โป๊ปอธิบาย “ขายทุกสิ่งแล้วตามเรามา” คือการสละตัวตนและความมั่งคั่งปลอมๆ เพื่อแบ่งปันพรสวรรค์และเวลาของเราช่วยผู้อื่น

โป๊ปฟรานซิส อธิบาย “ขายทุกสิ่งแล้วตามเรามา” คือการสละตัวตนและความมั่งคั่งปลอมๆ เพื่อแบ่งปันสิ่งที่เรามีให้คนยากไร้ การแบ่งปันนี้ ไม่ใช่แค่บริจาคเงิน แต่คือการกล้าทำให้ชีวิตของเราเป็นของขวัญสำหรับผู้อื่น นี่คือการแบ่งปันพรสวรรค์และเวลาของเราเพื่อช่วยผู้อื่น

Photo: Vatican Media

ตอนเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้เล่าถึงชายร่ำรวยคนหนึ่งที่พบกับพระเยซูและถามพระองค์ว่า “ท่านอาจารย์ผู้ทรงความดี ผมจะต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระเยซูเชิญชวนให้เขาละทิ้งทุกสิ่งและติดตามพระองค์ แต่ชายคนนั้นจากไปด้วยความเศร้าโศก 


พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า “เราสามารถเห็นการเคลื่อนไหวสองอย่างของชายคนนี้ ตอนแรกเขาวิ่งไปหาพระเยซู แต่ตอนท้าย เขาจากพระองค์ไปด้วยความเศร้าโศก ความเสียใจ ขอให้เราพิจารณาเรื่องนี้”


“ประการแรก ชายคนนี้วิ่งไปหาพระเยซู ราวกับว่ามีบางสิ่งในใจของเขากระตุ้นให้เขาทำเช่นนั้น แม้ว่าเขาจะมีทรัพย์สมบัติมากมาย แต่เขาก็ยังไม่พอใจ เขารู้สึกกระวนกระวายใจ เขากำลังแสวงหาชีวิตที่สมบูรณ์กว่า เราเห็นในพระวรสารว่า เขาทิ้งตัวลงแทบเท้าของพระเยซู เขาร่ำรวย แต่ต้องการการรักษาการเยียวยา พระเยซูมองดูเขาด้วยความรัก จากนั้นพระองค์เสนอ ‘การบำบัด’ นั่นคือ ให้ขายทุกสิ่งที่มี แจกจ่ายให้คนยากจน และติดตามพระองค์ แต่ ณ จุดนี้ เกิดบทสรุปที่ไม่คาดคิด ใบหน้าของชายคนนี้หม่นหมองและเดินจากไป ความปรารถนาอันแรงกล้าและเร่าร้อนที่จะพบพระเยซูของเขานั้นช่างยิ่งใหญ่เพียงใด แต่กลับตรงกันข้ามกับการอำลาที่เย็นชาและรวดเร็วมากๆ”


“พวกเราก็เช่นกัน เราแบกความต้องการที่มากล้นในเรื่องความสุขและชีวิตที่มีความหมายไว้ในใจ อย่างไรก็ตาม เราตกอยู่ในภาพลวงตาที่คิดว่า คำตอบอยู่ที่การครอบครองวัตถุสิ่งของและความมั่นคงทางโลก แต่พระเยซูได้นำเรากลับสู่ความจริงในเรื่องความต้องการของเรา พระองค์ทำให้เราพบว่า ในความเป็นจริงแล้ว ความดีที่เราโหยหาคือพระเจ้า”


“ความมั่งคั่งที่แท้จริงคือการที่พระเจ้ามองดูเราด้วยความรัก นี่คือความมั่งคั่งอันยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับที่พระเยซูกระทำต่อชายคนนั้น คือการรักกันและกันโดยทำให้ชีวิตของเราเป็นของขวัญสำหรับผู้อื่น พระเยซูจึงเชิญชวนให้เรากล้าเสี่ยงที่จะรัก กล่าวคือ ขายทุกสิ่งเพื่อมอบให้คนยากจน มันหมายถึงการสละตัวตนและความมั่นคงปลอมๆ ของเรา ทำให้ตัวเราเองใส่ใจต่อผู้ที่ขัดสน และแบ่งปันสิ่งที่เรามี ไม่ใช่แค่สิ่งของ แต่เป็นสิ่งที่เราเป็น สิ่งนั้นก็คือพรสวรรค์ของเรา มิตรภาพของเรา เวลาของเรา และอื่นๆอีกมาก”


“ชายร่ำรวยคนนั้นไม่ต้องการเสี่ยงเรื่องอะไร? เขาไม่ต้องการเสี่ยงที่จะรัก และเขาจากไปด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง แล้วพวกเราล่ะ ขอให้เราถามตัวเองว่า หัวใจของเรายึดติดอยู่กับอะไร เราดับความหิวโหยในชีวิตอย่างไร เรารู้วิธีแบ่งปันกับคนยากจน กับผู้ที่กำลังลำบากหรือต้องการการรับฟัง ต้องการรอยยิ้ม หรือต้องการคำพูดเพื่อช่วยให้พวกเขาได้รับความหวังกลับคืนมาหรือไม่ เราแบ่งปันอะไรกับคนที่อยากให้มีคนรับฟังเขาบ้างหรือเปล่า”


“ขอให้เราจำไว้ว่า ความมั่งคั่งที่แท้จริงไม่ใช่สิ่งของในโลกนี้ ความมั่งคั่งที่แท้จริงคือการได้รับความรักจากพระเจ้า และการเรียนรู้ที่จะรักเหมือนพระองค์” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย


หลังการภาวนาจบลง พระสันตะปาปาทรงกล่าวเรียกร้องสันติภาพให้กับโลก พระองค์เชิญชวนทุกคนภาวนาขอพระเจ้า ผ่านคำเสนอวิงวอนของแม่พระฟาติมา เพื่อให้โลกพบสันติในทุกส่วนโดยเร็ว


Source


- https://www.vatican.va/content/francesco/en/angelus/2024/documents/20241013-angelus.html 


Comments