โป๊ปฟรานซิส สอน พระเจ้าเสด็จมาหาเราด้วยความถ่อมตนและไม่ได้มาทำลายระบบของโลก แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงโลกจากภายใน

• โป๊ปฟรานซิส สอน พระเจ้าเสด็จมาหาเราด้วยความถ่อมตน คนต่ำต้อยและยากไร้จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้พบพระองค์

• ทรงย้ำ พระเจ้าเสด็จมาด้วยการอยู่ใต้กฏหมายของมนุษย์ ยอมอยู่ภายใต้คำสั่งของจักรพรรดิโรมัน นี่คือเครื่องยืนยัน พระเจ้าไม่ได้มาทำลายระบบของโลก แต่พระองค์ต้องการเปลี่ยนแปลงโลกจากภายใน

Photo: Vatican Media

ช่วงสายวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงเทศน์สอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ หอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน หัวข้อการสอนคำสอนวันนี้เป็นเรื่อง “พระผู้ไถ่ประสูติเพื่อท่านแล้วคือพระคริสต์ พระเจ้าของเรา”

ใจความสำคัญของสิ่งที่พระสันตะปาปาตรัสสอน มีว่า 

1. พระเจ้าไม่ได้มาทำลายระบบของโลก แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงโลกจากภายใน

พระสันตะปาปาตรัสว่า “เมื่อปฏิสนธิในครรภ์แม่พระแล้ว พระเยซูก็ทรงเริ่มพันธกิจทันที การเดินทางครั้งแรกคือจากนาซาเร็ธไปบ้านของเศคาริยาห์และเอลีซาเบ็ธ เป็นการเยี่ยมเยียนที่เต็มไปด้วยความรักและความชื่นชมยินดี จนทารกในครรภ์นางเอลีซาเบ็ธกระโดดด้วยความยินดี”

“การเดินทางครั้งที่สองมีความหมายลึกซึ้ง แม่พระและนักบุญโยเซฟต้องเดินทางไกลจากนาซาเร็ธสู่เบธเลเฮ็ม เพื่อการสำมะโนประชากร นี่แสดงให้เห็นว่าพระเมสซิยาห์ทรงยอมอยู่ภายใต้กฎหมายมนุษย์ ทรงยอมให้นับและลงทะเบียนเหมือนพลเมืองทั่วไป ทรงยอมอยู่ภายใต้คำสั่งของจักรพรรดิโรมัน ผู้คิดว่าตนเป็นเจ้าของแผ่นดินทั้งหมด นี่แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าไม่ได้เสด็จมาทำลายระบบของโลก แต่ทรงต้องการเปลี่ยนแปลงมันจากภายใน”

2. ความยิ่งใหญ่ในความต่ำต้อย

พระสันตะปาปาทรงชี้ให้เห็นความขัดแย้งที่มีความหมายลึกซึ้งว่า “ทูตสวรรค์ประกาศว่าพระกุมารจะทรงยิ่งใหญ่ จะประทับบนบัลลังก์กษัตริย์ดาวิด และจะครองราชย์ตลอดไป แต่เมื่อถึงเวลาประสูติ กลับไม่มีแม้แต่ที่พักอาศัย พระองค์ต้องบรรทมในรางหญ้า ในพื้นที่ที่มีแต่สัตว์”

“ที่เบธเลเฮ็ม ซึ่งแปลว่า ‘บ้านแห่งขนมปัง’ พระเยซูประสูติในฐานะขนมปังจากสวรรค์ที่จะเลี้ยงความหิวของโลก แต่กลับต้องนอนในรางอาหารของสัตว์” 

3. คนเลี้ยงแกะ ประจักษ์พยานที่พระเจ้าทรงเลือก

“นักบุญลูกาแสดงให้เราเห็นว่าพระเจ้าไม่ได้เสด็จมาในโลกด้วยการประกาศอันยิ่งใหญ่ ไม่ได้ทรงสำแดงพระองค์ในความอึกทึก แต่ทรงเริ่มการเดินทางของพระองค์ในความถ่อมตน และใครคือประจักษ์พยานคนแรกของเหตุการณ์นี้ คือคนเลี้ยงแกะบางคน คนที่มีการศึกษาน้อย มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เพราะต้องอยู่กับสัตว์ตลอดเวลา อาศัยอยู่ชายขอบสังคม แต่พวกเขาทำอาชีพที่พระเจ้าทรงใช้ให้ประชากรของพระองค์รู้จักพระองค์”

“ต่างจากคนมากมายที่ยุ่งอยู่กับการทำสิ่งต่างๆ คนเลี้ยงแกะกลับเป็นประจักษ์พยานคนแรกของสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือความรอดที่ถูกมอบให้ พวกเขาที่ต่ำต้อยและยากจนที่สุดที่รู้จักต้อนรับเหตุการณ์แห่งการมาบังเกิด"

4. บทเรียนสำหรับคริสตชน

“ให้เราขอพระหรรษทานที่จะเป็นเหมือนคนเลี้ยงแกะ สามารถพิศวงและสรรเสริญต่อหน้าพระเจ้า และสามารถรักษาสิ่งที่พระองค์ทรงมอบให้เรา พรสวรรค์ พระพร กระแสเรียกของเรา และผู้คนที่พระองค์ทรงส่งมาอยู่เคียงข้างเรา ให้เราทูลขอพระเจ้าให้เรารู้จักเห็นในความอ่อนแอถึงพละกำลังพิเศษของพระเจ้าผู้ทรงเป็นทารก ผู้เสด็จมาเพื่อฟื้นฟูโลกและเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราด้วยแผนการของพระองค์ที่เต็มไปด้วยความหวังสำหรับมนุษยชาติทั้งมวล” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย

Source:

- https://www.vatican.va/content/francesco/it/audiences/2025/documents/20250212-udienza-generale.html