โป๊ปเตือนสติ อย่ามอง “พี่น้องเป็นคู่แข่งหรือภัยคุกคาม” เด็ดขาด

  • โป๊ป เลโอ ที่ 14 เตือนสติ อย่ามอง “พี่น้องเป็นคู่แข่งหรือภัยคุกคาม” เหมือน “กาอิน” ที่ทำกับ “อาเบล” น้องชายแท้ๆของตน
  • ทรงกระตุ้นคริสตชน อย่ากลัวการสร้างครอบครัวหรือการมีลูก เพียงเพราะกลัวว่าลูกเกิดมาแล้วจะลำบากหรือต้องพบความผิดหวัง ถ้าคิดแบบนั้น มันคือการยอมจำนนต่อโชคชะตาและมองโลกแง่ร้าย พระเจ้ารักเรา ดังนั้น เราต้องกล้าส่งต่อความรักของพระองค์ให้ลูกหลานของเรา
  • ทรงย้ำ “ชีวิตต้องมีความหวัง” เพราะถ้าใช้ชีวิตแบบไม่มีความหวัง ชีวิตจะเป็นแค่ “ช่วงคั่นกลางระหว่างความมืดมิดก่อนเกิดและความตายเท่านั้น”



ช่วงสายวันพุธที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนสัตบุรุษในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร หัวข้อการสอนคำสอนประจำวันนี้คือ “ความหวังและการสร้างชีวิต” 


Pope Report เรียบเรียงใจความสำคัญของบทสอนมาให้ทุกคนติดตามกันดังนี้


1. ถ้าไร้ความหวัง ชีวิตก็เป็นแค่ “ทางผ่านที่ไร้ความหมาย”


พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการบอกว่า สำหรับหลายคน ชีวิตในโลกยุคนี้มันเหนื่อยและเจ็บปวด แต่พระองค์ย้ำว่า “ชีวิตคือของขวัญ” ที่เราไม่ได้ขอมา แต่ได้รับมาฟรีๆ ดังนั้นเราต้องดูแลมันให้ดี


พระองค์เปรียบเทียบว่า “ถ้าคนเราขาดความหวัง ชีวิตก็เหมือนกับ ‘ทางผ่านสั้นๆ ที่ไร้ความหมาย’ เป็นแค่ช่วงเวลาคั่นกลางระหว่างความมืดมิดก่อนเกิดและความตายเท่านั้น แต่ถ้าเรามีความหวัง เราจะรู้ว่าการเดินทางนี้มีจุดหมาย คือการได้กลับบ้านไปหาพระบิดาผู้ทรงรักเรา และต้องการให้เรามีความสุข”


2. โรคร้ายของโลกยุคใหม่คือ “โรคไม่กล้าใช้ชีวิต”


พระสันตะปาปาทรงมองอาการป่วยของสังคมปัจจุบันว่า โลกกำลังเผชิญกับ “โรคขาดความเชื่อมั่นในชีวิต”


“คนยุคนี้มองโลกในแง่ร้าย ยอมจำนนต่อโชคชะตา และมองว่าอนาคตเป็นเหมือนภัยคุกคามที่ต้องระวังตัว จนทำให้หลายคนไม่กล้าใช้ชีวิต และที่น่าเศร้ากว่านั้นคือไม่กล้าสร้างครอบครัวหรือมีลูก เพราะกลัวว่าจะต้องผิดหวัง หรือกลัวว่าลูกจะลำบาก พ่อจึงเรียกร้องให้เรามีความกล้าหาญที่จะเป็นพยานว่าพระเจ้าทรงรักชีวิต และเราต้องกล้าที่จะส่งต่อความรักนั้น” พระสันตะปาปา ตรัสสอน


3. บทเรียนจาก “กาอิน” อย่ามองพี่น้องเป็น “คู่แข่ง”


จากนั้น พระสันตะปาปาได้เจาะลึกเนื้อหาในหนังสือปฐมกาล (4:1-16) เรื่อง “กาอินกับอาเบล” เพื่อชี้ให้เห็นมุมมืดของใจมนุษย์ 


“พระเจ้าประทานเสรีภาพให้มนุษย์ซึ่งเป็นของขวัญที่สูงสุด แต่เสรีภาพนี้กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมเมื่อมนุษย์ใช้มันผิดทาง”


“กาอิน มอง อาเบล น้องชายของตัวเองเปลี่ยนไป เขาไม่ได้มองเห็นเป็นพี่น้องอีกต่อไป แต่มองเห็นเป็น ‘คู่แข่ง’ และเป็น ‘ภัยคุกคาม’ ต่อความมั่นคงของตัวเอง ความคับข้องใจนี้รุนแรงจนทำให้เขาไม่สามารถรักและเคารพน้องชายได้อีกต่อไป จนเกิดความอิจฉา นำไปสู่การฆ่าฟันและการนองเลือดในที่สุด”


“น่าเศร้าที่โลกปัจจุบันเรากำลังเดินตามรอยเท้าของกาอิน เราใช้สัญชาตญาณมืดบอดแห่งความรุนแรง ก่อสงคราม การเหยียดเชื้อชาติ การเลือกปฏิบัติ และการกดขี่ข่มเหงพี่น้องมนุษย์ด้วยกัน เพราะเรามองกันเป็นศัตรู”


“แต่ถึงกระนั้นตรรกะของพระเจ้ากลับแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง พระองค์ไม่เคยหมดหวังในตัวมนุษย์ แม้เราจะทำตัวเหมือนคาอิน แต่พระเจ้าก็ยังไม่เหนื่อยที่จะค้ำจุนและให้โอกาสเราเสมอ” พระสันตะปาปา ทรงสอน



4. จงการช่วยกันสร้างและส่งต่อชีวิต


เพื่อแก้ปมความขัดแย้งแบบคาอินที่มองพี่น้องเป็นศัตรู พระสันตะปาปาเสนอทางออกคือ เราต้องเปลี่ยนมาเป็นผู้ “ก่อกำเนิด” แทนที่จะทำลายกัน ซึ่งพระองค์ตรัสให้คำจำกัดความสั้นๆ แต่กินใจว่า “การก่อกำเนิดหมายถึงการนำผู้อื่นมาสู่ชีวิต” 


“ภารกิจนี้เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั่นคือ การผจญภัยอันมหัศจรรย์ของความเป็นแม่และความเป็นพ่อ แม้ในบริบททางสังคมที่ครอบครัวต้องดิ้นรนแบกรับภาระของชีวิตประจำวัน และมักถูกฉุดรั้งในแผนการและความฝัน ตามตรรกะเดียวกันนี้ การก่อกำเนิดคือการมุ่งมั่นต่อระบบเศรษฐกิจที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสมานฉันท์ มุ่งมั่นเพื่อความดีส่วนรวมที่ทุกคนได้รับอย่างเท่าเทียมกัน เคารพและดูแลสิ่งสร้าง มอบความบรรเทาผ่านการรับฟัง การอยู่เคียงข้าง และความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรมและไม่เห็นแก่ตัว” พระสันตะปาปา ตรัสในช่วงท้าย


Source:


- https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/audiences/2025/documents/20251126-udienza-generale.html 


Comments