หมอที่รักษาโป๊ป ยกย่อง “บุรุษพยาบาลประจำตัวโป๊ป” คือคนตัดสินใจให้ทีมแพทย์สู้ต่อให้สุด ในตอนที่แพทย์เริ่มกลัวโป๊ปจะสิ้นพระชนม์

มัสซิมิเลียโน่ สตรัปเป็ตติ (ขวา) บุรุษพยาบาลประจำตัวพระสันตะปาปา/ Photo: Vatican Media


ศ.นพ.แซร์โจ้ อัลฟิเอรี่ หัวหน้าทีมแพทย์ผู้รักษาพระสันตะปาปา ฟรานซิส ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับ “คอร์ริเอเร่ เดลลา เซร่า” หนังสือพิมพ์ชั้นนำของอิตาลีในหัวข้อเกี่ยวกับการรักษาพระสันตะปาปา ฟรานซิส 


เนื้อหาหลักๆ ไม่ต่างจากที่ “หมอแซร์โจ้” ให้สัมภาษณ์กับรายการ TG1 ของสถานีโทรทัศน์ “ไร” (Rai) ของอิตาลี (อ่านเนื้อหาตอนนี้ได้ที่ หมอที่รักษาโป๊ปยอมรับ ตอนที่กลัวโป๊ปจะสิ้นพระชนม์คือตอนเกิดภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน


แต่มีส่วนเพิ่มเติมที่น่าสนใจ และ Pope Report อยากสรุปให้อ่าน ดังนี้


1. หมอแซร์โจ้ บอกว่า วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 คือวันที่วิกฤติที่สุด มันคือวันที่พระสันตะปาปามีอาการหลอดลมตีบเฉพาะที่ ซึ่งทำให้เกิดอาการอาเจียน นำไปสู่การสำลักและอาการทางการหายใจแย่ลงอย่างฉับพลัน


“นี่คือช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด นี่คือครั้งแรกที่ผมเห็นน้ำตาของคนที่อยู่รอบๆพระองค์ ผมรู้ว่าพวกเขารักพระสันตะปาปาเหมือนพ่อของตัวเอง พวกเราทุกคนตระหนักดีว่าสถานการณ์ได้แย่ลงเรื่อยๆ และมีความเสี่ยงว่าพระองค์อาจจะสิ้นพระชนม์”


2. หมอแซร์โจ้ ให้เครดิตยกย่อง “มัสซิมิเลียโน่ สตรัปเป็ตติ” บุรุษพยาบาลประจำตัวพระสันตะปาปา ว่าเป็นคนตัดสินใจว่า “ต้องสู้ให้สุด ต้องทำทุกทางเพื่อช่วยชีวิตพระสันตะปาปาให้ได้” 


หมอแซร์โจ้ เล่าว่า “ตอนนั้น ทีมแพทย์ต้องเลือกว่าจะหยุดและปล่อยให้พระองค์จากไป หรือจะสู้สุดชีวิตและพยายามใช้ยาทุกชนิดและการรักษาที่เป็นไปได้ แม้มันจะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำลายอวัยวะอื่นๆ เช่น ไตและไขกระดูก แต่ในที่สุดเราก็เลือกเส้นทางนี้”


“คนที่ตัดสินใจเลือกการสู้ต่อคือ มัสซิมิเลียโน่ สตรัปเป็ตติ บุรุษพยาบาลประจำตัวพระสันตะปาปา พระองค์มอบหมายการตัดสินใจเรื่องการดูแลสุขภาพทุกประเภทให้กับสตรัปเป็ตติ เขาคือคนที่รู้ความต้องการของพระสันตะปาปาทุกอย่าง” 


“ตอนนั้น สตรัปเป็ตติ บอกกับพวกเราว่า ‘ลองทุกวิธี อย่ายอมแพ้ นั่นคือสิ่งที่เราทุกคนคิดเช่นกัน และไม่มีใครถอดใจ’”


3. หมอแซร์โจ้ ย้ำว่า ตนเองเป็น “ผู้มีความเชื่อในพระเจ้า” และยอมรับว่า พระสันตะปาปา ฟรานซิส มีทรัพยากรล้ำค่ามากๆคือ “คำภาวนาจากทั่วโลกที่ส่งมาให้พระองค์”


“ผมคิดว่าการที่โลกทั้งโลกสวดภาวนาเพื่อพระองค์ก็เป็นส่วนช่วยในเรื่องนี้ด้วย มีบทความทางวิทยาศาสตร์ว่าการสวดภาวนาช่วยให้ผู้ป่วยมีความแข็งแรงขึ้น ในกรณีนี้ โลกทั้งโลกเริ่มสวดภาวนา ผมสามารถพูดได้ว่าสถานการณ์ย่ำแย่ถึงสองครั้งแล้ว แต่แล้วมันก็เกิดขึ้นเหมือนปาฏิหาริย์ แน่นอนว่าพระองค์เป็นผู้ป่วยที่ให้ความร่วมมืออย่างดี พระองค์ทรงรับการบำบัดทั้งหมดโดยไม่เคยร้องทุกข์เลย”


4. หมอแซร์โจ้ ยังเล่าอีกว่า เมื่อพระสันตะปาปาอาการดีขึ้นเรื่อยๆ พระองค์เริ่มขอให้คนเข็นรถพาพระองค์ไปรอบๆห้องผู้ป่วยคนอื่น วันๆหนึ่ง พระสันตะปาปาออกจากห้องพักมากกว่า 5 ครั้ง และมีอยู่คืนหนึ่งที่พระองค์ให้เงินผู้ช่วยไปซื้อพิซซ่ามาเลี้ยงทีมแพทย์และพยาบาลที่ดูแลพระองค์


5. หมอแซร์โจ้ ปิดท้ายด้วยการกล่าวว่า “โมเมนต์ที่ประทับใจสุดคือการได้เห็นผู้ป่วยท่านนี้ ได้ออกจากห้องคนไข้ชั้น 10 ของโรงพยาบาล และได้เปลี่ยนชุดจากชุดคนไข้ ไปเป็นชุดพระสันตะปาปา อารมณ์นี้คือที่สุดแล้ว เพราะเราได้เห็นผู้ป่วยท่านนี้ได้กลายเป็นพระสันตะปาปาอีกครั้ง”



Source:


- https://roma.corriere.it/notizie/cronaca/25_marzo_25/sergio-alfieri-medico-papa-francesco-intervista-831726d5-9d39-4e4d-8d75-be640de49xlk.shtml

Comments