โป๊ปสอนคาร์ดินัล บิช็อป สงฆ์และนักบวชในคูเรีย “จงพูดสิ่งดี อย่าพูดให้ร้ายใคร”

  • โป๊ปฟรานซิส สอนคาร์ดินัล บิช็อป สงฆ์และนักบวชในคูเรีย “จงพูดสิ่งดี อย่าพูดให้ร้ายใคร” เพราะนี่คือนิสัยถ่อมตน ศาสนจักรจะเติบโตได้ถ้าเราเลิกคิดร้ายและใส่ร้ายคนอื่น
  • ทรงชี้ การถ่อมตัวเริ่มจาก “การรู้จักโทษตัวเอง” ไม่ใช่เอาแต่โทษคนอื่น นี่คือการเปิดพื้นที่ในใจให้พระเจ้าทำงาน
  • ทรงย้ำ อย่าเขียนหรืออวยพร ถ้ายังมีนิสัยพูดจาให้ร้ายคนอื่น การกระทำแบบนี้คือการทำลายพระพรของพระเจ้า

Photo: Vatican Media


ช่วงสายวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงต้อนรับคาร์ดินัล บิช็อป สงฆ์ นักบวช และฆราวาสที่ทำงานในโรมันคูเรีย ที่มาเข้าเฝ้าถวายพรโอกาสคริสต์มาส โอกาสนี้ พระสันตะปาปาทรงให้โอวาทแก่พวกเขา โดยหัวข้อของปีนี้คือ “จงพูดสิ่งดีและอย่าพูดให้ร้าย”


1. จงพูดสิ่งดี อย่าพูดให้ร้ายใคร


พระสันตะปาปา ตรัสว่า “การพูดสิ่งดีและไม่พูดให้ร้ายเป็นการแสดงออกถึงความถ่อมตน ความถ่อมตนคือลักษณะสำคัญของการบังเกิด โดยเฉพาะในธรรมล้ำลึกแห่งการบังเกิดของพระเจ้า”


“ชุมชนศาสนจักรจะเติบโตในความชื่นชมยินดีและความเป็นพี่น้องกันได้ ก็ต่อเมื่อสมาชิกทุกคนละทิ้งการคิดร้ายและพูดให้ร้ายคนอื่น ดังที่นักบุญเปาโลสอนว่า ‘จงอวยพรและอย่าสาปแช่ง’ (โรม 12:14)


2. บทเรียนจากกาซ่า: จากเมืองศักดิ์สิทธิ์สู่สนามรบ


พระสันตะปาปาทรงยกกาซ่าเป็นตัวอย่าง ในอดีตกาซ่าเคยเป็นศูนย์กลางของความศักดิ์สิทธิ์ มีอารามและนักบุญมากมาย รวมถึง “นักบุญโดโรเตโอ ผู้สอนเรื่องความถ่อมตนและการรู้จักโทษตัวเอง ถ้าคนถ่อมตัวประสบความชั่วร้าย เขาจะกลับมามองดูตัวเองทันที เขาจะไม่ตำหนิผู้อื่นหรือกล่าวโทษใคร เพียงแต่อดทนด้วยความสงบ ความถ่อมตนไม่โกรธและไม่ทำให้ใครโกรธ”


3. การถ่อมตนที่แท้จริง: รู้จักโทษตัวเอง


พระสันตะปาปาสอนว่า การกล่าวโทษตัวเองเป็นวิธีการฝึกความถ่อมตนที่สำคัญ … คนที่ฝึกคุณธรรมของการกล่าวโทษตัวเองและปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นอิสระจากความสงสัยและความไม่ไว้วางใจ และเปิดพื้นที่ให้การกระทำของพระเจ้า ผู้เดียวที่สร้างความเป็นหนึ่งเดียวของหัวใจ”


4. โรมันคูเรีย: โรงงานแห่งพระพร


พระสันตะปาปามองว่า โรมันคูเรียเป็นเสมือนโรงงานใหญ่ที่ทุกคนทำงานเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน นั่นคือ การแพร่กระจายพระพรของพระเจ้าและศาสนจักรในโลก พระองค์ทรงชื่นชมโดยเฉพาะงานที่อยู่ในหลืบเล็กๆ เช่นงานของคนร่างจดหมาย ที่ช่วยให้พระพรและคำภาวนาของพระสันตะปาปาไปถึงผู้เจ็บป่วย ผู้ต้องขัง ผู้สูงอายุ และเด็กๆ


พระสันตะปาปาเตือนว่างานในคูเรียอาจน่าเบื่อและทำให้จิตใจแห้งแล้งได้ หากไม่หมั่นเติมพลังด้วยประสบการณ์อภิบาล การพบปะผู้คน และการเข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจ "เราต้องการทำการเข้าเงียบทุกปี เพื่อจุ่มตัวลงในหรรษทานของพระเจ้า”


5. การเป็นช่างฝีมือแห่งพระพร


พระสันตะปาปาทรงเชิญชวนให้ทุกคนเป็น “ช่างฝีมือแห่งพระพร” ไม่ใช่เพียง “ผู้อวยพร” แต่เป็นผู้ที่สอนและดำเนินชีวิตในการอวยพรผู้อื่น พระองค์ทรงเปรียบศาสนจักรเหมือนแม่น้ำใหญ่ที่แตกแขนงเป็นลำธารนับพันสาย นำพระพรของพระเจ้าไปรดน้ำทั่วโลก


“เราไม่สามารถเขียนพระพรแล้วพูดให้ร้ายถึงพี่น้องคนอื่น เพราะมันจะทำลายพระพรนั้นๆ ของพระเจ้า ผู้ประสูติเพื่อเราในความถ่อมตน ช่วยให้เราเป็นหญิงและชายผู้พูดดีเสมอ” พระสันตะปาปาทรงอวยพรปิดท้าย


Source:


- https://www.vatican.va/content/francesco/it/speeches/2024/december/documents/20241221-curia-romana.html 


Comments