“แม่พระแห่งอากิตะ” … ไว้ครั้งหน้า จะไม่พลาด




ช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ปีนี้ ผม “อาจจะ” ไม่ได้รายงานข่าวคริสต์มาสครั้งแรกในฐานะพระสันตะปาปาของพระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 รวมถึงการปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ด้วย เพราะผมจะพาครอบครัวไปต่างประเทศ


ตอนแรก ผมมีแผนจะไปอิตาลี แต่คิดไปคิดมา ช่วงคริสต์มาสและเป็นโค้งสุดท้ายของปีศักดิ์สิทธิ์ คนน่าจะมหาศาลมากๆ ผมเลยเปลี่ยนใจไปที่อื่นแทน 


นับถึงตอนนี้ 18 พฤศจิกายน 2025 วาติกันอัพเดทว่า มีผู้มาร่วมงานปีศักดิ์สิทธิ์ที่วาติกัน เกิน 30 ล้านคน และยังหวังลึกๆภายในถึงสิ้นปี น่าจะแตะ 40 ล้านคน นั่นหมายความว่า ระยะเวลาเดือนครึ่งนับจากนี้ น่าจะมีคนไปเยือนวาติกันเกือบ 10 ล้านคนเลยทีเดียว


ข้ามไปเดือนมกราคม 2026 ผมต้องไปญี่ปุ่นกับบริษัทของผมประมาณ 6 วัน ซึ่งตามแผนจะมี “วันว่าง” อยู่ 2 วัน


เวลาไปต่างประเทศ ผมชอบไปเยี่ยมสถานที่ 2 แห่ง ได้แก่ “สนามฟุตบอล และสถานที่ประวัติศาสตร์ทางคาทอลิก” 


ตอนแรก ผมวางแผนไว้ว่า จะนั่งรถไฟความเร็วสูงจากโตเกียวไป “อากิตะ” ใช่แล้ว ผมอยากไปสักการะสถาน “แม่พระแห่งอากิตะ”


วางแผนไว้อย่างดี และส่งอีเมลไปคุยกับซิสเตอร์ที่อากิตะ แต่ซิสเตอร์ตอบมาว่า “สักการะสถาน “แม่พระแห่งอากิตะ จะปิด 1 ธันวาคม - 31 มีนาคม เพราะหิมะตกหนัก การเดินทางมาลำบากมาก” 


ความฝันนี้เลยต้องพักไว้ก่อน แต่ผมมั่นใจว่า ผมจะได้กลับมาอีกแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว … 


__________



สำหรับเรื่องราวของแม่พระประจักษ์ที่อากิตะ ผมขอเรียบเรียงให้ติดตามกันดังนี้ครับ


1.เสียงจากรูปปั้นไม้ และปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นในวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ.1973 ที่อารามคณะผู้รับใช้ศีลมหาสนิท เมืองอากิตะ ประเทศญี่ปุ่น ซิสเตอร์อักเนส คัตสึโกะ ซาซางาวะ (Sr. Agnes Katsuko Sasagawa) ซึ่งในขณะนั้นกำลังสูญเสียการได้ยินอย่างสิ้นเชิง กำลังสวดภาวนาและได้เห็นแสงสว่างจ้าออกมาจากตู้ศีลมหาสนิท

วันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ.1973 เกิดปรากฏการณ์แผลรูปไม้กางเขนที่มีเลือดไหลออกมาบนฝ่ามือข้างซ้ายของซิสเตอร์อักเนส สร้างความเจ็บปวดให้ท่านอย่างมาก


วันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ.1973 ขณะที่กำลังภาวนา ซิสเตอร์อักเนสได้ยินเสียงที่ไพเราะออกมาจากรูปปั้นแม่พระที่ทำจากไม้ ซึ่งเป็นสารครั้งแรกที่ท่านได้รับจากแม่พระ ในวันเดียวกันนั้นเอง บาดแผลก็ได้ปรากฏขึ้นบนมือขวาของรูปปั้นแม่พระและมีเลือดไหลออกมา


วันที่ 29 กันยายน ค.ศ.1973 บาดแผลบนมือของรูปปั้นแม่พระหายไป แต่หลังจากนั้นรูปปั้นก็มีเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากและลำคอ


วันที่ 4 มกราคม ค.ศ.1975 ปรากฏการณ์อัศจรรย์ได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อรูปแม่พระมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตา ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นระยะๆ รวมทั้งหมด 101 ครั้ง จนถึงวันที่ 15 กันยายน ค.ศ.1981 ซึ่งเป็นวันฉลองแม่พระระทมทุกข์


** ที่ผมอยากไปอากิตะ เพราะมันคือการครบ 50 ปี แม่พระประจักษ์ที่อากิตะ


สำหรับสารที่ซิสเตอร์อักเนสได้รับจากแม่พระ มีเนื้อหาเป็นการเตือนสติให้มนุษย์กลับใจใช้โทษบาป ให้ความสำคัญกับการสวดสายประคำ และเตือนถึงบทลงโทษที่จะมาถึงโลกหากมนุษย์ยังคงดำเนินชีวิตในบาปต่อไป


2. การรับรองจากพระศาสนจักร


แม้ว่าการประจักษ์ที่อากิตะจะยังไม่ได้รับการประกาศรับรองอย่างเป็นทางการจากวาติกัน แต่เหตุการณ์นี้ ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในระดับท้องถิ่น ซึ่งถือว่ามีความสำคัญและเพียงพอสำหรับสัตบุรุษที่จะให้ความศรัทธาได้


คาร์ดินัล โยเซฟ รัตซิงเกอร์ (พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ในเวลาต่อมา) ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสมณกระทรวงหลักความเชื่อในขณะนั้น ได้ตัดสินว่าคำประกาศของบิช็อปท้องถิ่นเรื่องการประจักษ์ว่า มีความน่าเชื่อถือและสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ ดังนั้นจึงไม่มีข้อขัดข้องใดๆ จากทางโรม


3. การสิ้นใจของซิสเตอร์อักเนส ซาซางาวะ


ซิสเตอร์อักเนส คัตสึโกะ ซาซางาวะ สิ้นใจอย่างสงบเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ.2024 ซึ่งตรงกับวันสมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ ขณะมีอายุได้ 93 ปี 


และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องของแม่พระแห่งอากิตะ ส่วนเดือนธันวาคม เดี๋ยวค่อยมาดูยนะครับว่าผมเดินทางไปไหน แต่มีสถานที่เกี่ยวกับคาทอลิกอย่างแน่นอนครับ


Comments