100 วันแรกในสมณสมัย โป๊ปเลโอสานต่องานของโป๊ปฟรานซิสด้วยสไตล์ "รับฟังก่อน แล้วค่อยลงมือทำ”

 ➡️ โป๊ปเลโอ ก้าวผ่าน 100 วันแรกในสมณสมัยด้วยสไตล์สุภาพถ่อมตน และการเป็นคน “รับฟังก่อน แล้วค่อยลงมือทำ”


➡️ คาร์ดินัลบางคนพยายามถามคำถามกดดันพระสันตะปาปา แต่พระองค์ยกสมุดบันทึกขึ้นและอธิบายว่า “พ่อมาที่นี่เพื่อฟัง ไม่ใช่มาตอบคำถามด้วยตัวเอง ถ้าให้คิดและตอบเลย การรับฟังกันมันหายไปไหนล่ะ พ่อไม่อยากทำตัวเป็นคาวบอยผู้โดดเดี่ยวหรอกนะ”


➡️ โป๊ปเลโอ มีความได้เปรียบในการสื่อสารหลายภาษามากกว่าพระสันตะปาปาองค์ก่อนๆ เพราะพูดภาษาอังกฤษและสแปนิช ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่ง 2 ภาษานี้มีคนพูดมากสุดในโลกคาทอลิก


➡️ ทรงย้ำ จะสานต่อแนวทางของโป๊ปฟรานซิส ให้สำเร็จลุล่วง โดยเป็นการสานต่อในสไตล์ของตัวเอง






คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครก็ตามที่จะก้าวเข้ามารับตำแหน่งต่อจากพระสันตะปาปา ฟรานซิส เช่นเดียวกับที่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากนักบุญ จอห์น พอล ที่ 2 แต่พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ก้าวผ่าน 100 วันแรกในสมณสมัยของพระองค์ไปได้อย่างราบรื่น 


Pope Report ได้ติดตามบทความของ เจอร์รี่ โอคอนเนลล์ นักข่าวสายวาติกันที่มีความน่าเชื่อถือสูงมากๆ และเห็นว่า บทวิเคราะห์และข้อมูลวงในของ โอคอนเนลล์ น่าสนใจ จึงขอสรุปมาให้ติดตามกัน (เจอร์รี่ โอคอนเนลล์ คือคนแรกที่โทรศัพท์ไปหา คาร์ดินัล ฆอร์เค่ แบร์โกโญ่ ซึ่งก็คือพระสันตะปาปา ฟรานซิส เพื่อแจ้งว่า พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 สละตำแหน่ง นอกจากนี้ คาร์ดินัล ฆอร์เค่ แบร์โกโญ่ เป็นคนโปรดศีลล้างบาปให้ลูกๆของโอคอนเนลล์ด้วย)


1️⃣ ความเรียบง่าย ความถ่อมตน และความสามารถทางภาษา


โดยธรรมชาติแล้ว พระสันตะปาปา เลโอ เป็นคนที่ถ่อมตัวมากๆ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ค่อนข้างสงวนตัว อย่างไรก็ตาม พระองค์ก็มีด้านที่เป็นธรรมชาติซึ่งเริ่มปรากฏออกมาในการปฏิสัมพันธ์กับฝูงชน ดังที่เราได้เห็นในงานปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับเยาวชน


ในฐานะเจ้าของภาษาอังกฤษคนแรกที่ได้เป็นพระสันตะปาปานับตั้งแต่อาเดรียนที่ 4 (ค.ศ. 1154-59) พระสันตะปาปาเลโอชนะใจชาวอิตาเลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษและสเปนของพระองค์ได้ช่วยให้พระองค์สามารถสื่อสารได้อย่างอิสระในสองภาษาที่มีผู้พูดมากที่สุดในโลกคาทอลิก


ในช่วงสามเดือนแรกของสมณสมัย หลายคนบอกว่า “ออร่า” หรือรังสีที่ดูเหมือนเปล่งจากตัวของพระสันตะปาปาจากคณะออกัสติเนี่ยน ก็คือ “ความสงบภายใน” เพราะดูเป็นคนนิ่งมากๆ แต่เป็นความนิ่งที่ดูมีความสุขกับการเป็นพระสันตะปาปา เช่นเดียวกับที่พระสันตะปาปา ฟรานซิส เคยเป็น


2️⃣ สานต่อมรดกพระสันตะปาปา ฟรานซิส ด้วยสไตล์ของตัวเอง


แม้ว่าพระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 จะมีสไตล์ที่แตกต่างจากพระสันตะปาปา ฟรานซิส แต่พระสันตะปาปาชาวอเมริกันบอกอย่างชัดเจนแล้วว่า พระองค์ตั้งใจจะก้าวเดินต่อไปตามเส้นทางที่พระสันตะปาปาองค์ก่อนหน้าได้นำทางไว้ในการนำสังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 มาปฏิบัติให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น


พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 ตรัสว่า พระองค์ตั้งใจจะส่งเสริมการเติบโตเรื่องการก้าวเดินไปด้วยกัน การรับฟังกัน และจะสร้างศาสนจักรที่เป็นธรรมทูตต่อไป พระองค์ตั้งใจที่จะปฏิรูปโรมันคูเรียและการเงินของวาติกันตามความตั้งใจของพระสันตะปาปา ฟรานซิส ให้สำเร็จลุล่วง และรับประกันการปกป้องคุ้มครองผู้เยาว์และผู้เปราะบางทุกคน


แนวทางของพระสันตะปาปา เลโอ แตกต่างจากของพระสันตะปาปา ฟรานซิส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความสัมพันธ์กับโรมันคูเรีย พระองค์ชนะใจพนักงานคูเรียด้วยการมอบเงินโบนัส 500 ยูโร ซึ่งจะเป็นเงินพิเศษที่วาติกันจะมอบให้พนักงานทุกคนถ้าหากมีพระสันตะปาปาองค์ใหม่ (ตอนที่พระสันตะปาปา ฟรานซิส ได้รับเลือก พระองค์ขอให้นำเงินโบนัส ไปมอบให้คนยากจนแทน)


นอกจากนี้ พระสันตะปาปา เลโอ ยังให้การยอมรับบทบาทที่สำคัญของสำนักเลขาธิการแห่งรัฐ โดยตรัสกับพวกเขาว่า “พ่อเห็นกับตาแล้วว่า พระสันตะปาปาไม่สามารถทำงานตามลำพังได้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากผู้คนมากมายในสันตะสำนัก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากทุกท่านในสำนักเลขาธิการแห่งรัฐ”


3️⃣ “รับฟังก่อน แล้วจึงลงมือทำ” หัวใจของการเป็นสมัชชาและก้าวไปด้วยกัน


คาร์ดินัล ปาโบล เวอร์จิลิโอ ดาวิด ประธานสภาบิช็อปคาทอลิกแห่งฟิลิปปินส์ เล่าให้ฟังว่า “100 วันแรกของพระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 แสดงให้เห็นถึงผู้เลี้ยงแกะที่สร้างต่อยอดจากมรดกของพระสันตะปาปา ฟรานซิส ในเรื่องศาสนจักรที่ก้าวเดินไปด้วยกัน แต่ด้วยสไตล์ที่ชัดเจนของพระองค์เองคือ การรับฟังก่อนแล้วจึงลงมือทำ”


คาร์ดินัลดาวิด ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่พระสันตะปาปา เลโอ ประชุมร่วมกับคณะคาร์ดินัลว่า “เมื่อสมาชิกคาร์ดินัลกดดันพระสันตะปาปาด้วยคำถามต่างๆ พระสันตะปาปาได้ยกสมุดบันทึกขึ้นและอธิบายว่าพระองค์นำมันมาก็เพื่อที่จะรับฟังเรา ไม่ใช่เพื่อตอบทุกอย่างด้วยพระองค์เอง ถ้าจะให้พ่อคิดเองและตอบเลย แล้วแบบนี้ การเป็นสมัชชาของการรับฟังกันและก้าวไปด้วยกัน มันหายไปไหนล่ะ”


“พระสันตะปาปา ยังอธิบายอีกว่า ‘พ่อไม่มีเจตนาที่จะทำตัวเป็นคาวบอยผู้โดดเดี่ยวหรอกนะ’ วินาทีนั้นได้ ทำให้พวกเราที่เป็นคาร์ดินัลตระหนักและรู้ถึงวิธีที่พระองค์จะใช้บริหารและรับใช้ศาสนจักร” คาร์ดินัล ดาวิด ให้ข้อมูล


4️⃣ ความสุขุมรอบคอบและการวางแผนอนาคต


แน่นอนว่า มีหลายเสียงในศาสนจักรบอกว่า พระสันตะปาปา เลโอ ดูเงียบไปหน่อย ทำอะไรไม่เร็วเหมือนพระสันตะปาปา ฟรานซิส แต่เรื่องนี้ คาร์ดินัล ไมเคิ่ล แชร์นี่ ประธานสมณกระทรวงเพื่อการส่งเสริมการพัฒนาสมบูรณ์ของมนุษย์ ได้ให้ความเห็นว่า "การที่พระสันตะปาปา เลโอ รับฟังและเรียนรู้อย่างเงียบๆ ค่อยๆ มีส่วนร่วมนั้น ดูจะสมเหตุสมผลกว่ามาก”


ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา เลโอ ได้เรียกประธานสมณกระทรวงของวาติกันทุกกระทรวง มาพบและพูดคุย แต่พระองค์ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงบุคลากรที่สำคัญใดๆ แม้กระทั่งตำแหน่งประธานสมณกระทรวงเพื่อบิช็อปที่พระองค์เคยดำรงตำแหน่งอยู่


ส่วนเรื่องแผนงานในอนาคต พระสันตะปาปา เลโอ ได้บอกกับคาร์ดินัลท่านหนึ่งที่มาเข้าเฝ้าว่า 


“ประสบการณ์การเป็นมิชชันนารี่แพร่ธรรมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพ่อ ในฐานะนักบวชออกัสติเนี่ยน พ่อเคยเป็นธรรมทูตในเปรู และท่ามกลางชาวเปรู กระแสเรียกด้านการอภิบาลของพ่อก็ได้เติบโตขึ้น ... และพ่อก็ยังคงดำเนินต่อไปและจะดำเนินต่อไป ตราบเท่าที่พระเจ้าต้องการและอยากให้พ่อทำ”


ดังนั้น เราพอจะเดาได้ว่า หนึ่งในเรื่องที่ศาสนจักรคาทอลิกในสมณสมัยของพระสันตะปาปา เลโอ ที่ 14 จะให้ความสำคัญมากๆ ก็คือ “งานแพร่ธรรมและการก้าวเดินไปด้วยกัน รับฟังกัน และค่อยลงมือปฏิบัติอย่างแน่นอน” 


Source:


- https://www.americamagazine.org/vatican-dispatch/2025/08/14/pope-leo-first-100-days/ 


Comments