โป๊ปฟรานซิส “คริสตชนต้องแผ่รังสีความหวังให้คนอื่น ไม่ใช่เก็บไว้กับตัวคนเดียว”

โป๊ปฟรานซิส สอน คริสตชนต้องแผ่รังสีความหวังและหว่านความหวังให้คนรอบข้าง แต่การทำให้คนอื่นมีความหวัง เราต้องทำด้วยความสุภาพและเคารพกันและกัน เพราะนี่คือรูปแบบที่ดีที่สุดของการประกาศข่าวดี

Photo: Vatican Media

ช่วงสายวันพุธที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเทศน์สอนในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน ในหัวข้อ พระจิตและความหวังของคริสตชน ซึ่งเป็นบทสุดท้ายของชุดคำสอนเรื่องพระจิตและศาสนจักร


ความหวังในศาสนจักรยุคแรกถึงปัจจุบัน


พระสันตะปาปาทรงเริ่มด้วยการอธิบายถึงคำภาวนา “มารานา ตา” (Maràna tha - ข้าแต่พระเจ้า โปรดเสด็จมาเถิด) ที่คริสตชนยุคแรกใช้ในพิธีกรรม แสดงถึงการรอคอยการเสด็จกลับมาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งยังคงมีอยู่ในพิธีมิสซาปัจจุบันหลังการเสกศีล


“การรอคอยการเสด็จมาของพระคริสต์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่วาระสุดท้าย แต่รวมถึงการเสด็จมาอย่างต่อเนื่องของพระองค์ในปัจจุบัน” พระสันตะปาปาตรัส


พระจิต พลังขับเคลื่อนศาสนจักร


"ถ้าศาสนจักรเป็นเรือ พระจิตก็คือใบเรือที่ขับเคลื่อนและทำให้มันแล่นไปในทะเลแห่งประวัติศาสตร์ ทั้งวันนี้และในอดีต" พระสันตะปาปาทรงใช้ภาพเปรียบเทียบนี้อธิบายบทบาทของพระจิต


ความหวังที่ต้องแบ่งปัน


“ความหวังไม่ใช่คำที่ว่างเปล่า หรือความปรารถนาคลุมเครือที่อยากให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่เป็นความแน่นอน เพราะตั้งอยู่บนความซื่อสัตย์ของพระเจ้า” พระสันตะปาปาตรัส


พระองค์ทรงเน้นย้ำว่า คริสตชนไม่ควรพอใจเพียงแค่มีความหวัง แต่ต้อง

- แผ่รังสีความหวังให้ผู้อื่น

- เป็นผู้หว่านความหวัง

- แบ่งปันความหวังด้วยความสุภาพและความเคารพ

- ใช้ความรักมากกว่าข้อโต้แย้งในการแบ่งปันความหวัง


“คริสตชนไม่สามารถพอใจแค่มีความหวัง แต่ต้องแผ่รังสีความหวังด้วย เราเป็นผู้หว่านความหวัง นี่คือของขวัญที่งดงามที่สุดที่ศาสนจักรสามารถมอบให้แก่มนุษยชาติทั้งมวล” พระสันตะปาปาตรัสสรุป


Source:


- https://www.vatican.va/content/francesco/it/audiences/2024/documents/20241211-udienza-generale.html

Comments