โป๊ปชี้พระจิตสร้างความเป็นหนึ่งเดียวในศาสนจักร แต่สิ่งนี้ใช้เวลา ไม่ใช่จะได้ทันทีทันใด

• โป๊ปฟรานซิส ชี้ พระจิตคือผู้สร้างความเป็นหนึ่งเดียวในศาสนจักร แต่พระจิตก็ต้องใช้เวลาในการทำงานนี้เหมือนกัน ไม่ใช่จะสร้างความเป็นหนึ่งเดียวได้ทันทีในทุกครั้ง

• ทรงอธิบาย หลายครั้ง พระจิตจะทำงานแบบเงียบๆ เพราะพระจิตเคารพเวลาของมนุษย์และความแตกต่างของพวกเราแต่ละคน

• ทรงสอน สาเหตุที่ความเป็นหนึ่งเดียวกันเกิดขึ้นยากในสังคม เพราะเราเอาความต้องการของตัวเองเป็นตัวตั้ง โดยไม่คิดว่าคนที่เราคุยด้วยเขาจะคิดแบบไหน

Photo: Vatican Media

ช่วงสายวันพุธที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนผู้มีความเชื่อความศรัทธาในการเข้าเฝ้าทั่วไป ซึ่งจัด ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน สำหรับหัวข้อการสอนคำสอนวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระจิตและศาสนจักรที่ว่า “เขาทุกคนได้รับพระจิตเต็มเปี่ยม”

พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า “เรื่องราวการเสด็จลงมาของพระจิตในวันเปนเตกอสเต เริ่มด้วยสัญญาณบางอย่าง เช่น เสียงลมพัดแรงและลิ้นไฟ และจบลงด้วยข้อความที่ว่า ‘เขาทุกคนได้รับพระจิตเต็มเปี่ยม’ (กิจการอัครสาวก 2:4) นักบุญลูกา ผู้เขียนหนังสือกิจการอัครสาวก เน้นย้ำว่าพระจิตคือผู้ที่ทำให้ศาสนจักรมีความเป็นสากลและเป็นหนึ่งเดียวกัน ผลที่เกิดขึ้นทันทีของการได้รับพระจิตเต็มเปี่ยมคือบรรดาอัครสาวกเริ่มพูดภาษาอื่นๆ และออกมาจากห้องชั้นบนเพื่อประกาศเรื่องพระเยซูคริสต์แก่ฝูงชน”

“เราเห็นพระจิตทำงานเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันใน 2 วิธี ในด้านหนึ่ง พระจิตผลักดันศาสนจักรออกไปข้างนอก เพื่อที่จะสามารถต้อนรับผู้คนและคนต่างชาติจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ในอีกด้านหนึ่ง พระจิตรวบรวมพวกเขาเข้าด้วยกันเพื่อเสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียว พระจิตสอนศาสนจักรให้ขยายตัวในความเป็นสากล และเสริมสร้างในความเป็นหนึ่งเดียว ความเป็นสากลและเป็นหนึ่งเดียว นี่คือธรรมล้ำลึกของศาสนจักร”

“เราเห็นการเคลื่อนไหวแรกคือความเป็นสากล (ผลักดันให้คริสตชนก้าวออกไปข้างนอกพื้นที่ของตัวเอง) …​และการเคลื่อนไหวที่สองของพระจิตได้สร้างความเป็นหนึ่งเดียว … ปัญหาคือจะทำอย่างไรให้แน่ใจว่าความเป็นสากลจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นหนึ่งเดียวของศาสนจักร พระจิตไม่ได้สร้างความเป็นหนึ่งเดียวอย่างฉับพลันเสมอไป เพราะในกรณีส่วนใหญ่ พระจิตจะทำงานแบบเงียบๆด้วย โดยเคารพเวลาของมนุษย์และความแตกต่าง ผ่านผู้คนและสถาบัน ผ่านทางการอธิษฐานภาวนาและการเผชิญหน้า”

“พระจิตคือผู้สร้างความเป็นหนึ่งเดียวของศาสนจักร ความเป็นหนึ่งเดียวของศาสนจักรคือความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้คนและไม่ได้เกิดขึ้นบนกระดาน แต่เกิดขึ้นในชีวิต มันถูกนำไปปฏิบัติในชีวิต เราทุกคนต้องการความเป็นหนึ่งเดียว เราทุกคนปรารถนามันจากส่วนลึกของหัวใจของเรา และกระนั้นมันก็ยากที่จะบรรลุถึงจนกระทั่งในการแต่งงานและครอบครัว ความสามัคคีและความสอดคล้องกันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดที่จะบรรลุและยากยิ่งขึ้นที่จะรักษาไว้”

“เหตุผลที่ความเป็นหนึ่งเดียวกันในกลุ่มพวกเราถึงเป็นเรื่องยาก ก็เพราะเราทุกคนต้องการความเป็นหนึ่งเดียว แต่ตั้งอยู่บนพื้นฐานมุมมองของตัวเอง โดยไม่คำนึงว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเรา เขาคิดแบบไหน ด้วยเหตุนี้ ความเป็นหนึ่งเดียวกันจึงเกิดได้ยาก แต่เมื่อใดที่คนๆหนึ่งพยายามที่จะให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่ตัวเอง ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชนก็จะเกิดขึ้น” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย

Source:

- https://www.vatican.va/content/francesco/en/audiences/2024/documents/20241009-udienza-generale.html