โป๊ปย้ำ เราต้องรู้จักพระเยซูให้ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่รู้จักผิวเผิน

  • โป๊ปฟรานซิส ทรงย้ำ เราต้องรู้จักพระเยซูให้ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่รู้จักผิวเผิน บางคนคิดว่า โตมากับการรู้จักพระเยซูในการเรียนคำสอน การไปวัด หรือในโรงเรียน แต่ความเคยชินแบบนี้ อาจทำให้เรามองข้ามความยิ่งใหญ่ของพระองค์
  • ทรงสอน พระวรสารคือพระวาจาแห่งความเมตตา สิ่งนี้เรียกร้องเราให้แสดงความรัก ให้อภัย และใจกว้างในการรับใช้คนอื่น 
  • ทรงแนะ คริสตชนควรมีพระวรสารหรือพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่แบบเล่มเล็กๆ พกติดกระเป๋าไว้เสมอ 
Photo: Vatican Media


ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงเป็นประธานในมิสซาวันอาทิตย์แห่งพระวาจาของพระเจ้า ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ท่ามกลางสัตบุรุษจำนวนมาก มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงแต่งตั้งฆราวาส 40 คนให้เป็นผู้อ่านพระคัมภีร์อย่างเป็นทางการในพิธีกรรมด้วย


Pope Report สรุปใจความสำคัญของบทเทศน์ที่พระสันตะปาปาเชิญไตร่ตรองจากเหตุการณ์ในพระวรสารที่พระเยซูตรัสในศาลาธรรมว่า “วันนี้พระคัมภีร์ตอนนี้ที่ท่านได้ยินกับหูของท่าน ได้เป็นจริงแล้ว” มาให้ดังต่อไปนี้


1. พระวาจาของพระเจ้ามีชีวิต


พระสันตะปาปาตรัสว่า “พระวาจาของพระเจ้ามีชีวิต ตลอดหลายศตวรรษ พระวาจาของพระเจ้าเดินทางไปกับเรา และด้วยพลังของพระจิต พระวาจานี้ทำงานในทุกยุคสมัย เพราะพระเจ้าทรงซื่อสัตย์ต่อพระสัญญาของพระองค์เสมอ”


“เมื่อเราฟังพระวรสาร มันไม่ใช่แค่เรื่องของการฟังหรือเข้าใจ แต่พระวาจาต้องเข้าถึงหัวใจของเราและก่อให้เกิดความพิศวง พระวาจาของพระเจ้าฟื้นฟูเราเสมอ”


2. พระสันตะปาปาทรงไตร่ตรองถึงพันธกิจของพระเยซูผ่านการกระทำ 5 ประการ


ประการแรก “นำข่าวดีมาให้คนยากจน” พระสันตะปาปาบอกว่า “ พระวรสารคือพระวาจาแห่งความเมตตา ที่เรียกร้องให้เราแสดงความรัก ให้อภัยผู้อื่น และใจกว้างในการรับใช้เพื่อนพี่น้อง อย่าลืมว่าพระเจ้าทรงอยู่ใกล้ ทรงเมตตา และทรงสงสาร”


ประการที่สอง “ประกาศอิสรภาพแก่ผู้ถูกจองจำ” พระสันตะปาปาอธิบายว่าวันเวลาของความชั่วร้ายมีจำกัด เพราะอนาคตเป็นของพระเจ้า พระเยซูทรงไถ่เราจากความผิดทั้งปวงด้วยพลังของพระจิต


ประการที่สาม “ประทานการมองเห็นแก่คนตาบอด” เพราะพระเมสซิยาห์เปิดตาแห่งหัวใจที่มักถูกลวงด้วยเสน่ห์ของอำนาจและสิ่งไร้สาระ


ประการที่สี่ “ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ” พระสันตะปาปาย้ำว่า ไม่มีพันธนาการใดๆที่จะต้านทานงานของพระเมสซิยาห์ได้


ประการที่ห้า “ประกาศปีแห่งความโปรดปรานของพระเจ้า” พระสันตะปาปาอธิบายว่านี่คือยุคใหม่ที่ไม่กลืนกินชีวิต แต่ฟื้นฟูชีวิตของทุกคน


3. เราควรมีพระวรสารเล่มเล็กติดกระเป๋าไว้เสมอ


พระสันตะปาปาแนะนำคริสตชนทุกคนให้มีพระวรสารหรือพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ขนาดเล็กติดตัว หรือพกไว้ในกระเป๋าเสมอ เพื่อที่เราจะสามารถอ่านได้ในช่วงต่างๆ ของวัน หนึ่งข้อ สองข้อ เพื่อที่ตลอดวันเราจะได้ติดต่อกับพระเจ้า พระวรสารเล่มเล็กๆก็เพียงพอแล้ว


4. พระเจ้าเรียกเราให้ประกาศพระวรสาร “ทุกที่ ทุกเวลา”

"พระเจ้าไม่ได้ตรัสกับเราในฐานะผู้ฟังที่เงียบ แต่ในฐานะพยานของพระองค์ เราถูกเรียกให้ประกาศพระวรสารในทุกเวลาและทุกสถานที่” พระสันตะปาปาตรัสในช่วงท้าย


หลังมิสซาจบลง พระสันตะปาปาทรงนำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ก่อนภาวนา พระสันตะปาปาเชิญทุกคนไตร่ตรองพระวรสาร ดังนี้


1. เราต้องรู้จักพระเยซูให้ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่รู้จักผิวเผิน


พระสันตะปาปา ตรัสว่า “พระเยซูทรงท้าทายผู้ฟังให้เลือกว่าจะมองพระองค์อย่างไร จะเลือกมองว่าพระองค์เป็นเพียงลูกช่างไม้ที่อวดอ้างตัวเอง หรือเป็นพระเมสซิยาห์ที่พระเจ้าทรงส่งมาเพื่อช่วยประชากรให้รอดพ้นจากบาปและความชั่วร้าย”


“เรื่องนี้อาจเกิดกับเราได้เช่นกัน เพราะเราคิดไปเองว่า เรารู้จักพระเยซูดีแล้ว เพราะเราเติบโตมากับพระองค์ในโรงเรียน โตมากับวัด โตมากับการเรียนคำสอน ความคุ้นเคยแบบนี้อาจทำให้เรามองข้ามความยิ่งใหญ่ของพระองค์” พระสันตะปาปาเชิญทุกคนไตร่ตรอง


Sources:


1. https://www.vatican.va/content/francesco/en/homilies/2025/documents/20250126-domenica-parola-didio.html


2. https://www.vatican.va/content/francesco/en/angelus/2025/documents/20250126-angelus.html 


Comments