โป๊ปสอน การทำความดีอาจถูกต่อต้าน เพราะมันอาจ “สร้างความรำคาญ” ให้คนที่ไม่ต้อนรับ

  • โป๊ป เลโอ ที่ 14 สอน เราไม่ควรแปลกใจเมื่อการทำความดีถูกต่อต้าน เพราะบางครั้ง ความงดงามของมันสร้างความรำคาญแก่ผู้ที่ไม่ต้อนรับ
  • ทรงย้ำ อย่าตอบโต้ความโอหังด้วยการแก้แค้น เราต้องมุ่งมั่นทำความดีเพื่อตนเองและส่วนรวม แม้แต่คนที่คิดร้ายกับเรา แบบอย่างที่ดีคือบรรดามรณสักขีทั้งหลาย
  • ทรงยกตัวอย่าง “ราคาที่ต้องจ่าย” ของการทำความดีในชีวิตประจำวัน เช่น พ่อแม่ที่ดีที่ต้องกล้าพูดว่า “ไม่” กับลูก หรือครูที่ต้องการอบรมนักเรียนอย่างถูกต้อง







ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ทรงเป็นประธานในมิสซาที่สักการะสถานแม่พระแห่งโรตอนด้า กรุงโรม พระวรสารประจำสัปดาห์นี้ (ลูกา 12:49-53) พระเยซูตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ท่านคิดว่าเรามาเพื่อนำสันติภาพมาสู่โลกหรือ ไม่เลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า เรานำความแตกแยกมาต่างหาก”


Pope Report สรุปใจความสำคัญของบทเทศน์ประจำมิสซา มาให้ดังนี้


1. สันติสุขที่แท้จริงไม่ใช่ความสบาย แต่คือ “ไฟ” ที่อาจสร้างความแตกแยก


พระสันตะปาปาเริ่มด้วยการอธิบายคำสอนของพระเยซูที่อาจสร้างความสับสน เมื่อตรัสว่าจะนำ “ความแตกแยก” ไม่ใช่ “สันติภาพ” เพราะสันติสุขที่พระเยซูมอบให้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่โลกนำเสนอ


พระสันตะปาปาตรัสว่า “โลกสอนให้เราคุ้นเคยกับการแลกเปลี่ยนสันติภาพกับความสะดวกสบาย ความดีกับความสงบ ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้สันติสุขที่แท้จริงของพระเจ้ามาอยู่ท่ามกลางเรา พระเยซูจึงตรัสกับเราว่า ‘เรามาเพื่อโยนไฟลงบนแผ่นดิน และเราปรารถนาเพียงใดให้มันลุกไหม้’”


พระสันตะปาปายังอธิบายอีกว่า “การเลือกดำเนินชีวิตตามไฟแห่งความรักนี้ อาจนำไปสู่ความขัดแย้งกับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อนฝูง ที่เลือกจะยึดติดกับความสงบสบายมากกว่าความถูกต้อง”


2. ไฟที่พระเยซูนำมาคือไฟแห่งความรัก ที่พร้อมจะเสี่ยงและรับใช้


พระสันตะปาปาอธิบายถึง “ไฟ” ชนิดนี้ว่า “นี่ไม่ใช่ไฟแห่งอาวุธ ไม่ใช่ไฟแห่งคำพูดที่ทำลายล้างผู้อื่น แต่เป็นไฟแห่งความรักที่ถ่อมตนลงและรับใช้ ไฟแห่งความรักที่ต่อต้านความเฉยเมยด้วยการดูแลเอาใจใส่ และต่อต้านความหยิ่งยโสด้วยความอ่อนโยน”


หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงกลับไปนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้าวังฤดูร้อน คาสเตล กันดอลโฟ 


โดยสิ่งที่พระสันตะปาปาชาวอเมริกันให้ข้อคิดหลังการภาวนาก็คือ


3. การทำความดีอาจถูกต่อต้าน เพราะมันทำให้คนอื่นรำคาญ


พระสันตะปาปาอธิบายว่า “การเป็นคนดีหรือการทำความดีไม่ได้รับการตอบรับในเชิงบวกเสมอไป ตรงกันข้าม เพราะความงดงามของความดี บางครั้งก็สร้างความรำคาญแก่ผู้ที่ไม่ต้อนรับมัน เราจึงอาจลงเอยด้วยการเผชิญหน้ากับการต่อต้านที่รุนแรง แม้กระทั่งความโอหังและการกดขี่”


4. การตอบสนองของคริสตชนคือ “อย่าแก้แค้น”


เมื่อเผชิญกับการต่อต้านเช่นแบบนี้ พระสันตะปาปาจากคณะออกัสติเนี่ยนสอนว่า พระเยซูเชื้อเชิญให้เรามีท่าทีที่ชัดเจน


“พระเยซูเชิญชวนเรา อย่าตอบโต้ความโอหังด้วยการแก้แค้น แต่ให้ยังคงซื่อสัตย์ต่อความจริงในความรัก พระองค์ทรงกระตุ้นเราให้ทำความดีเพื่อตนเองและเพื่อส่วนรวมต่อไป แม้แต่คนที่ทำให้เราต้องทนทุกข์ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือบรรดามรณสักขีที่เป็นประจักษ์พยานของแนวทางนี้”


5) “ราคา” ของการทำความดีในชีวิตประจำวัน


พระสันตะปาปาทรงทำให้คำสอนนี้จับต้องได้มากขึ้นและใกล้ตัวยิ่งขึ้น ด้วยการยกตัวอย่าง “ราคาที่ต้องจ่าย” เพื่อการทำความดีในชีวิตประจำวัน


“ลองนึกถึงราคาที่พ่อแม่ที่ดีต้องจ่าย หากพวกเขาต้องการจะอบรมสั่งสอนลูกๆ ตามหลักการที่ดีงาม พวกเขาต้องพูดว่า ‘ไม่’ และว่ากล่าวตักเตือนลูกๆ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้พวกเขาเจ็บปวด หรือครูที่ต้องอบรมนักเรียนอย่างถูกต้อง หรือผู้ประกอบอาชีพ นักบวช หรือนักการเมืองที่ปรารถนาจะปฏิบัติภารกิจของตนอย่างซื่อสัตย์” พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย


หลังการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าวจบลง พระสันตะปาปาทรงร่วมทานอาหารกับผู้ยากไร้ในสวนของวังฤดูร้อน คาสเตล กันดอลโฟ อีกด้วย


Sources:


1. https://www.vatican.va/content/leo-xiv/it/homilies/2025/documents/20250817-omelia-albano.html


2. https://www.vatican.va/content/leo-xiv/en/angelus/2025/documents/20250817-angelus.html


3. https://www.vatican.va/content/leo-xiv/it/speeches/2025/august/documents/20250817-pranzo-poveri-castelgandolfo.html

Comments