โป๊ปสอน “การมีความหวังคือการเลือกบางอย่าง คนที่ไม่เลือกย่อมสิ้นหวัง”

 ➡️ โป๊ป เลโอ ที่ 14 สอน ความหวังไม่ใช่ความรู้สึกที่อยู่นิ่ง แต่คือ “การเลือกลงมือทำบางอย่าง” ส่วนคนที่ไม่เลือก จะเป็นคนสิ้นหวัง


➡️ การเลือกที่ชัดเจนสุดคือ “เลือกจะรับใช้พระเจ้าหรือเงิน” คนที่ทำให้เห็นว่าเลือกรับใช้พระเจ้าคือนักบุญแคลร์แห่งอัสซีซี นี่คือคนที่กล้าสวนกระแสโลก


➡️ ทรงชี้ การเลือกดำเนินชีวิตเลียนแบบพระวรสารคือการเลียนแบบความศักดิ์สิทธิ์ มันคือการสูญเสียตัวเองและได้พบตัวเองขึ้นมาใหม่







ช่วงสายวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันฉลองนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงออกมาพบปะและสอนคำสอนในการเข้าเฝ้าทั่วไปโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งความหวัง ณ ลานมหาวิหารนักบุญเปโตร 


พระวรสารช่วงเริ่มต้น พระเยซูทรงสอนว่าเราจะรับใช้พระเจ้าและเงินไปพร้อมกันไม่ได้ ซึ่งใจความสำคัญของบทสอน Pope Report สรุปมาให้ดังนี้


1. การมีความหวังคือการเลือก


พระสันตะปาปาเริ่มต้นตรัสว่า “คนบางกลุ่มที่ได้ฟังพระเยซู ก็เยาะเย้ยพระองค์ พวกเขาคิดว่าคำสอนเรื่องความยากจนดูไร้สาระ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขารู้สึกเหมือนถูกแทงใจดำเพราะความยึดติดในเงินตราของตน … ​แต่สำหรับเรา มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เราต้องเลือกว่าจะรับใช้ใคร ระหว่างความยุติธรรมหรือความอยุติธรรม ระหว่างพระเจ้าหรือเงินตรา”


“การมีความหวังคือการเลือก เพราะคนที่ไม่เลือกย่อมสิ้นหวัง หนึ่งในผลลัพธ์ที่พบบ่อยที่สุดของความโศกเศร้าฝ่ายจิตคือความเฉื่อยชา คือการไม่เลือกอะไรเลย มันเลวร้ายกว่าความตาย แต่การมีความหวังคือการเลือก” พระสันตะปาปาตรัสสอน


2. นักบุญแคลร์แห่งอัสซีซี แบบอย่างของผู้ที่กล้า “เลือกสวนกระแสโลก”


แทนที่จะทรงยกเรื่องราวของนักบุญฟรานซิสผู้เป็นเจ้าของวันฉลอง พระสันตะปาปาสร้างความประทับใจด้วยการยกย่อง นักบุญแคลร์ (เคียร่า) แห่งอัสซีซี ให้เป็นแบบอย่างของคนที่ “รู้จักที่จะเลือก”


พระสันตะปาปา ตรัสว่า “การเลือกของแคลร์ดูน่าประทับใจยิ่ง เด็กสาวผู้ต้องการจะเป็นเหมือนฟรานซิส ผู้ต้องการจะดำเนินชีวิตในฐานะสตรีอย่างอิสระเหมือนบรรดาภราดาเหล่านั้น การที่แคลร์เลือกน้อมรับพระวรสารอย่างจริงจังในยุคสมัยนั้น ถือเป็นการปฏิวัติและความกล้าหาญของท่านได้เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดกระแสเรียกมากมายที่คงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้”


3. เมื่อเราเลือกพระวรสาร เราก็เลือกตัวเอง


“พระเยซูตรัสว่า ‘เราไม่สามารถรับใช้เจ้านายสองคนได้’ ดังนั้น ศาสนจักรจึงยังคงเยาว์วัยและดึงดูดคนหนุ่มสาว แคลร์แห่งอัสซีซีเตือนใจเราว่า พระวรสารเป็นที่ชื่นชอบของคนหนุ่มสาว พวกเขายอมรับผลที่ตามมาจากการเลือกของตน และสิ่งนี้ทำให้ผู้อื่นอยากที่จะเลือกบ้าง มันคือการเลียนแบบที่ศักดิ์สิทธิ์ เราไม่ได้กลายเป็น ‘สำเนา’ ของใคร แต่เมื่อเลือกพระวรสาร เราก็ได้เลือกตัวเอง มันคือการสูญเสียตัวเองและได้พบตัวเอง ประสบการณ์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว และมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ”


“ให้เราภาวนาเพื่อคนหนุ่มสาว และให้เราภาวนาเพื่อที่เราจะได้เป็นศาสนจักรที่ไม่รับใช้เงินตราหรือตนเอง แต่รับใช้อาณาจักรของพระเจ้าและความยุติธรรมของพระองค์ เป็นศาสนจักรที่มีความกล้าหาญที่จะอาศัยอยู่ในเมืองในรูปแบบที่แตกต่างออกไป” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย


Source:


- https://www.vatican.va/content/leo-xiv/it/audiences/2025/documents/20251004-udienza-giubilare.html 


Comments