โป๊ปเตือนสติ “ความกระหายในทรัพย์สมบัติจะเปลี่ยนเพื่อนมนุษย์ให้กลายเป็นคู่แข่ง”

  • โป๊ป เลโอ ที่ 14 เตือนสติ ความกระหายในทรัพย์สมบัติจะเปลี่ยนเพื่อนมนุษย์ให้กลายเป็นคู่แข่ง เราจะกลายเป็นคิดทุกอย่างว่าคุ้มไหม กลายเป็นคนขี้สงสัย และไม่ไว้วางใจผู้อื่น
  • ทรงสอน เราต้องเลือกว่าจะให้สิ่งใดเป็นศูนย์กลางของหัวใจ “พระเจ้า” หรือ “ทรัพย์สมบัติ” เพื่อจะได้ชัดเจนไปเลยว่า เราจะรักใครแบบจริงใจ และเราจะรับใช้ใครด้วยความทุ่มเท 
  • ทรงย้ำ ผู้รับใช้พระเจ้าจะเป็นอิสระ แต่ผู้รับใช้เงินตราจะตกเป็นทาส จำไว้ว่า เราไม่ใช่เจ้าของชีวิตหรือทรัพย์สินของเรา แต่เป็นเพียงผู้จัดการที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้า ดังนั้น จงใช้ชีวิตและใช้ทรัพย์สมบัติ เพื่อสร้างมิตรภาพกับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ไม่ใช่ใช้เพื่อสร้างความเห็นแก่ตัว






ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงเป็นประธานในมิสซาซึ่งจัดที่วัดนักบุญอันนา ในเขตวาติกัน ความพิเศษของวัดนี้คือสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 และพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 11 ทรงมอบหมายให้คณะออกัสติเนี่ยน ดูแลวัดนี้มาตั้งแต่ค.ศ.1929 


ช่วงเริ่มต้นพิธีมิสซา พระสันตะปาปาทรงทักทายสมาชิกคณะออกัสติเนี่ยนทุกคน ไล่ตั้งแต่ คุณพ่อโจเซฟ ฟาร์เรลล์ อธิการเจ้าคณะ รวมทั้งทักทายเป็นพิเศษกับ คุณพ่อโจเอเล่ สคิอาเวลล่า นักบวชอาวุโสของคณะออกัสติเนี่ยน ที่มีอายุ 103 ปี 


สำหรับพระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงสอนว่า “ไม่มีใครที่จะรับใช้เจ้านาย 2 คนได้ ดังนั้น ท่านจะรับใช้พระเจ้าและทรัพย์สมบัติพร้อมกันไม่ได้” และสำหรับใจความสำคัญของการแบ่งปันพระวรสารโดยพระสันตะปาปา Pope Report สรุปมาให้ดังนี้


1. เราต้องเลือกว่าจะให้สิ่งใดเป็นศูนย์กลางของหัวใจ


พระสันตะปาปาเริ่มต้นด้วยการอธิบายว่า พระเยซูเสนอทางเลือกที่ชัดเจนระหว่างพระเจ้ากับทรัพย์สมบัติ ซึ่งไม่ใช่แค่การตัดสินใจชั่วคราว แต่เป็นการเลือก “รูปแบบการดำเนินชีวิต”


พระสันตะปาปา ตรัสว่า “เราต้องตัดสินใจว่าจะวางหัวใจของเราไว้ที่ใด เพื่อที่จะได้ชัดเจนว่าเรารักใครอย่างจริงใจ เรารับใช้ใครด้วยความทุ่มเท และอะไรคือสิ่งดีงามที่แท้จริงของเรา”


2. ความกระหายในทรัพย์สมบัติจะเปลี่ยนเพื่อนมนุษย์ให้กลายเป็นคู่แข่ง


พระสันตะปาปาอธิบายว่า เหตุที่พระเยซูทรงยกเรื่องทรัพย์สมบัติขึ้นมาเปรียบเทียบกับพระเจ้าโดยตรง ก็เพราะพระองค์ทราบดีว่า เราเป็นสิ่งสร้างที่ขัดสนและเต็มไปด้วยความต้องการ และมีความเสี่ยงที่เราจะคิดว่าทรัพย์สมบัติจะช่วยให้เรารอดได้


“การที่เรามีความต้องการนั้น เป็นเครื่องยืนยันถึงพระสัญญาและความผูกพันซึ่งพระเจ้าดูแลด้วยพระองค์เอง แต่เมื่อเราเผชิญกับการทดลองของความขัดสน แทนที่เราจะขอความช่วยเหลือด้วยความไว้วางใจและแบ่งปันกันแบบพี่น้อง เรากลับถูกชักนำให้คำนวณ สะสม กลายเป็นคนขี้สงสัย และไม่ไว้วางใจผู้อื่น ความคิดเหล่านี้เปลี่ยนเพื่อนบ้านให้กลายเป็นคู่แข่ง เป็นศัตรู หรือเป็นใครบางคนที่เราจะสามารถแสวงหาผลประโยชน์ได้” พระสันตะปาปา อธิบาย


3. ผู้รับใช้พระเจ้าจะเป็นอิสระ แต่ผู้รับใช้เงินตราจะตกเป็นทาส


พระสันตะปาปาชี้ว่า พระวาจาของพระเจ้าไม่ได้แบ่งแยกมนุษย์ออกเป็นชนชั้นที่เป็นศัตรูกัน แต่เรียกร้องให้เกิดการปฏิวัติภายในจิตใจ ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่


“เมื่อนั้น มือและความคิดของเราจะเปิดออก เพื่อที่จะวางแผนสร้างสังคมที่ดีขึ้น ไม่ใช่เปิดออกเพื่อจะฉกฉวย ไม่ใช่เพื่อสอดส่องหาธุรกิจในราคาที่ดีที่สุด … ผู้ที่รับใช้พระเจ้าจะกลายเป็นอิสระจากทรัพย์สมบัติ แต่ผู้ที่รับใช้ทรัพย์สมบัติจะยังคงเป็นทาสของมัน ผู้ที่แสวงหาความยุติธรรมจะเปลี่ยนแปลงทรัพย์สมบัติให้กลายเป็นสิ่งดีงามเพื่อส่วนรวม ผู้ที่แสวงหาอำนาจจะเปลี่ยนแปลงสิ่งดีส่วนรวมให้กลายเป็นเหยื่อของความโลภของตนเอง” พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย


4. เราไม่ใช่เจ้าของชีวิตหรือทรัพย์สินของเรา แต่เป็นเพียงผู้จัดการที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้า


หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงกลับไปนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าวที่ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ใจความสำคัญของการแบ่งปัน พระสันตะปาปาได้สอนเรื่องอุปมาในพระวรสารประจำวันนี้อีกครั้ง


“อุปมาเรื่องผู้จัดการที่ไม่ซื่อสัตย์เตือนใจเราว่า เราไม่ใช่เจ้าของชีวิตหรือทรัพย์สินของเรา แต่เป็นเพียงผู้จัดการ ที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้า และวันหนึ่งเราจะต้องชำระบัญชีการกระทำของเรา … พระเยซูสอนเราให้ใช้ทรัพย์สมบัติและชีวิตของเรา ไม่ใช่เพื่อการสะสมอย่างเห็นแก่ตัว แต่เพื่อสร้างความมั่งคั่งที่แท้จริง นั่นคือมิตรภาพกับพระเจ้าและกับเพื่อนพี่น้อง”


“ดังนั้น เราต้องเลือกระหว่างหนทางแห่งความเห็นแก่ตัวซึ่งนำไปสู่ความโดดเดี่ยวและการแข่งขัน หรือหนทางแห่งการแบ่งปันซึ่งนำไปสู่ การสร้างโลกที่เป็นธรรมและเป็นภราดรภาพมากขึ้น” พระสันตะปาปา ตรัสสอน


หลังการภาวนาจบลง พระสันตะปาปาทรงเชิญชวนทุกคนร่วมภาวนาให้ทุกคนในกาซ่า และเพื่อสันติภาพในนั้นด้วย


Sources:


1. https://press.vatican.va/content/salastampa/it/bollettino/pubblico/2025/09/21/0664/01170.html


2. https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/angelus/2025/documents/20250921-angelus.html 


Comments