โป๊ปสถาปนานักบุญใหม่ 14 องค์ และย้ำ อย่าลืม 3 คำที่พระเจ้าแสดงให้เห็นเวลารับใช้ “ใกล้ชิด เห็นอกเห็นใจ และอ่อนโยน”
- โป๊ปฟรานซิส ย้ำ อย่าลืม 3 คำที่พระเจ้าแสดงให้เห็นเวลารับใช้ “ใกล้ชิด เห็นอกเห็นใจ และอ่อนโยน”
- ทรงเตือน ระวังความสัมพันธ์ด้านมืดเวลาติดตามและใกล้ชิดกับพระเจ้า มันคือ “การหวังเรื่องเกียรติยศ อำนาจ” เพราะบางครั้งมีความคิดแบบนี้อยู่ในศาสนจักร
- ทรงสอน คำสอนเรื่องการรับใช้ของพระเยซูจัดว่าเข้าใจยาก บรรดาสาวกก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ เพราะมันต้องคิดแบบพระเจ้า ไม่ใช่คิดตามประสามนุษย์ที่มีความคาดหวังแอบแฝงและต้องคำนวณเสมอว่า “ได้คุ้มเสียหรือไม่”
![]() |
Photo: Vatican Media |
ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาสถาปนานักบุญใหม่ 14 องค์ ซึ่งจัด ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน โดยนักบุญใหม่ทั้ง 14 องค์ได้แก่บุญราศีมรณสักขี 11 คนในซีเรียที่สละชีวิตเพื่อยืนยันความเชื่อ (เป็นสงฆ์นักบวช 8 คน และฆราวาส 3 คน), บุญราศี จูเซ็ปเป้ อัลลามาโน่, บุญราศีปาราดิส มารี เลโอนี่ และ บุญราศีเอเลน่า เกร์ร่า
สำหรับพระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูถามเจมส์กับจอห์นว่า “ท่านไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ท่านขอมันหมายถึงอะไร ท่านดื่มถ้วยซึ่งเราจะดื่มได้ไหม หรือรับการล้างที่เราจะรับได้หรือไม่ … ผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นใหญ่จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น และผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นคนที่หนึ่งในหมู่ท่าน ก็จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ทุกคน”
พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า “จากคำถามเหล่านี้ พระเยซูทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์และความคาดหวังที่ศิษย์มีต่อพระองค์ ทั้งด้านสว่างและด้านมืดที่มักพบในทุกความสัมพันธ์ ที่จริงแล้ว เจมส์กับจอห์นผูกพันกับพระเยซู แต่ก็มีข้อเรียกร้อง พวกเขาแสดงความปรารถนาที่จะอยู่ใกล้ชิดพระองค์ แต่เพียงเพื่อครองตำแหน่งเกียรติยศ เพื่อมีบทบาทสำคัญนั่งข้างขวาและข้างซ้าย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดถึงพระเยซูในฐานะเมสซิยาห์ผู้มีชัย ผู้รุ่งโรจน์ และคาดหวังว่าพระองค์จะแบ่งปันความยิ่งใหญ่ของพระองค์กับพวกเขา พวกเขาจินตนาการถึงพระองค์ตามตรรกะของอำนาจ”
“คำถามที่สองที่พระเยซูถามเจมส์กับจอห์นก็คือ ‘เจ้าต้องการให้เราทำอะไรให้เจ้า’ คำถามนี้เผยความคิดในใจของพวกเขา เปิดเผยความคาดหวังที่ซ่อนอยู่และความฝันเกี่ยวกับเกียรติยศที่ศิษย์เพาะบ่มไว้อย่างลับๆ และด้วยวิธีนี้ เปิดโปงสิ่งที่พวกเขาปรารถนาจริงๆ เมสซิยาห์ผู้ทรงอำนาจที่จะให้ตำแหน่งเกียรติยศแก่พวกเขา และบางครั้งในศาสนจักรก็มีความคิดแบบนี้ นั่นคือ เกียรติยศ อำนาจ”
“พระเยซูปฏิเสธภาพลักษณ์ของเมสซิยาห์แบบนี้ และด้วยวิธีนี้ช่วยให้พวกเขาเปลี่ยนมุมมอง นั่นคือกลับใจ ‘ท่านจะดื่มถ้วยที่เราดื่มได้หรือ หรือรับการล้างที่เราจะรับได้หรือไม่’ ด้วยวิธีนี้ พระองค์เปิดเผยแก่พวกเขาว่าพระองค์ไม่ใช่เมสซิยาห์อย่างที่พวกเขาคิด พระองค์คือพระเจ้าแห่งความรัก ผู้ถ่อมตัวลงเพื่อเข้าถึงผู้ที่อยู่ต่ำต้อย ผู้ยอมเป็นคนอ่อนแอเพื่อยกผู้อ่อนแอขึ้น ผู้สร้างสันติภาพไม่ใช่สงคราม ผู้เสด็จมารับใช้ไม่ใช่เพื่อให้คนอื่นมารับใช้”
“ที่เบื้องขวาและเบื้องซ้ายของพระเยซูจะมีโจรสองคน ถูกตรึงเหมือนพระองค์บนไม้กางเขน ไม่ใช่นั่งสบายในตำแหน่งอำนาจ โจรสองคนถูกตรึงกับพระคริสต์ในความเจ็บปวด ไม่ใช่นั่งในความยิ่งใหญ่ … ผู้ชนะไม่ใช่ผู้ครอบงำ แต่เป็นผู้ที่รับใช้ด้วยความรัก”
“พระเยซูเปิดเผยความคิด ความต้องการ และความคาดหวังของหัวใจเรา บางครั้งเปิดโปงความคาดหวังของเราเกี่ยวกับเกียรติยศ การครอบงำ อำนาจ ความไร้สาระ พระองค์ช่วยให้เราคิดไม่ใช่ตามแนวทางของโลก แต่คิดตามแบบอย่างของพระเจ้า คำถามเหล่านี้ของพระเยซู พร้อมกับคำสอนของพระองค์เกี่ยวกับการรับใช้ มักจะเข้าใจยาก เข้าใจยากสำหรับเราเช่นเดียวกับที่ยากสำหรับสาวก แต่โดยการติดตามพระองค์ เราก็สามารถเรียนรู้แบบอย่างของพระเจ้าได้ มันคือการรับใช้ อย่าลืมคำสามคำที่แสดงให้เห็นถึงแบบอย่างของพระเจ้าในการรับใช้ ได้แก่ ใกล้ชิด เห็นอกเห็นใจ และอ่อนโยน”
“นี่คือสิ่งที่เราต้องมุ่งมั่น ไม่ใช่มุ่งมั่นในอำนาจ แต่เป็นการรับใช้ การรับใช้คือวิถีชีวิตคริสตชน มันไม่ใช่ลิสต์งานที่ต้องเคลียร์ให้จบ ราวกับว่าเมื่อทำเสร็จแล้วเราจะถือว่างานของเราเสร็จแล้ว ผู้ที่รับใช้ด้วยความรักจะไม่พูดว่า ‘ตอนนี้ถึงคิวคนอื่น(ที่ต้องทำบ้างแล้ว)’ นี่เป็นความคิดของลูกจ้าง ไม่ใช่ของคนที่เป็นพยาน(ถึงพระเยซู) การรับใช้เกิดจากความรักและความรักไม่รู้จักขอบเขต ไม่คำนวณว่าจะได้หรือเสีย แต่เป็นสิ่งที่เกิดจากหัวใจ” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย
Comments
Post a Comment