โป๊ปสอน ในการรอคอยที่ดูไร้ค่า พระเจ้าก็ยังทำงานในช่วงเวลาเหล่านั้น

  • โป๊ป เลโอ ที่ 14 สอน ในการรอคอยที่ดูไร้ค่า พระเจ้าก็ยังทำงานในช่วงเวลาเหล่านั้น พระเจ้าจึงสอนเราให้รู้จักอดทนรอคอยด้วยความเงียบ เพื่อเราจะได้เรียนรู้และยอมรับข้อจำกัดของตนเอง
  • ทรงแบ่งปัน พระวรสารสอนให้เรารู้จัก “หยุดและรอ” เพราะชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำเสมอไป แต่ยังขึ้นอยู่กับว่า เรารู้จักที่จะลาจากสิ่งที่เราทำได้หรือไม่







ช่วงสายวันพุธที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงออกมาพบปะและสอนคำสอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานมหาวิหารนักบุญเปโตร วันนี้ พระสันตะปาปาทรงไตร่ตรองถึงธรรมล้ำลึกของวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นวันที่ร่างของพระเยซูถูกฝังอยู่ในคูหาฝังศพ


สำหรับใจความสำคัญของบทสอน Pope Report สรุปให้ดังนี้


1. ความเงียบไม่ใช่ความว่างเปล่า แต่คือการเฝ้ารอความสมบูรณ์แบบที่รอวันเผยแสดงออกมา


พระสันตะปาปาทรงเริ่มต้นด้วยการอธิบายว่า วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์คือ “วันแห่งความเงียบอันยิ่งใหญ่” แต่ความเงียบนี้ไม่ใช่ความว่างเปล่า


พระสันตะปาปาตรัสว่า “วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์คือการรอคอย มันคือความสมบูรณ์ที่รอวันเผยแสดงออกมา คำสัญญาของพระเจ้าที่ถูกรักษาไว้ในความมืด มันคือความเงียบที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย ดุจครรภ์ของมารดาซึ่งอุ้มบุตรที่ยังไม่เกิดแต่เขามีชีวิตขึ้นมาแล้ว”


2. การพักของพระเยซู สอนเราให้รู้จัก “หยุด”


พระสันตะปาปา อธิบายว่า “วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ยังเป็นวันแห่งการพักผ่อนตามกฎหมายของชาวยิว มันจะไม่มีการทำงานทุกอย่าง … หลังจากหกวันแห่งการสร้างโลก พระเจ้าทรงพักผ่อน (ปฐมกาล 2:2) พระบุตรก็เช่นกัน หลังจากที่พระเยซูทำงานแห่งความรอดสำเร็จลุล่วง พระองค์ก็ทรงพัก ไม่ใช่เพราะเหน็ดเหนื่อย แต่เพราะไม่มีสิ่งใดเหลือที่จะต้องเพิ่มเติมอีกแล้ว การพักผ่อนนี้คือตราประทับบนภารกิจที่สำเร็จลุล่วงแล้ว”


“เราดำเนินชีวิตราวกับว่าชีวิตไม่เคยพอ เรารีบเร่งที่จะทำสิ่งต่างๆ รีบเร่งที่จะพิสูจน์ตัวเอง แต่พระวรสารสอนเราว่า การรู้จักที่จะหยุดคือการกระทำแห่งความไว้วางใจซึ่งเราต้องเรียนรู้ที่จะปฏิบัติ วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์เชิญชวนให้เราค้นพบว่า ชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำเสมอไป แต่ยังขึ้นอยู่กับว่า เรารู้จักที่จะลาจากสิ่งที่เราทำได้หรือไม่” 


3. ในการรอคอยที่ดูไร้ค่า พระเจ้าก็ยังทำงานในช่วงเวลาเหล่านั้น


พระสันตะปาปาทรงให้กำลังใจว่า แม้แต่ช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะหยุดนิ่ง ว่างเปล่า หรือแห้งแล้งในชีวิตของเรา ก็สามารถมีความหมายได้


“พระเจ้ายังเป็นพระเจ้าแห่งการรอคอย ดังนั้น แม้แต่เวลาที่ไร้ประโยชน์ของเรา ก็สามารถกลายเป็นครรภ์แห่งการกลับคืนชีพได้ … พระเจ้าทรงทำงานในเวลาที่เชื่องช้าแห่งความไว้วางใจ ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องรีบร้อนที่จะฟื้นคืนชีพ แต่ต้องเรียนรู้ที่จะต้อนรับความเงียบและยอมรับข้อจำกัดของตนเองเสียก่อน”


4) ความหวังที่แท้จริงไม่ได้เกิดในเสียงอึกทึก แต่ในความเงียบ


ช่วงท้าย พระสันตะปาปาสรุปถึงธรรมชาติที่แท้จริงของความหวังคริสตชน


“ความหวังของคริสตชนไม่ได้เกิดในเสียงดังอึกทึก แต่เกิดในความเงียบของการรอคอยที่เปี่ยมด้วยความรัก ความหวังไม่ใช่ผลผลิตของความรู้สึกยินดีอย่างท่วมท้น แต่มันเป็นผลจากการมอบตัวเองอย่างไว้วางใจในพระเจ้า” พระสันตะปาปา ตรัสในช่วงท้าย


Source:


- https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/audiences/2025/documents/20250917-udienza-generale.html


Comments