โป๊ปฟรานซิส สอนเยาวชน ถ้าเห็นคนล้มต้องยื่นมือช่วย ไม่ใช่ตีซ้ำ

  • โป๊ปฟรานซิส อำลาปาปัวนิวกินีด้วยการสอนเยาวชน ถ้าเห็นคนล้มลงเพราะทำผิดไป จงยื่นมือช่วย ไม่ใช่ไปซ้ำเติม 
  • ทรงย้ำ เราทุกคนทำผิดพลาดกันได้ เราไม่ใช่ซูเปอร์แมน แต่เมื่อทำผิด เราต้องสำนึกและปรับปรุงตัว
  • ทรงชี้ สิ่งที่แย่กว่าความเกลียดชังคือความเมินเฉยต่อคนอื่น ความเมินเฉยมีรากฐานมาจากความเห็นแก่ตัว
  • ทรงให้ข้อคิด ปาปัวนิวกินีมีภาษาท้องถิ่นกว่า 800 ภาษา แต่ภาษาที่จะทำให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันคือภาษาแห่งความรัก
  • ทรงกระตุ้นเยาวชนให้ใกล้ชิดปู่ย่าตายายให้มากๆ

Photo: Vatican Media

เช้าวันจันทร์ที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส เสด็จไปพบเยาวชนคาทอลิกกว่า 10,000 คนที่สนามเซอร์ จอห์น ไกส์ กรุงพอร์ตมอร์สบี ประเทศปาปัวนิวกินี นี่เป็นพิธีการสุดท้ายของการเสด็จเยือนประเทศนี้ ก่อนที่พระองค์จะไปต่อที่ประเทศติมอร์เลสเต้ 


1. ภาษาแห่งความรักจะทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน


พิธีนี้ จึงมีการแบ่งปันประสบการณ์ความเชื่อความศรัทธาในภาษาท้องถิ่นของตน ปาปัวนิวกินีเป็นประเทศที่มีภาษาพูดมากกว่า 800 ภาษา แต่พระสันตะปาปาทรงสอนพวกเขาว่า ภาษาเดียวที่ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกันคือภาษาแห่งความรัก


พระสันตะปาปาตรัสว่า “‘ที่ปาปัวนิวกินีมีภาษาถิ่นกี่ภาษา? และพวกลูกมีภาษาร่วมหรือไม่ คิดดีๆนะ คำตอบคือภาษาของหัวใจ ภาษาของความรัก ภาษาของความใกล้ชิด และยังเป็นภาษาของการรับใช้ พ่อหวังว่าทุกคนจะพูดภาษาที่ลึกซึ้งที่สุด ขอให้ทุกคนเป็น wantok แห่งความรัก” (Wantok เป็นคำในภาษาปาปัวที่หมายถึงคนที่พูดภาษาหนึ่งและเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มชาติพันธุ์หนึ่ง)


“พ่ออยากจะถามลูกว่าอยากสร้างอนาคตแบบไหน ขอเริ่มคำถามนี้ด้วยเรื่องราวของหอบาเบล เราจะเห็นว่าสองวิธีที่ตรงข้ามกันในการดำเนินชีวิตและการสร้างสังคม ทางหนึ่งนำไปสู่ความสับสนและการกระจัดกระจาย อีกทางหนึ่งนำไปสู่ความกลมกลืนของการพบปะกับพระเจ้าและกับพี่น้อง พวกลูกเลือกแบบอย่างไหน แบบอย่างของการกระจัดกระจายหรือแบบอย่างของความกลมกลืน?”


“หลังจากน้ำท่วมโลก ลูกหลานของโนอาห์กระจัดกระจายไปในเกาะต่างๆ ตามภาษาและตามครอบครัวของตน โดยไม่ลบล้างความแตกต่าง พระเจ้าทรงประทานวิธีให้พวกเขาเข้าสื่อสารและรวมตัวกัน จริงๆ แล้ว ‘ทั่วแผ่นดินมีภาษาเดียว’ (ปฐมกาล 11:1) จงระวัง พระเจ้าไม่สร้างเราเพื่อความสับสน แต่เพื่อให้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น นี่เป็นสิ่งสำคัญมาก”


2. ความเมินเฉยเลวร้ายกว่าความเกลียดชัง


พระสันตะปาปาทรงสอนเยาวชนต่อไปว่า “สิ่งที่แย่กว่าความเกลียดชังคือความเมินเฉยต่อคนอื่น การทำเช่นนี้ หมายความว่า เรากำลังปล่อยให้คนอื่นอยู่บนถนนโดยไม่สนใจที่จะช่วยเหลือ ความเมินเฉยมีรากฐานมาจากความเห็นแก่ตัว”


3. จงใกล้ชิดปู่ย่าตายาย


พระสันตะปาปา ฟรานซิส เป็นคนที่เน้นย้ำและปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนใกล้ชิดปู่ย่าตายายให้มากๆ พระองค์ย้ำว่า “นี่คือสติปัญญาล้ำค่าที่สอนเราทุกคน”


วันนี้ พระองค์ก็ย้ำอีกครั้งว่า “สิ่งหนึ่งที่พ่อจะบอกพวกลูกในตอนนี้ มันอาจดูแปลกเล็กน้อย มันมีความสัมพันธ์หนึ่งที่สำคัญมากในชีวิตของคนหนุ่มสาว นั่นคือ ความใกล้ชิดกับปู่ย่าตายาย จงใกล้ชิดและเอาใจใส่ท่านเหล่านั้นให้มากๆ”


4. เห็นคนล้มต้องยื่นมือช่วย ไม่ใช่เห็นคนล้มแล้วซ้ำเติม


พระสันตะปาปาสอนเรื่องนี้ว่า “ทุกคนทำผิดพลาดได้ แต่สิ่งสำคัญคือการตระหนักถึงความผิดพลาด นี่เป็นสิ่งสำคัญ เราไม่ใช่ซูเปอร์แมน เราต้องแก้ไขตัวเองเสมอ”


“ในชีวิต ทุกคนสามารถล้มได้ ถ้าลูกเห็นเพื่อนทำผิดและล้มลง ลูกจะทำอย่างไร หัวเราะเยาะเขาหรือไม่? ลูกต้องช่วยเขาให้ลุกขึ้น ถ้าลูกเห็นใครสักคนล้มลงในชีวิตศีลธรรม ลูกควรตีเขาซ้ำหรือไม่? (เยาวชนตอบว่าไม่)” พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย


หลังจากพิธีนี้ พระสันตะปาปาได้เสด็จออกจากปาปัวนิวกินี และขณะที่รายงานข่าวนี้ พระองค์เสด็จถึงติมอร์เลสเต้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 


Source


- https://www.vatican.va/content/francesco/it/speeches/2024/september/documents/20240909-papua-nuovaguinea-giovani.html


Comments