิหาริย์ เพราะชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์มีพลังดึงดูดใจมากกว่า
  • ทรงชี้ไปที่ “สะพานบอสฟอรัส” สัญลักษณ์ของทูร์เคีย เพื่อสอนว่า คริสตชนต้องเป็นวิศวกรสร้าง “สะพาน 3 สาย” เชื่อมคนในคาทอลิกด้วยกัน เชื่อมคริสตชนต่างนิกาย และเชื่อมพี่น้องต่างศาสนา



ช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2025 สมเด็จพระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ได้เสด็จไปยังโฟล์คสวาเกน อารีน่า นครอิสตันบูล เพื่อถวายมิสซาร่วมกับชุมชนคาทอลิกในทูร์เคีย โอกาสวันฉลองนักบุญแอนดรูว์ และเป็นวันเริ่มต้นเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสต์


สำหรับใจความสำคัญของบทเทศน์ Pope Report เรียบเรียงมาให้ดังนี้


1. เลิกหวังพึ่งปาฏิหารย์ แต่จงทำชีวิตให้ศักดิ์สิทธิ์


พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการดึงสติคริสตชนที่มักไขว่คว้าหาเรื่องปาฏิหารย์ โดยพระองค์ยกคำสอนของ นักบุญจอห์น คริสซอสตอม (ผู้ยิ่งใหญ่แห่งศาสนจักรตะวันออก) มาตรัสสอนทุกคน


พระสันตะปาปาตรัสว่า “เสน่ห์ดึงดูดของความศักดิ์สิทธิ์ เป็นเครื่องหมายที่พูดได้ชัดเจนและเสียงดังยิ่งกว่าปาฏิหาริย์มากมาย เพราะปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแล้วก็ผ่านไป แต่ชีวิตคริสตชนยังคงอยู่และเสริมสร้างจิตใจผู้คนได้อย่างต่อเนื่อง”


“หากอยากช่วยเหลือผู้อื่นจริงๆ อย่ามัวแต่รอพระเจ้าทำสิ่งมหัศจรรย์ แต่ให้เริ่มที่การเฝ้าระวังตัวเราเอง บ่มเพาะความเชื่อผ่านการภาวนาและศีลศักดิ์สิทธิ์ และสวมเกราะแห่งความสว่างเพื่อต่อสู้กับกิจการแห่งความมืดในใจตน” พระสันตะปาปา ตรัสสอน


2. จงสร้างสะพานเชื่อมคาทอลิกด้วยกัน เชื่อมพี่น้องคริสตชนต่างนิกาย และเชื่อมพี่น้องที่ไม่ใช่คริสตชน


ในดินแดนที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเอเชียและยุโรป พระสันตะปาปาได้หยิบยกภาพของ “สะพานข้ามช่องแคบบอสฟอรัส” มาเป็นแกนหลักของบทเทศน์ 


“แม้สะพานเหล่านี้จะดูยิ่งใหญ่อลังการ แต่เมื่อเทียบกับแผ่นดินสองฝั่งที่มันเชื่อมโยง สะพานกลับดูเล็กและเปราะบาง ชีวิตคริสตชนก็เช่นกัน เราเป็นเพียงจุดเชื่อมต่อเล็กๆ ที่เปราะบาง แต่จำเป็นต้องดำรงอยู่ พระเจ้าจึงมอบการบ้านให้คริสตชนช่วยกันสร้างและซ่อมบำรุงสะพานแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน 3 สาย”


“สะพานสายแรกคือความเป็นหนึ่งเดียวในศาสนจักรคาทอลิกท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วย 4 จารีตที่แตกต่างกัน (ลาติน, อาร์เมเนียน, คัลเดี้ยน และซีเรี่ยน) การแบ่งปันความแตกต่างเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงใบหน้าเจ้าสาวของพระคริสต์ที่งดงามที่สุด นั่นคือความเป็นสากลที่รวมทุกสิ่งเป็นหนึ่ง ความเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นงานที่เราต้องดูแลรักษาให้รากฐานมั่นคงเสมอ”

“สะพานสายที่สองคือ คริสตศาสนสัมพันธ์ ดังที่การรวมตัวกันที่เมืองนิเชยา (อิซนิก) เมื่อวันก่อน ความเชื่อในพระเยซูพระผู้ไถ่ ไม่ได้เป็นสมบัติของคาทอลิกเพียงผู้เดียว แต่เป็นของพี่น้องคริสเตียนทุกนิกาย วันนี้ เราขอรื้อฟื้นคำว่า ‘ใช่’ ของเราต่อความเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อให้พวกเขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (Ut unum sint)”


“สะพานสายสุดท้ายคือความสัมพันธ์กับพี่น้องที่ไม่ใช่คริสตชน  … เราอาศัยอยู่ในโลกที่ศาสนาถูกใช้ ‘บ่อยเกินไป’ เพื่อเป็นข้ออ้างในการทำสงครามและความโหดร้าย … สังคายนาวาติกันที่ 2 เตือนใจเราว่า ‘ผู้ใดที่ไม่รัก ก็ไม่รู้จักพระเจ้า’ พ่อจึงขอเรียกร้องทุกคนทลายกำแพงแห่งอคติและความไม่ไว้วางใจ เพื่อเป็นผู้สร้างสันติที่แท้จริง” พระสันตะปาปา ตรัสอย่างหนักแน่น


Source:


- https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/homilies/2025/documents/20251129-messa-istanbul.html 


Comments