สรุปใจความสำคัญของสารเตือนใจ Dilexi Te (เรารักท่าน) โดย Pope Report

➡️ โป๊ป เลโอ ที่ 14 ย้ำ สำหรับคริสตชน คนจนไม่ใช่กลุ่มคนทางสังคม แต่เป็น “เนื้อหนัง” ของพระเยซูคริสต์อย่างแท้จริง

➡️ ทรงนำคำกล่าวอันโด่งดังของพระสันตะปาปา ฟรานซิส มาย้ำอีกครั้งว่า “พ่อต้องการศาสนจักรที่ยากจนเพื่อคนยากจน” และตำหนิระบบเผด็จการทางเศรษฐกิจที่ฆ่าคน

➡️ สารเตือนใจฉบับนี้ เป็นการสานต่อแนวทางของพระสันตะปาปา ฟรานซิส อย่างแท้จริง เพราะมีการเอ่ยถึงชื่อ “พระสันตะปาปา ฟรานซิส” มากกว่า 30 ครั้ง

ช่วงสายวันพฤหัสที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา วาติกันได้เผยแพร่สารเตือนใจ Dilexi Te (เรารักท่าน) ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญชิ้นแรกในสมณสมัยของพระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14  เอกสารฉบับนี้เป็นการสานต่องานที่พระสันตะปาปา ฟรานซิส ได้ริเริ่มไว้ในช่วงท้ายสมณสมัยให้เสร็จสมบูรณ์ และถือได้ว่าเป็นดังพินัยกรรมฝ่ายจิตวิญญาณที่มอบแด่ศาสนจักรทั้งมวล เนื้อหาหลักเป็นการยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ความรักและการเลือกเข้าข้างคนยากจนไม่ใช่ทางเลือกสำหรับคริสตชน แต่เป็นหัวใจและแก่นแท้ของความเชื่อ

สารนี้มีทั้งหมด 5 บท จำนวน 121 ข้อ Pope Report ได้นั่งอ่านหมดแล้ว และขอเรียบเรียงบทสรุปสำคัญมาให้ดังนี้

1. “ศาสนจักรที่ยากจนเพื่อคนยากจน” มรดกจากพระสันตะปาปา ฟรานซิส 

เอกสารฉบับนี้ต่อยอดคำสอนของพระสันตะปาปา ฟรานซิส อย่างสมบูรณ์ โดยมีการอ้างถึงพระสันตะปาปาจากคณะเยสุอิต ไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง และได้นำคำกล่าวที่สร้างชื่อเสียงให้กับพระองค์ตั้งแต่ปี 2013 มาเป็นหัวใจสำคัญ นั่นคือ “พ่อต้องการศาสนจักรที่ยากจนเพื่อคนยากจน”

พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 กล่าวในสารอย่างชัดเจนว่า “พ่อมีความยินดีที่ได้ทำเอกสารฉบับนี้ให้เป็นของพ่อเอง และเผยแพร่ในช่วงเริ่มต้นสมณสมัยของพ่อ เพราะพ่อมีความปรารถนาเช่นเดียวกับพระสันตะปาปาองค์ก่อนหน้าที่พ่อเคารพรักยิ่ง” 

คำพูดดังกล่าวนั้น คาร์ดินัล ไมเคิ่ล แชร์นี่ ซึ่งเป็นสมาชิกคณะเยสุอิต ได้กล่าวเสริมในการแถลงข่าวว่าเอกสารนี้เป็น “(แนวคิด)พระสันตะปาปาฟรานซิส 100 เปอร์เซ็นต์ และเป็นพระสันตะปาปาเลโอ 100 เปอร์เซ็นต์”

2. หัวใจหลักของสารคือ “คนจนคือเนื้อหนังของพระคริสต์” 

พระสันตะปาปาชาวอเมริกันย้ำว่า การช่วยเหลือคนจนไม่ใช่แค่เรื่องมนุษยธรรม แต่เป็นการเผยแสดงของพระเจ้า พระองค์ย้ำว่า “สำหรับคริสตชน ปัญหาของคนยากจนนำเราไปสู่หัวใจความเชื่อของเรา เพราะคนจนไม่ใช่กลุ่มคนทางสังคม แต่เป็นเนื้อหนังของพระคริสต์โดยแท้จริง ไม่มีคริสตชนคนใดสามารถมองคนจนเป็นเพียงปัญหาสังคมได้ คนจนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเรา พวกเขาคือพวกเดียวกันกับเรา”

3. เสียงร้องของคนจนท่ามกลางความเหลื่อมล้ำ

พระสันตะปาปาชี้ว่า “สภาพของคนยากจนเป็นเสียงร้องในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่ท้าทายชีวิต สังคม และระบบการเมืองของเราอยู่เสมอ” โดยทรงระบุถึงความยากจนในมิติต่างๆ พระองค์ย้ำว่า

พระสันตะปาปา ตรัสว่า “ช่องว่างระหว่างคนยากจนและกลุ่มอภิมหาเศรษฐีของโลกได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล มันเป็นผลมาจากวัฒนธรรมแห่งการทิ้งขว้าง (Throwaway Culture) ที่เมินเฉยต่อผู้คนนับล้านที่กำลังอดตายหรือต้องมีชีวิตอยู่ในสภาพที่ไม่คู่ควรกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”

“ในยุโรป มีครอบครัวจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้จนถึงสิ้นเดือน มันสะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมที่เพิ่มขึ้นแม้ในบริบทที่โดยทั่วไปถือว่ามั่งคั่ง”

“ส่วนผู้หญิงที่ต้องทนทุกข์จากสถานการณ์ของการกีดกัน การปฏิบัติที่ไม่ดี และความรุนแรง ถือเป็นยากจนมากกว่าเดิมถึงสองเท่า” พระสันตะปาปา ระบุ

4. ท้าทายโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม 

สารเตือนใจนี้เรียกร้องให้คริสตชนต้องชี้ให้เห็นและต่อต้าน “เผด็จการทางเศรษฐกิจที่ฆ่าคน” ซึ่งเกิดจากอุดมการณ์ที่ปกป้องความเป็นอิสระเด็ดขาดของตลาดและการเก็งกำไรทางการเงิน

ยิ่งไปกว่านั้น พระสันตะปาปาย้ำคำสอนของศาสนจักรเกี่ยวกับหน้าที่ต่อสังคมของทรัพย์สินส่วนบุคคล โดยอ้างอิงจากสังคายนาวาติกัน ที่ 2 ว่า “พระเจ้ากำหนดให้โลกและทุกสิ่งที่อยู่ในโลกนี้มีไว้เพื่อการใช้งานของมนุษย์และประชากรทุกคน ผู้ที่ตกอยู่ในความต้องการอย่างที่สุด ย่อมมีสิทธิ์ที่จะจัดหาสิ่งที่จำเป็นสำหรับตนเองจากความมั่งคั่งของผู้อื่น”

5. อย่าแค่ทำบุญให้ทาน แต่ต้องลงมือช่วยผู้ยากไร้อย่างจับต้องได้

พระสันตะปาปาเรียกร้องให้สมาชิกทุกคนของศาสนจักรเปล่งเสียงและลงมือทำเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม โดยทรงให้แนวทางดังนี้

- การให้ทานและการทำงาน: ขณะที่การให้ทานคือ “ปีกของคำภาวนา” แต่ก็ไม่สามารถทดแทนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมได้ และความช่วยเหลือที่ดีที่สุดคือการช่วยให้คนจนมี “งานที่ดี” เพราะการทำงานเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีที่มากกว่าแค่รายได้

- ความสอดคล้องในการปฏิบัติ: พระสันตะปาปาเตือนสติว่า ความกังวลต่อความบริสุทธิ์ของความเชื่อจะต้องไม่แยกออกจากการมอบประจักษ์พยานที่มีประสิทธิภาพในการรับใช้คนยากจนและผู้ถูกกดขี่

- การสนับสนุนขบวนการภาคประชาชน: พระสันตะปาปายกย่องการเป็นมรณสักขีของ นักบุญออสการ์ โรเมโร่ และสนับสนุนขบวนการภาคประชาชนที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม โดยเตือนว่านโยบายทางสังคมต้องไม่ใช่แค่ “นโยบายเพื่อคนจน” แต่ต้องเป็น “นโยบายร่วมกับคนจน” และ “ของคนจน”

Source:

- https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/apost_exhortations/documents/20251004-dilexi-te.html