โป๊ปสอน “ถ้ารู้สึกชีวิตยังโหยหาความหมายและอนาคต มันแสดงว่า เราไม่ได้ป่วย แต่เรายังมีชีวิต”
- โป๊ปเลโอ สอน ถ้ารู้สึกชีวิตยังโหยหาความหมายและอนาคต มันแสดงว่า เราไม่ได้ป่วย แต่เรายังมีชีวิต โดยนำคำสอนของโป๊ปฟรานซิส มาย้ำเตือนเยาวชนอีกครั้ง
- ทรงให้กำลังใจเยาวชน ชีวิตเราไม่ได้ถูกสร้างมาให้หยุดนิ่ง มันต้องมีล้มบ้างเพื่อรับการฟื้นฟู ดังนั้น ความเปราะบางจึงเป็นส่วนหนึ่งของความมหัศจรรย์แห่งชีวิต
- ทรงย้ำ คำตอบของความโหยหาไม่ได้อยู่ที่สิ่งที่เราสะสมหรือครอบครอง แต่อยู่ที่สิ่งที่เรารับมาและแบ่งปันออกไป
- ทรงประกาศ งานเยาวชนโลก (World Youth Day) ครั้งต่อไป จะจัดที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 3-8 สิงหาคม ค.ศ. 2027
ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงเป็นประธานในมิสซาปิดงานปีศักดิ์สิทธิ์ของเยาวชน ณ ลานของมหาวิทยาลัย ตอร์ แวร์กาต้า กรุงโรม ท่ามกลางผู้มาร่วมกว่า 1 ล้านคน
สำหรับใจความสำคัญของบทเทศน์ประจำมิสซา Pope Report เรียบเรียงมาให้ดังนี้
1. ความรู้สึกว่า “ชีวิตยังไม่พอ” หมายความว่า “เราไม่ได้ป่วย แต่เรากำลังมีชีวิต”
พระสันตะปาปา สอนว่า “ชีวิตมนุษย์ไม่ยั่งยืนและมีความเปราะบางเหมือนต้นหญ้าที่เหี่ยวแห้งไป แต่เราไม่ควรมองว่านี่เป็นเรื่องน่ากลัว เพราะแท้จริงแล้ว ความเปราะบางคือส่วนหนึ่งของความมหัศจรรย์แห่งชีวิต”
พระสันตะปาปายังเปรียบเทียบด้วยว่า “ชีวิตเราเหมือนทุ่งหญ้าที่ต้องมีการร่วงโรยเพื่อหล่อเลี้ยงให้ชีวิตใหม่งอกงามขึ้นมา เราไม่ได้ถูกสร้างมาให้หยุดนิ่ง แต่ถูกสร้างมาเพื่อที่จะได้รับการฟื้นฟูอยู่เสมอผ่านการมอบตนเองเป็นของขวัญในความรัก”
“ด้วยเหตุนี้ ใจของเราจึงเกิดความโหยหาสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่โลกนี้จะมอบให้ ดังนั้น เราอย่าทำลายความโหยหานี้ด้วยสิ่งทดแทนราคาถูกหรือความสุขทางโลกที่ไม่ยั่งยืน แต่ขอให้เรารับฟังความปรารถนาในใจ และใช้มันเป็นเหมือนม้านั่งเล็กๆ ที่จะปีนขึ้นไปเพื่อชะเง้อมองเหมือนเด็กๆ ที่เขย่งปลายเท้า ไปยังหน้าต่างแห่งการพบกับพระเจ้า”
“มีคำสอนที่งดงามมากๆของพระสันตะปาปา ฟรานซิส ที่เคยตรัสในงานเยาวชนโลกที่ลิสบอนว่า ‘อย่าได้ตื่นตระหนกไปถ้าเราพบว่าภายในใจของเราโหยหา กระสับกระส่าย ไม่สมบูรณ์ ต้องการหาความหมายและหาอนาคต เราเป็นแบบนี้เพราะเราไม่ได้ป่วย แต่เรากำลังมีชีวิต” พระสันตะปาปาจากคณะออกัสติเนี่ยน ตรัสสอน
2. สิ่งที่เราโหยหาไม่ใช่ของสะสมหรือครอบครอง แต่เป็นสิ่งที่เราได้รับและอยากแบ่งปันออกไป
พระสันตะปาปาทรงยกประสบการณ์ของนักบุญออกัสตินเป็นตัวอย่างของการแสวงหาที่กระสับกระส่ายแบบนี้ โดยอ้างอิงจากหนังสือ “คำสารภาพ” (Confessions) ของท่านนักบุญที่ว่า ‘พระองค์ทรงอยู่ภายในข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าอยู่ข้างนอก พระองค์ทรงเรียก และเสียงของพระองค์ก็ได้ทลายความหูหนวกของข้าพเจ้า’”
พระสันตะปาปาตรัสว่า “คำตอบของความโหยหาไม่ได้อยู่ที่สิ่งที่เราสะสมหรือสิ่งที่เราครอบครอง แต่อยู่ที่สิ่งที่เรายินดีที่จะรับมาและแบ่งปันออกไป … ความหวังของเราคือพระเยซู เหมือนกับที่ นักบุญจอห์น พอล ที่ 2 ตรัสว่า ‘พระเยซูปลุกเร้าตัวลูก ผู้ซึ่งอยากจะทำให้ชีวิตของตัวเองเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่’”
3. จงปรารถนาและต้องการ “ความศักดิ์สิทธิ์”
ช่วงท้าย พระสันตะปาปาให้กำลังใจเยาวชนให้ปรารถนาสิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ “ความศักดิ์สิทธิ์” โดยทรงยกแบบอย่างของบุญราศีสองท่านที่กำลังจะได้รับการแต่งตั้งเป็นนักบุญ
“จงปรารถนาในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือการเดินไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ใดก็ตาม อย่าได้พึงพอใจกับสิ่งที่น้อยกว่านั้น ขอให้ยึดแบบอย่างของ บุญราศีเปียร์จอร์โจ้ ฟราสซาติ และ บุญราศีคาร์โล อาคูติส ซึ่งจะได้รับการประกาศเป็นนักบุญเร็วๆนี้”
4. พบกันใหม่ในเยาวชนโลกครั้งหน้าที่เกาหลีใต้ 3-8 สิงหาคม ค.ศ. 2027
หลังมิสจบลง พระสันตะปาปาได้กล่าวขอบคุณเยาวชนทุกคนที่เข้าร่วมงานปีศักดิ์สิทธิ์ พร้อมชวนทุกคน สวดภาวนาให้เยาวชนผู้แสวงบุญสองคนที่เสียชีวิต นอกจากนี้ พระองค์ยังขอร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับเยาวชนที่กำลังทุกข์ทรมานในกาซ่าและยูเครน
จากนั้น พระสันตะปาปาทรงประกาศว่า งานเยาวชนโลก (World Youth Day) ครั้งต่อไป จะจัดที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 3-8 สิงหาคม ค.ศ. 2027 โดยมีหัวข้อว่า “จงมีความกล้าเถิด เราชนะโลกแล้ว” (จอห์น 16:33)
สุดท้าย พระสันตะปาปากล่าวขอบคุณผู้จัดงานและทุกคนที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง และขอให้เยาวชนนำความชื่นชมยินดีและสารแห่งความหวังนี้กลับไปแบ่งปันกับเพื่อนๆ และผู้คนในประเทศของตน
Sources:
- https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/angelus/2025/documents/20250803-angelus.html
Comments
Post a Comment