ขอบคุณครับ พระสันตะปาปา ฟรานซิส

วันนี้ 21 เมษายน 2025 เวลา 14.40 น.​ (ตามเวลาไทย) ผมกำลังคำนวณตัวเลขอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกัน Notification จากโทรศัพท์ที่เป็นกลุ่มนักข่าวสายวาติกันก็เด้งไม่หยุด

ผมเปิดดูแล้วมีข้อความว่า “เดี๋ยวจะมีประกาศจากวัดน้อยในหอพัก ซานตา มาร์ธา ทางช่องวาติกันนิวส์”

ผมอ่าน แต่ไม่ได้ใส่ใจ เพราะคิดว่า น่าจะไม่มีอะไร

14.45 น. ภาพถ่ายทอดสดมาแล้ว ปรากฏว่า มีคนยืนอยู่ 4 คนได้แก่ คาร์ดินัล ปิเอโตร ปาโรลิน เลขาธิการนครรัฐวาติกัน, คาร์ดินัล เควิน ฟาร์เรลล์ คาร์ดินัลคาร์เมอร์เล็นโก้, อาร์คบิช็อป เอ็ดการ์ เปญญ่า รองเลขาธิการนครรัฐวาติกัน และ อาร์คบิช็อป ดีเอโก้ ราเวลลี่ หัวหน้านายจารีตประจำสันตะสำนัก 

คนที่ทำให้ผม “เอะใจ” มากสุดคือ คาร์ดินัล เควิน ฟาร์เรลล์ ผู้เป็นคาร์ดินัลคาร์เมอร์เล็นโก้ เพราะตำแหน่งนี้จะโผล่มาในจังหวะตำแหน่งพระสันตะปาปา “ว่าง” ลง

คาร์ดินัลฟาร์เรลล์ อ่านข้อความภาษาอิตาเลี่ยนที่ผมพอฟังออกบางคำ โดยคำพูดที่ทำให้ผมไปต่อไม่เป็นก็คือ “La Morte” คือสิ้นพระชนม์ 

จากนั้น ข้อความในกลุ่มนักข่าววาติกัน ก็พิมพ์ตามมาว่า “The Pope is dead”

ตอนนั้น ผมสตั้นและนิ่งไปเกือบ 5 นาทีได้มั้ง แบบงงไปหมดว่า มันเป็นไปได้ยังไง และหลังจากรวบรวมสติได้ ผมก็พิมพ์รายงานบน Pope Report ว่า 

“Breaking: พระสันตะปาปา ฟรานซิส สิ้นพระชนม์แล้ว” (ผมพิมพ์ไป มือสั่นไป) 

นี่น่าจะหนึ่งในข่าวที่ “ความรู้สึกหนักอึ้งที่สุด” ที่เคยพิมพ์รายงานออกไป 

______________

นับตั้งแต่ 13 มีนาคม ค.ศ.2013 จนถึง 21 เมษายน ค.ศ.2025 ที่ผมได้ตามทำข่าวพระสันตะปาปา ฟรานซิส ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปา (ผมยังจำบรรยากาศคืนนั้นได้ดีที่พิมพ์รายงานบน Pope Report … น้องชายแท้ๆของผมก็ไปเที่ยววาติกันวันนั้นพอดี ก็ได้อยู่ในเหตุการณ์สดๆหน้ามหาวิหารด้วย)

และมาถึงวันนี้ 21 เมษายน ค.ศ.2025 วันที่ผมต้องมาพิมพ์รายงานข่าวรายงานการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ 

แม้จะมี 7 ปี (2017-2023) ที่ผมหายตัวไปจากการรายงานข่าวตลอดเวลา 12 ปีในสมณสมัยของพระสันตะปาปา ฟรานซิส (แต่ช่วงโควิดผมก็ออกมารายงานข่าวช่วงวิกฤติให้พระสันตะปาปา) ผมว่า ผมดีใจที่ได้ทำหน้าที่นี้เพื่อพระสันตะปาปา ฟรานซิส ... ทำตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายของพระองค์

และตอนนี้ ผมได้คำตอบแล้วว่า “การกลับมาทำ Pope Report รอบนี้ พระต้องการอะไร”

ขอบคุณพระสันตะปาปา ฟรานซิส ที่ทำให้ “ความศรัทธา” ของผมกลับมาอีกครั้ง

มันเหมือนการทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน การเรียน หรือธุรกิจ ถ้าคุณเคย “ล้ม” แต่ “ลุกขึ้นกลับมาได้” คุณจะแข็งแกร่งกว่าเดิม

ช่วงที่ผมสร้างบริษัทสร้างธุรกิจของตัวเองอย่างจริงจัง ผมมีหนีหายจากพระเจ้าไปบ้าง แต่พระเจ้าก็ส่ง “ประกาศก” มากหน้าหลายตามาเตือนสติและมาตามให้ผมกลับมาหาพระองค์

เมื่อคุณเคยวิ่งหนีจากพระเจ้า เหมือนเปโตรหนีพระเยซู แต่วันที่เขากลับมาหาพระ มาพร้อมความเชื่อ ความเชื่อมันจะหนักแน่นกว่าเดิมมากๆ 

หนึ่งในประกาศกที่พระส่งมาก็คือ “พระสันตะปาปา ฟรานซิส” ที่สอนผมว่า แม้เราจะทำธุรกิจได้ดียังไง ก้าวหน้าแค่ไหน แต่เรายังต้องรู้จักสุภาพ ถ่อมตน อย่าลืมตัว และจงทำตัวติดดิน

และบทสอนสุดท้ายที่กระแทกใจผมอย่างแรง นั่นคือ บทแบ่งปันในวันเดินรูป 14 ภาค วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์

“มนุษย์ในยุคนี้ หมดลมหายใจเพราะวิ่งหนีความรับผิดชอบ ตรงกันข้ามกับพระเยซูที่รับผิดชอบหน้าที่จนทุกสิ่งสำเร็จด้วยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระเยซูไม่หนีจากความรับผิดชอบ แล้วเราล่ะ หนีความรับผิดชอบ หนีความจริงหรือไม่”

ขอบคุณครับ พระสันตะปาปา ฟรานซิส … โปรดช่วยภาวนาเพื่อพวกเราด้วย