โป๊ปฟรานซิส เรียกร้องสงฆ์คาทอลิกละทิ้งการยึดติดกับอำนาจสงฆ์ เพื่อทำตัวเป็นผู้นำข่าวดีแห่งความหวัง

• โป๊ปฟรานซิส เรียกร้องสงฆ์คาทอลิกละทิ้งการยึดติดกับอำนาจสงฆ์ เพื่อทำตัวเป็นผู้นำข่าวดีแห่งความหวัง

• ทรงชี้ สงฆ์ที่รักฝูงแกะของตน จะไม่ทำตัวเด่นดัง จะไม่แสวงหาการยกย่อง 

• ทรงย้ำ สงฆ์มีหน้าที่ช่วยผู้อื่นให้ค้นหาพระวาจาที่ตอบโจทย์ชีวิตของตน แต่เราจะนำพระคัมภีร์ไปใช้รับใช้ผู้อื่นได้ ก็ต่อเมื่อพระคัมภีร์ยังคงเป็นบ้านหลังแรกของเรา

• ทรงให้การบ้านแก่สงฆ์ทุกคนว่า “จงเชื่อว่าพระเจ้าไม่ได้ผิดพลาดกับเรา”

• ส่วนตอนเย็น พระสันตะปาปาไปเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำเรจินา โคเอลี่ 

Photo: Vatican Media

ช่วงสายวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านมา (17 เมษายน 2025) พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงมอบหมายให้คาร์ดินัล โดเมนิโก กัลกาโญ่ เป็นประธานในมิสซาเสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน 

ในมิสซานี้ คาร์ดินัลกัลกาโญ่ ได้อ่านบทเทศน์ที่พระสันตะปาปาเตรียมไว้ พระสันตะปาปาเน้นย้ำถึงความหมายของปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับชีวิตสงฆ์และศาสนจักร โดยหยิบยกพระวาจาจากหนังสือวิวรณ์ “พระเจ้าผู้ทรงดำรงอยู่ในปัจจุบัน ผู้ดำรงอยู่ในอดีตและผู้เสด็จมา พระผู้ทรงสรรพานุภาพตรัสว่า ‘เราเป็นอัลฟ่าและโอเมก้า’” (วิวรณ์ 1:8) มาเป็นจุดเริ่มต้นของการไตร่ตรองถึงประวัติศาสตร์แห่งความหวังที่มีรากฐานอยู่ในเนื้อหนังของพระเยซูคริสต์

Pope Report สรุปใจความสำคัญของบทเทศน์นี้มาให้ ดังต่อไปนี้

1. พระเยซูคือศูนย์กลางของประวัติศาสตร์และความหวัง

พระสันตะปาปาตรัสว่า พระเยซูคือศูนย์กลางของประวัติศาสตร์มนุษย์ พระองค์ทรงเปิดหนังสือแห่งชีวิตและสอนให้เราค้นพบความหมายและพันธกิจของตนเอง “หากเราเปิดใจให้พระองค์สอน พันธกิจของเราจะกลายเป็นพันธกิจแห่งความหวัง เพราะในแต่ละเรื่องราวของเรา พระเจ้าทรงเปิดปีศักดิ์สิทธิ์ เป็นช่วงเวลาและโอเอซิสแห่งพระหรรษทาน”

2. ปีศักดิ์สิทธิ์: การเริ่มต้นใหม่สำหรับสงฆ์

สำหรับสงฆ์ พระสันตะปาปาเน้นย้ำว่าปีศักดิ์สิทธิ์คือการเรียกร้องให้เริ่มต้นใหม่บนเส้นทางแห่งการกลับใจ “ในฐานะผู้แสวงบุญแห่งความหวัง เราถูกเรียกให้ละทิ้งจิตวิญญาณและการยึดติดกับอำนาจของสงฆ์ (Clericalism) เพื่อจะได้เป็นผู้นำข่าวดีแห่งความหวัง” พระสันตะปาปาเตือนว่า สงฆ์ที่รักประชากรของตน จะไม่แสวงหาการยกย่องหรือการยอมรับในทุกกรณี แต่พวกเขาแสวงหาความซื่อสัตย์ต่อความรักที่มอบให้พระเจ้าและลูกแกะของพระองค์

3. พระวาจาของพระเจ้าคือบ้านหลังแรกของสงฆ์

พระสันตะปาปายังเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างสงฆ์กับพระวาจาของพระเจ้า “เรานำพระคัมภีร์ไปใช้รับใช้ผู้อื่นได้ ก็ต่อเมื่อพระคัมภีร์ยังคงเป็นบ้านหลังแรกของเรา” พระองค์กล่าวว่า แต่ละคนมีหน้าพระคัมภีร์ที่สัมผัสใจเป็นพิเศษ และสงฆ์มีหน้าที่ช่วยให้ผู้อื่นค้นหาพระวาจาที่ตอบโจทย์ชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นคู่แต่งงานใหม่หรือผู้ที่กำลังสูญเสีย

4. พระจิตคือผู้ดำเนินงานเงียบๆ ในชีวิตสงฆ์

พระสันตะปาปาทรงเตือนให้สงฆ์ระลึกถึงพระจิต “ประชากรสัมผัสลมหายใจของพระจิต เมื่อถ้อยคำของเรากลายเป็นความจริงในชีวิตของเรา” พร้อมย้ำว่า “น้ำมันเสกศักดิ์สิทธิ์ที่เราถวายวันนี้เป็นตราประทับแห่งธรรมล้ำลึกของการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงชีวิตคริสตชน อย่าท้อแท้ เพราะทุกสิ่งเป็นงานของพระเจ้า”

5. จงเชื่อในพระผู้ทรงเรียก

พระสันตะปาปาได้ให้ “การบ้าน” แก่สงฆ์ทุกคนว่า “จงเชื่อ! จงเชื่อว่าพระเจ้าไม่ได้ผิดพลาดกับเรา พระเจ้าไม่เคยผิดพลาด” พร้อมเตือนให้ระลึกถึงถ้อยคำในวันบวช “ขอพระเจ้าผู้ทรงเริ่มงานดีในตัวท่าน ทรงนำไปสู่ความสำเร็จ” และย้ำว่านี่คืองานของพระเจ้า ไม่ใช่ของเรา

6. พันธกิจแห่งปีศักดิ์สิทธิ์คือนำข่าวดีสู่โลก

พระสันตะปาปาตรัสว่า งานของพระเจ้าคือการนำข่าวดีไปสู่คนยากจน อิสรภาพแก่นักโทษ การมองเห็นแก่คนตาบอด และอิสรภาพแก่ผู้ถูกกดขี่ “ศาสนบริกรของเรากลายเป็นพันธกิจแห่งปีศักดิ์สิทธิ์ เหมือนของพระองค์ สำเร็จโดยไม่มีการโอ้อวด แต่ผ่านการอุทิศตนที่ไม่ทำตัวเด่นดัง แต่เด็ดเดี่ยวและไม่หวังผลตอบแทน”

7. เชิญชวนคริสตชนสวดภาวนาเพื่อสงฆ์

ท้ายที่สุด พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเชิญชวนสัตบุรุษทุกคน ในฐานะประชากรแห่งความหวัง ให้ร่วมสวดภาวนาในวันนี้เพื่อความชื่นชมยินดีของสงฆ์ทุกคน 

นอกจากนี้ ช่วงเย็นวันเดียวกัน พระสันตะปาปา ฟรานซิส ได้เสด็จไปเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำเรจินา โคเอลี่ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆวาติกัน พร้อมทักทายผู้ต้องขังกว่า 70 คนอย่างเป็นกันเองด้วย 

เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของพระสันตะปาปา ฟรานซิส ที่วันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ พระองค์จะไปเยี่ยมผู้ต้องขังตามเรือนจำต่างๆ 

Sources:

1. https://press.vatican.va/content/salastampa/it/bollettino/pubblico/2025/04/17/0257/00486.html

2. https://www.vaticannews.va/it/papa/news/2025-04/papa-francesco-carcere-regina-coeli-giovedi-santo.html