โป๊ปย้ำคณะเบเนดิกติน “จงเป็นหัวใจที่เต้นอยู่เสมอ จงให้พระคริสต์เป็นศูนย์กลางของพันธกิจ”
- โป๊ป เลโอ ที่ 14 ย้ำคณะเบเนดิกติน “จงเป็นหัวใจที่เต้นอยู่เสมอ” และจงให้พระคริสต์เป็นศูนย์กลางของพันธกิจต่างๆ
- ทรงสอน การจะเข้าใจธรรมล้ำลึกของพระเจ้า เราต้องยอมรับว่า ความรู้ที่ทำให้เราเข้าใจนั้นเป็น “ของขวัญ” จากพระเจ้า ไม่ได้เกิดจากความเก่งหรือความพยายามของมนุษย์
ช่วงเย็นวันอังคารที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 เสด็จไปถวายมิสซาที่วัดซานต์ อันเซลโม่ กรุงโรม โอกาสวันวันระลึกถึงนักบุญมาร์ติน เดอ ตูร์ส และเป็นการครบรอบ 125 ปีของการถวายวัดแห่งนี้ด้วย
วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตามความประสงค์ของ พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 13 เพื่อเป็นศูนย์กลางของคณะเบเนดิกติน ซึ่งเป็นคณะนักบวชที่เก่าแก่ของศาสนจักรคาทอลิก
สำหรับใจความสำคัญของบทเทศน์ประจำมิสซา Pope Report เรียบเรียงมาให้ดังนี้
1. ชีวิตนักพรตคือ “ความจริง ณ ชายขอบ” ที่สร้างประวัติศาสตร์
พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 เริ่มต้นด้วยการระลึกถึงความต้องการของพระสันตะปาปา เลโอ ที่ 13 ที่เชื่อมั่นว่าคณะนักบวชเบเนดิกตินสามารถช่วยเหลือประชากรของพระเจ้าได้ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านที่ท้าทาย
“อันที่จริง ชีวิตนักพรต (Monasticism) ตั้งแต่แรกเริ่มเป็นความจริง ณ ชายขอบ (di frontiera) ซึ่งผลักดันชายหญิงที่กล้าหาญให้ไปตั้งศูนย์กลางแห่งการภาวนา การทำงาน และความรักเมตตาในสถานที่ห่างไกลและทุรกันดารที่สุด”
“บ่อยครั้งที่เปลี่ยนแปลงพื้นที่รกร้างให้กลายเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์... ทั้งในแง่เกษตรกรรมและเศรษฐกิจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือในแง่จิตวิญญาณ … อาราม (Monastery) คือสถานที่แห่งการเติบโต สันติ การต้อนรับ และความเป็นหนึ่งเดียว แม้ในยุคที่มืดมนที่สุด” พระสันตะปาปา ตรัสแบ่งปัน
2. จงเป็น “หัวใจที่เต้นอยู่”
พระสันตะปาปาชี้ว่า แม้ในยุคสมัยของเราก็ไม่ขาดความท้าทาย และการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันก็กำลังตั้งคำถามใหม่ๆ กับเรา
“เราเองก็จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของกระแสเรียกที่ได้รับ ก็ต่อเมื่อเราวางพระคริสต์ไว้ที่ศูนย์กลางของการดำรงอยู่และพันธกิจของเรา … พ่อจึงคิดถึงวัดแห่งนี้ว่า มันเป็นความจริงที่ต้องมุ่งมั่นที่จะเป็นหัวใจที่เต้นอยู่เสมอในร่างกายอันยิ่งใหญ่ของโลกเบเนดิกติน”
3. การจะเข้าใจธรรมล้ำลึกของพระเจ้า ต้องเข้าใจว่า ความรู้คือ “ของขวัญ” ไม่ใช่ “สิ่งที่มนุษย์ขวนขวายหามาเอง”
วัดและสถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางการศึกษา (Ateneo) และสถาบันพิธีกรรม (Liturgical Institute) พระสันตะปาปาจึงทรงย้ำเตือนถึงเป้าหมายของการศึกษาคาทอลิก ด้วยการอ้างถึงคำพูดของ นักบุญ จอห์น พอล ที่ 2 ที่เคยตรัสไว้เมื่อมาเยือนที่นี่ในปี 1986
พระสันตะปาปา ตรัสว่า “นักบุญอันเซลโม่เตือนเราว่า การที่เราจะเข้าใจเรื่องธรรมล้ำลึกของพระเจ้าได้ มันไม่ใช่เพราะความเก่งหรือความฉลาดของเราเอง แต่เป็น ‘ของขวัญ’ ที่พระเจ้าทรงมอบให้แก่คนที่ถ่อมตนและเชื่อในพระองค์
4. ความหมายของวัดคือ “ประตูสู่ชีวิตนิรันดร” ที่เชื่อมมนุษย์กับพระเจ้า
ตอนท้าย พระสันตะปาปาอธิบายความหมายของ “การถวายวัด” ว่า “การถวายวัดเป็นการเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นประตูที่เชื่อมโลกของเรา (สิ่งที่มีขีดจำกัด) เข้ากับสวรรค์ (สิ่งที่เป็นนิรันดร) มันคือสถานที่ที่มนุษย์ได้มาพบกับพระเจ้า มันคือประตูที่เปิดไปสู่ความเป็นนิรันดร”
“ศาสนจักรนั้นเป็นทั้งมนุษย์และพระเจ้า ทั้งสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ทั้งการกระทำและการรำพึงภาวนา แต่ทั้งหมดนี้ ‘สิ่งที่เป็นมนุษย์’ จะต้องอยู่ภายใต้ ‘สิ่งที่เป็นพระเจ้า’ เสมอ” พระสันตะปาปา ตรัสย้ำ
Source:

Comments
Post a Comment