ความผิดพลาดในสมณสมัยคือ “พ่อใจร้อนไปหน่อย”

 บางส่วนจาก “Hope” หนังสืออัตชีวประวัติเล่มใหม่ของพระสันตะปาปา ฟรานซิส 

1. ความผิดพลาดในสมณสมัยคือ “พ่อใจร้อนไปหน่อย”

พระสันตะปาปายอมรับว่า พระองค์ทรงทำผิดพลาดหลายครั้งในสมณสมัย ส่วนมากเกิดจากความใจร้อนไปหน่อย

2. การอวยพรคู่รักเพศเดียวกัน ไม่ใช่ความผิด เพราะเราอวยพร “ตัวคนที่เป็นมนุษย์” ไม่ได้อวยพร “ความสัมพันธ์”

พระสันตะปาปาตรัสว่า “ทุกคนได้รับเชิญ พ่อย้ำนะว่า ‘ทุกคน’ ดังนั้น ทั้งคนดีและคนไม่ดี คนหนุ่มสาวและคนแก่ คนสุขภาพดีและคนป่วย เพราะนี่คือแผนการของพระเจ้า เป็นหน้าที่ของเราในฐานะศาสนบริกรที่จะจูงมือผู้อื่น ติดตามพวกเขา ช่วยพวกเขาในการไตร่ตรอง ไม่กีดกันพวกเขา แต่จงให้อภัย จงปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเมตตาเดียวกับที่พระเจ้าทรงสำรองไว้ให้เรา”

ปี 2023 สมณกระทรวงว่าด้วยหลักคำสอนของความเชื่อได้เผยแพร่เอกสาร “Fiducia Supplicans” (ความไว้วางใจในการวิงวอน) เกี่ยวกับ “ความหมายเชิงอภิบาลของการอวยพร” โดยได้รับการอนุมัติจากพระสันตะปาปา ฟรานซิส 

เอกสารระบุว่าสงฆ์สามารถให้พรแบบสั้นๆ เป็นการส่วนตัว แต่ไม่ใช่การประกอบพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์แก่บุคคลที่อยู่ใน หรือเป็นส่วนหนึ่งของคู่รักเพศเดียวกัน "

พระสันตะปาปากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “นี่เป็นการอวยพรให้ตัวคน ไม่ใช่ความสัมพันธ์ของเขา พรนี้เป็นเครื่องหมายว่า ศาสนจักรต้องการอยู่เคียงข้างทุกคนและไม่กีดกันใครจากสถานการณ์หนึ่งหรือเงื่อนไขหนึ่ง”

“ทุกคนในศาสนจักรได้รับเชิญ รวมถึงคนที่หย่าร้าง รวมถึงคนรักเพศเดียวกัน รวมถึงคนข้ามเพศ” พระสันตะปาปาทรงเขียน

3. บาปที่มีความเป็นทูตสวรรค์ ร้ายแรงกว่าบาปทางเพศ

สำหรับการตัดสินใจในสมณลิขิตเตือนใจ “Amoris Laetitia” (ความชื่นชมยินดีแห่งความรัก) ที่เปิดโอกาสให้ผู้หย่าร้างและแต่งงานใหม่บางคนสามารถเข้าถึงศีลศักดิ์สิทธิ์ได้ พระสันตะปาปาตรัสว่าการตัดสินใจนั้น “ทำให้บางคนยกแขนขึ้นคัดค้านด้วยความสยดสยอง”

“บาปทางเพศมักจะทำให้บางคนโวยวายมากกว่า แต่มันไม่ใช่บาปที่ร้ายแรงที่สุด มันเป็นบาปของมนุษย์ ของเนื้อหนัง ในทางตรงกันข้าม บาปที่ร้ายแรงที่สุดคือบาปที่มี ‘ความเป็นทูตสวรรค์’ มากกว่า มันคือบาปที่แต่งตัวในรูปแบบอื่น เช่น ความหยิ่งยโส ความเกลียดชัง การโกหก การฉ้อโกง การใช้อำนาจในทางที่ผิด”

“การรักเพศเดียวกันไม่ใช่อาชญากรรม มันเป็นความเป็นจริงของมนุษย์ คน LGBTQ+ เหล่านี้ไม่ใช่ ‘ลูกที่ไม่สำคัญของพระเจ้า’ พระบิดารักพวกเขาด้วยความรักไม่มีเงื่อนไขเดียวกัน พระองค์ทรงรักพวกเขาอย่างที่พวกเขาเป็น และทรงอยู่เคียงข้างพวกเขาในแบบเดียวกับที่พระองค์ทรงทำกับพวกเราทุกคน เพราะพระเจ้าอยู่ใกล้ชิด เมตตา และอ่อนโยน” พระสันตะปาปาตรัสย้ำ