โป๊ปย้ำ ไม่ว่าบาปผิดจะเกิดขึ้นนานแค่ไหน หรืออดีตจะพังทลายเพียงใด ความเมตตาของพระเจ้าไปถึงทุกที่
- โป๊ป เลโอ ที่ 14 แบ่งปัน ถ้าพระเยซูเสด็จลงไปถึง “แดนมรณะ” ก็ไม่มีสิ่งใดจะถูกกีดกันออกจากการไถ่กู้ของพระองค์ ไม่เว้นแม้แต่ความผิดบาปที่เก่าแก่สุดของเรา ไม่เว้นแม้แต่สายสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้น ไม่มีอดีตใดที่พังทลายเกินไปที่จะไม่ได้รับการสัมผัสโดยความเมตตา
- ทรงประกาศให้ เดือนตุลาคม เป็นเดือนสวดสายประคำเพื่อสันติภาพ และพระองค์จะเป็นประธานพิธีตื่นเฝ้าและสวดสายประคำเพื่อสันติภาพ วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม เวลา 18.00 น. ณ ลานมหาวิหารนักบุญเปโตร
- ทรงเผย สันตะสำนักสนับสนุนเรื่อง “รัฐปาเลสไตน์” แต่อีกฝ่ายไม่มีความตั้งใจจะรับฟัง และตอนนี้ การเสวนาได้ขาดสะบั้นลงแล้ว
ช่วงสายวันพุธที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงออกมาพบปะและสอนคำสอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานมหาวิหารนักบุญเปโตร วันนี้ พระสันตะปาปาทรงไตร่ตรองถึงธรรมล้ำลึกของวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์และการเสด็จลงสู่แดนมรณะของพระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่แสดงถึงความรักของพระเจ้าอย่างถึงที่สุด
ในส่วนของใจความสำคัญสิ่งที่พระสันตะปาปาแบ่งปัน Pope Report สรุปมาให้ดังนี้
1. การเสด็จลงสู่แดนมรณะคือการแสดงความรักที่ลึกซึ้งและถึงแก่นที่สุด
พระสันตะปาปาแบ่งปันว่า ธรรมล้ำลึกนี้คือหัวใจสำคัญของความรอดพ้นคือการเสด็จลงสู่แดนมรณะ
“เพียงแค่กล่าวหรือเชื่อว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อเรานั้นยังไม่เพียงพอ แต่เราต้องตระหนักให้ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นว่า ความรักอันซื่อสัตย์ของพระองค์ติดตามเราไปจนถึงที่ที่เราหลงทาง นี่คือความถ่อมตนของพระเจ้าผู้ไม่หยุดยั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าบาปของเรา และไม่เกรงกลัวแม้จะต้องเผชิญกับการปฏิเสธอย่างถึงที่สุดจากมนุษย์”
“แดนมรณะในพระคัมภีร์ไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นสภาวะที่ชีวิตเหือดแห้ง เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความโดดเดี่ยว ความรู้สึกผิดได้เข้ามาครอบงำ พระเยซูคริสต์ได้เสด็จลงไปเพื่อปลดปล่อยผู้อยู่อาศัยในนั้นจากบาป” พระสันตะปาปาทรงสอน
2. “แดนมรณะในปัจจุบัน” นรกประจำวันแห่งความเหงาและความละอาย
พระสันตะปาปาทรงเชื่อมโยงธรรมล้ำลึกนี้เข้ากับชีวิตประจำวันของเราว่า “การเสด็จลงสู่แดนมรณะของพระคริสต์นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอดีตเท่านั้น แต่ยังสัมผัสชีวิตของเราแต่ละคนด้วย มันยังเป็นนรกประจำวันของความเหงา ความละอาย การถูกทอดทิ้ง และการต่อสู้ดิ้นรนของชีวิต พระคริสต์เสด็จเข้าไปในความเป็นจริงอันมืดมนเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อเป็นประจักษ์พยานถึงความรักของพระบิดา ไม่ใช่เพื่อพิพากษา แต่เพื่อปลดปล่อย ไม่ใช่เพื่อตำหนิ แต่เพื่อช่วยให้รอด”
3. ไม่มีอดีตใดที่พังทลายเกินไป และไม่มีสิ่งใดถูกกีดกันจากการไถ่กู้ของพระเจ้า
พระสันตะปาปาทรงใช้ภาพพระเยซูเสด็จกลับคืนชีพของจารีตตะวันออก มันเป็นภาพที่พระคริสต์พังประตูแดนมรณะ เพื่อฉุดอาดัมและเอวาขึ้นมา ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าพระคริสต์ไม่ได้รอดพ้นแต่เพียงผู้เดียว แต่นำมวลมนุษยชาติไปกับพระองค์ด้วย
“ถ้าพระคริสต์สามารถเสด็จลงไปได้จนถึงที่นั่น ก็ไม่มีสิ่งใดจะถูกกีดกันออกจากการไถ่กู้ของพระองค์ ไม่เว้นแม้แต่ความผิดบาปที่เก่าแก่ที่สุดของเรา ไม่เว้นแม้แต่สายสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้นของเรา ไม่มีอดีตใดที่พังทลายเกินไปที่จะไม่ได้รับการสัมผัสโดยความเมตตา” พระสันตะปาปา ตรัสในช่วงท้าย
4. ประกาศให้เดือนตุลาคม เป็นเดือนสวดสายประคำเพื่อสันติภาพ
หลังการเทศน์สอนจบลง พระสันตะปาปามีประกาศพิเศษสำหรับเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
“พ่อขอเชิญชวนทุกคนให้สวดสายประคำเพื่อสันติภาพในทุกๆวันของเดือนตุลาคม สวดแบบส่วนตัว สวดในครอบครัว และสวดในชุมชนของเรา สำหรับการสวดสายประคำภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร จะมีขึ้นทุกวัน เวลา 19.00 น. ส่วนพิธีตื่นเฝ้าภาวนาและสวดสายประคำเป็นพิเศษเพื่อสันติภาพ จะจัดเย็นวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม เวลา 18.00 น. ณ ลานมหาวิหารนักบุญเปโตร” พระสันตะปาปาตรัสปิดท้าย
5. สันตะสำนักสนับสนุนเรื่อง “รัฐปาเลสไตน์” แต่อีกฝ่ายไม่มีความตั้งใจจะรับฟัง
ย้อยกลับไปเมื่อวานนี้ พระสันตะปาปาชาวอเมริกันได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่วังฤดูร้อน คาสเตล กันดอลโฟ เกี่ยวกับ “การรับรองรัฐปาเลสไตน์” ที่หลายชาติเริ่มพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ
พระสันตะปาปายืนยันว่า “สันตะสำนักสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาสองรัฐ (Two-state solution) มานานแล้ว เรามองว่าการยอมรับรัฐปาเลสไตน์สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ปัญหาใหญ่ในขณะนี้คือ ไม่มีความตั้งใจที่จะรับฟังอย่างแท้จริงจากอีกฝ่ายหนึ่ง และตอนนี้ การเสวนาได้ขาดสะบั้นลงแล้ว”
“สำหรับสถานการณ์ในกาซ่า พ่อยังติดต่อกับวัดคาทอลิกในกาซ่า ขอบคุณพระเจ้าที่วัดยังคงปลอดภัย แม้ว่าการโจมตีจะเข้ามาใกล้วัดมากขึ้นเรื่อยๆ”
ส่วนสถานการณ์ยูเครนและรัสเซีย พระสันตะปาปาบอกว่า “หากยุโรปรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง พ่อเชื่อว่ายุโรปจะสามารถทำอะไรได้อีกมาก ส่วนเรื่องการสะสมอาวุธ พ่อไม่ขอให้ความเห็น เพราะมันเป็นเรื่องทางการเมือง” พระสันตะปาปาตรัสย้ำ
Sources:
1. https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/audiences/2025/documents/20250924-udienza-generale.html
Comments
Post a Comment