โป๊ปย้ำคริสตชนต้องออกวิ่งตามหาพระเยซูผู้คืนชีพ ไม่ใช่จำกัดพระองค์ไว้แค่ในเรื่องเล่า หรือรูปปั้น

  • โป๊ปฟรานซิส ย้ำ คริสตชนต้องออกวิ่งไปตามหาพระเยซูผู้กลับคืนชีพเหมือนมารีอา มักดาเลนา, เปโตร และจอห์น พระเยซูกลับคืนชีพและมีชีวิต อย่าจำกัดพระองค์ไว้แค่ในนิทาน เรื่องเล่า หรือรูปปั้น
  • ทรงหวังเห็นทุกชาติสะสม “อาวุธแห่งสันติ” มันคือการช่วยเหลือผู้ยากไร้ ต่อสู้กับความหิวโหย และส่งเสริมการพัฒนามนุษย์และสังคม 


Photo: Reuters




พิธีมิสซาวันอาทิตย์สมโภชปาสกาในปีนี้ พระสันตะปาปาไม่ได้เป็นประธาน แต่พระองค์ทรงมอบหมายให้ คาร์ดินัล อันเจโล่ โคมาสตรี้ เป็นประธานในพิธี จากนั้น ในการประทานพร Urbi et Orbi (อูร์บิ เอ็ด ออร์บิ - แด่โรมและโลก) พระสันตะปาปาได้ออกมาอวยพรทุกคน 


Pope Report ขอสรุปสาระสำคัญของบทเทศน์ในมิสซาที่ คาร์ดินัล อันเจโล่ โคมาสตรี้ อ่านบทเทศน์ที่พระสันตะปาปาเตรียมไว้ให้ ส่วนสารก่อนการประทานพรแด่โรมและโลก อาร์คบิช็อป ดีเอโก้ ราเวลลี่ หัวหน้านายจารีตประจำสันตะสำนัก เป็นคนอ่านสิ่งที่พระสันตะปาปาเตรียมไว้


บทเทศน์ในมิสซา


1. จงวิ่งออกไปค้นหาพระคริสต์ผู้กลับคืนชีพ


นี่คือหัวใจของบทเทศน์วันปาสกา 2025 ที่พระสันตะปาปาฟรานซิสเตรียมไว้ พระวรสารที่เล่าเหตุการณ์ที่มารีอา มักดาเลนา, เปโตร และจอห์น ต่าง “วิ่ง” ไปที่คูหาเมื่อได้ยินข่าวว่าหินหน้าคูหาถูกกลิ้งออกไป 


พระสันตะปาปาบอกว่า การวิ่งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงความวิตกกังวลว่าศพของพระเยซูถูกนำไปที่ใด แต่ยังสะท้อนถึงความปรารถนาอันลึกซึ้งในหัวใจของผู้ศรัทธาที่ออกค้นหาพระเยซูผู้กลับคืนชีพ นี่คือสาระสำคัญของปาสกา เราต้องออกค้นหาพระองค์ในที่อื่น พระคริสต์คืนชีพแล้ว พระองค์มีชีวิตอยู่ พระองค์ไม่ใช่เชลยของความตายอีกต่อไป ดังนั้น คริสตชนไม่ควรจำกัดพระเยซูไว้แค่ในนิทาน เรื่องเล่า หรือรูปปั้นในพิพิธภัณฑ์ แต่ต้องออกค้นหาพระองค์ในชีวิตจริง ในใบหน้าของพี่น้อง ในกิจวัตรประจำวัน ในทุกสถานการณ์ ยกเว้นในคูหาแห่งความตาย


2. ปาสกาไม่ใช่การหยุดนิ่ง แต่คือการลงมือปฏิบัติ


พระสันตะปาปาเตือนว่า ความเชื่อในปาสกาไม่ใช่การหยุดนิ่งอยู่กับที่หรือแค่หาความสบายใจทางศาสนา แต่เป็นการถูกกระตุ้นให้ “ออกวิ่ง” เหมือนมารีอา มักดาเลนา, เปโตร และจอห์น นี่คือการมีสายตาใหม่ที่มอง “ไกลกว่า” สายตาที่เห็นพระเยซูผู้มีชีวิตเป็นพระเจ้า ผู้เปิดเผยพระองค์และอยู่กับเราทุกวัน


“ขอพระเจ้าทรงชำระล้างเราจากฝุ่นแห่งความเคยชิน ความเหนื่อยล้า และความเฉยเมย ขอพระองค์ประทานความชื่นชมยินดีในการตื่นขึ้นทุกเช้าด้วยความประหลาดใจ พร้อมสายตาที่พร้อมจะเห็นสีสันใหม่ของเช้าวันนี้ ... ทุกสิ่งใหม่ในพระองค์ ไม่มีอะไรเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเก่าอีกต่อไป ในความอัศจรรย์แห่งความเชื่อปาสกา เราสามารถกล่าวได้ว่า ‘กับพระองค์ ทุกสิ่งใหม่ กับพระองค์ ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่’” พระสันตะปาปาสรุปในบทเทศน์


การประทานพรแด่โรมและโลก (Urbi et Orbi)


1. ปาสกาคือเทศกาลแห่งชีวิต


พระสันตะปาปาระบุว่า ปาสกาคือเทศกาลแห่งชีวิต พระเจ้าทรงเห็นคุณค่าของทุกชีวิต ทั้งเด็กในครรภ์ มนุษย์ผู้สูงวัย หรือผู้ป่วย แม้ในบางประเทศจะถูกมองว่าไร้ค่า


2. เรียกร้องสันติภาพในหลายภาคส่วนของโลก


พระสันตะปาปาวอนขอให้ “แสงแห่งสันติภาพจากคูหาศักดิ์สิทธิ์” ส่องไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์และทั่วโลก พระสันตะปาปาแสดงความใกล้ชิดกับคริสตชนในปาเลสไตน์และอิสราเอล รวมถึงประชาชนในกาซ่า ที่ยังต้องเผชิญสงครามและวิกฤตมนุษยธรรม พระองค์เรียกร้องให้ “หยุดยิง ปล่อยตัวตัวประกัน และช่วยเหลือประชาชนที่หิวโหยและใฝ่หาสันติภาพ”


พระองค์ยังทรงภาวนาเพื่อคริสตชนในเลบานอน ซีเรีย พม่า เยเมน ยูเครน แอฟริกา และภูมิภาคอื่นๆ ที่ยังเผชิญความรุนแรงและความไม่มั่นคง พร้อมเน้นย้ำว่า “ไม่มีสันติภาพที่แท้จริงหากปราศจากเสรีภาพทางศาสนา เสรีภาพในการคิดและแสดงออก และการเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น”


3. ขอให้โลกเลือก “อาวุธแห่งสันติ”


พระสันตะปาปาเตือนว่า “สันติภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้หากโลกยังคงวิ่งแข่งสะสมอาวุธ” พระองค์เชิญชวนให้มนุษยชาติ “ทำลายกำแพงแห่งความแตกแยก ดูแลกันและกัน เพิ่มความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว และส่งเสริมการพัฒนาทุกคนอย่างสมบูรณ์” พร้อมย้ำว่า “อาวุธแห่งสันติ” คือการช่วยเหลือผู้ยากไร้ ต่อสู้กับความหิวโหย และส่งเสริมการพัฒนา ไม่ใช่การหว่านเมล็ดแห่งความตาย


4. หลักมนุษยธรรมต้องไม่เลือนหาย


พระสันตะปาปาเน้นว่า หลักมนุษยธรรมต้องเป็นหัวใจของการกระทำในแต่ละวัน “ต่อหน้าความโหดร้ายของสงครามที่โจมตีพลเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรม เราไม่อาจลืมได้ว่าผู้ที่ถูกโจมตีคือมนุษย์ผู้มีวิญญาณและศักดิ์ศรี”


หลังกาารประทานพรจบลง พระสันตะปาปาทรงเซอร์ไพรส์ทุกคนด้วยการออกมานั่งรถโป๊ปโมบิล ทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเองที่ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร พระสันตะปาปาชี้นิ้วสั่งเองด้วยว่า ให้ไปทางไหน และเมื่อเห็นเด็กเล็กๆ พระองค์ก็สั่งให้หยุดรถ และพาเด็กมาหาพระองค์


Sources:


1. https://www.vatican.va/content/francesco/en/homilies/2025/documents/20250420-omelia-pasqua.html


2. https://press.vatican.va/content/salastampa/it/bollettino/pubblico/2025/04/20/0266/00492.html#ing

Comments