โป๊ปย้ำ วัยชราและการมีอายุยืนยาวคือของขวัญจากพระเจ้า มันไม่ใช่ “ภาระ” หรือ “ความผิด” ของคนๆนั้น

  • ป๊ป เลโอ ที่ 14 ย้ำ วัยชราและการมีอายุยืนยาวคือของขวัญจากพระเจ้า นี่คือเครื่องหมายแห่งความหวัง ไม่ใช่ “ภาระ” หรือ “ความผิด” ของคนๆนั้น
  • ทรงชี้ เราต้องกล้ายอมรับความชราและเปราะบาง ไม่ใช่ปกปิดหรือกลบเกลื่อนแบบที่โลกพยายามทำให้เห็น เพราะการยอมรับความเปราะบาง เราจะกล้าทิ้งความเป็นอิสระจอมปลอม และหันมาพึ่งพระเจ้าด้วยความถ่อมตน
  • ทรงเรียกร้องให้ศาสนจักรเปลี่ยนวิธีการทำงานอภิบาลผู้สูงอายุ จากการมองผู้สูงอายุเป็นเพียง “คนที่ต้องรับการดูแลฝ่ายเดียว” ไปเป็นการมองผู้สูงอายุในฐานะ “ผู้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในพันธกิจของศาสนจักร”







ช่วงสายวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมนานาชาติว่าด้วยการอภิบาลผู้สูงอายุ ที่มาเข้าเฝ้าในวาติกัน โอกาสนี้ พระสันตะปาปาได้ให้ข้อคิดซึ่งดูสวนกระแสโลกยุคปัจจุบันที่มีแนวโน้มจะลดทอนคุณค่าของผู้สูงอายุลงไปเรื่อย


สำหรับใจความสำคัญนั้น Pope Report เรียบเรียงมาให้ดังนี้


1. วัยชราและการมีอายุยืนยาวคือของขวัญจากพระเจ้า นี่ไม่ใช่ “ภาระ” หรือ “ความผิด”


พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการตรัสว่า “หัวข้อการประชุมของพวกท่านคือ ‘คนชราของท่านฝันว่าอยากเห็น’ ,มันมาจากคำสอนที่ พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงชอบมากๆ เพราะมันเรียกร้องให้เกิดพันธสัญญาหรือความร่วมมือระหว่างคนต่างวัย”


“โลกปัจจุบันมักมองว่าผู้สูงอายุเป็นภาระ หรือมองว่าการมีอายุยืนยาวเป็นความผิด แต่ในความเป็นจริง ผู้สูงอายุคือของขวัญ คือพระพรที่ต้องได้รับการต้อนรับ และการมีชีวิตที่ยืนยาวเป็นเรื่องดี แท้จริงแล้ว นี่คือหนึ่งในเครื่องหมายแห่งความหวังในยุคสมัยของเรา”


2. ความชราคือความเปราะบางและบอกเราถึงข้อจำกัด แต่โลกพยายามกำจัดและปิดบังสิ่งนี้จากตัวเรา


จากนั้น พระสันตะปาปาแบ่งปันว่า “วัยชราคือเครื่องเตือนใจที่ล้ำค่าถึงสัจธรรมของชีวิต โลกปัจจุบันมักให้คุณค่ากับความสำเร็จ อำนาจ หรือความมั่งคั่ง เรามักจะลืมไปว่าเราทุกคนต่างเป็นสิ่งสร้างที่มีข้อจำกัดและต้องการความช่วยเหลือ ความเปราะบางที่ปรากฏในวัยชราเตือนเราถึงความจริงข้อนี้ แต่โลกกลับพยายามซุกซ่อนหรือกำจัดมันออกไป เพื่อจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับภาพของสิ่งที่เราทุกคนจะต้องเป็นในอนาคต”


“มันดีเสียกว่าที่เราจะตระหนักว่า วัยชราเป็นส่วนหนึ่งของความมหัศจรรย์แห่งการสร้างของพระเจ้า และถ้าเรากล้าที่จะยอมรับ โอบกอด และดูแลความชรา ความเปราะบางก็จะกลายเป็นสะพานนำเราไปสวรรค์ เพราะมันสอนให้เราละทิ้งความเป็นอิสระจอมปลอม และหันมาพึ่งพระเจ้าและเพื่อนพี่น้องด้วยความถ่อมตน” พระสันตะปาปา ทรงย้ำ


3. ศาสนจักรต้องเปลี่ยนมุมมองว่าผู้สูงอายุจะเป็น “ผู้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในพันธกิจของศาสนจักร”


ด้วยเหตุนี้ พระสันตะปาปาจึงเรียกร้องให้ศาสนจักรมีแนวทางการอภิบาลผู้สูงอายุในรูปแบบใหม่ “โดยเปลี่ยนมุมมองจากการมองผู้สูงอายุเป็นเพียง ‘คนที่ต้องรับการดูแลฝ่ายเดียว’ (Passive Recipients) ไปเป็นการมองผู้สูงอายุในฐานะ ‘ผู้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในพันธกิจของศาสนจักร’ (Active Subjects) ไม่ว่าจะเป็นการให้ท่านมีบทบาทในการสอนคำสอน การเป็นผู้นำศาสนบริการต่างๆ หรือการเป็นธรรมทูตด้วยการนำข่าวดีไปสู่ผู้ที่โดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้ง”


“พึงระลึกเสมอว่า การประกาศพระวรสารคือภารกิจหลักของศาสนจักร เราต้องเชิญชวนให้ผู้สูงอายุเข้ามามีส่วนร่วมในพันธกิจนี้ พวกท่านก็จะกลายเป็นประจักษ์พยานแห่งความหวังที่ทรงพลัง ด้วยปรีชาญาณ ความศรัทธา และประสบการณ์ชีวิตอันล้ำค่าของพวกท่านเอง” พระสันตะปาปา สรุปในตอนท้าย


Source:


- https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/speeches/2025/october/documents/20251003-pastorale-anziani.html 


Comments