โป๊ปแนะสื่อมวลชนวาติกัน จงกล้าเสี่ยง กล้าเล่าความจริง ไม่ใช่มาเผยแพร่ความคิดของตัวเอง
- โป๊ปฟรานซิส แนะสื่อมวลชนวาติกัน จงกล้าเสี่ยง กล้าเล่าความจริง ไม่ใช่เพื่อเผยแพร่ความคิดของตัวเอง จงใช้ความชอบธรรมเป็นเกราะป้องกันตัวเอง ใช้ความจริงเป็นสายคาดเอวในการประกาศข่าวดี
- ทรงย้ำ นี่คือกระแสเรียกและหน้าที่ของสื่อวาติกัน เราต้องสร้างสะพาน ไม่ใช่สร้างกำแพงแบบที่หลายคนกำลังสร้างความแตกแยก
- ทรงขอร้องนักข่าว อย่าคล้อยตามวัฒนธรรมเพิกเฉย วัฒนธรรม “ล้างมือ” แล้วบอกว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องของเรา พวกคุณไปจัดการกันเองเถิด” เพราะมันสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้ศาสนจักร
- ทรงให้กำลังใจสื่อวาติกัน นี่คือ “ยุคของการตัดงบประมาณ” ดังนั้นเราต้องฝึกวินัยการเงิน ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยอีกต่อไป เพราะสันตะสำนักจะไม่มีเงินมาสนับสนุนการทำงานเหมือนสมัยก่อนแล้ว
![]() |
Photo: Vatican Media |
ช่วงสายวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงต้อนรับสื่อมวลชนวาติกันที่มาเข้าเฝ้า โอกาสการประชุมของสมณกระทรวงเพื่อการสื่อสาร
โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับพวกเขาว่า “นักบุญเปาโลบอกว่า ‘จงยืนหยัดมั่นคง คาดเอวด้วยความจริง สวมความชอบธรรมเป็นเกราะป้องกันอก และสวมรองเท้าแห่งความพร้อมที่จะประกาศข่าวดีแห่งสันติ’ (เอเฟซุส 6:14-15) นี่อาจเป็นคุณลักษณะของนักสื่อสารที่ดี ท่านไม่คิดเช่นนั้นหรือ”
“นี่คือกระแสเรียก นี่เป็นพันธกิจของท่าน ด้วยงานและความคิดสร้างสรรค์ของท่าน ด้วยการใช้สื่ออย่างชาญฉลาดที่เทคโนโลยีมอบให้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือด้วยหัวใจของท่าน เราสื่อสารด้วยหัวใจ ท่านได้รับเรียกสู่ภารกิจที่ยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้น นั่นคือการสร้างสะพาน ขณะที่หลายคนกำลังสร้างกำแพง กำแพงแห่งอุดมการณ์ ขณะที่หลายคนกำลังปลุกปั่นความแตกแยก ขณะที่หลายคนเลือกที่จะเพิกเฉย วัฒนธรรมแห่งความเพิกเฉยนี้ วัฒนธรรมแห่งการ ‘ล้างมือ นี่ไม่ใช่เรื่องของเรา เชิญจัดการกันเองเถิด’ สิ่งนี้สร้างความเสียหายอย่างมาก”
“นี่คือลักษณะเฉพาะของการเป็นส่วนหนึ่งของศาสนจักร ถ้าเราคิดและกระทำตามหลักเกณฑ์ทางการเมืองหรือองค์กร เราจะไม่ใช่ศาสนจักร นั่นใช้ไม่ได้ ถ้าเราใช้เกณฑ์ทางโลกหรือลดโครงสร้างของเราให้เป็นแค่ระบบราชการ เราก็จะไม่ใช่ศาสนจักร การเป็นศาสนจักรหมายถึงการดำเนินชีวิตด้วยความตระหนักว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้แรกที่รักเรา ผู้แรกที่เรียกเรา ผู้แรกที่ให้อภัยเรา (โรม 5:8)”
“ท่านอาจถามพ่อว่า ‘ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องอะไรกับงานของเราในฐานะนักข่าว?’ มันเกี่ยวข้องมากๆเลยล่ะ จริงๆ แล้ว ในฐานะนักสื่อสาร ท่านถูกเรียกให้สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันของศาสนจักรด้วยเอวที่คาดด้วยความจริง ความชอบธรรมเป็นเกราะป้องกันอก และเท้าที่พร้อมที่จะเผยแพร่ข่าวดีแห่งสันติ”
“ขอให้พ่อเล่าความฝันของพ่อให้ท่านฟัง พ่อฝันถึงการสื่อสารที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนและวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ฝันถึงการสื่อสารที่สามารถเล่าและยกระดับเรื่องราวและประจักษ์พยานจากทุกมุมโลก ฝันถึงการสื่อสารจากใจถึงใจ … นี่คือเหตุผลที่พ่อเชิญชวนท่านให้กล้ามากขึ้น เสี่ยงมากขึ้น ไม่ใช่เพื่อเผยแพร่ความคิดของตัวเอง แต่เพื่อเล่าความจริงด้วยความซื่อสัตย์และด้วยใจรัก”
“พ่อขอบอกบางอย่างกับท่าน เราต้องมีวินัยเรื่องการเงินมากขึ้นอีกหน่อย ท่านต้องหาทางประหยัดมากขึ้นและหาแหล่งทุนอื่น เพราะสันตะสำนักไม่สามารถช่วยท่านต่อไปได้เหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ พ่อรู้ว่านี่เป็นข่าวร้าย แต่ก็เป็นข่าวดีด้วยเพราะจะกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในตัวท่านทุกคน” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย
Source
Comments
Post a Comment