โป๊ปชี้ ศาสนจักรคาทอลิกยังมีแนวคิด “ยุโรปเป็นศูนย์กลาง” แต่ความจริงแล้ว ศาสนจักรใหญ่กว่ากรุงโรมและยุโรปมากๆ

• โป๊ปฟรานซิส ชี้ ศาสนจักรคาทอลิกยังมีแนวคิด “ยุโรปเป็นศูนย์กลาง” หรือ​ “คิดแบบโลกตะวันตก” มากเกินไป ทั้งที่ความจริง ศาสนจักรคาทอลิกใหญ่กว่ากรุงโรมและยุโรปมากๆ

• ทรงแบ่งปัน ศาสนจักรใน 4 ประเทศที่เพิ่งไปเยือนมา มีชีวิตชีวากว่ายุโรปมากๆ พร้อมชื่นชม “ครูคำสอน” คือผู้ขับเคลื่อนการประกาศข่าวดีอย่างแท้จริง 

Photo: Vatican Media

ช่วงสายวันพุธที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนผู้มีความเชื่อความศรัทธาในการเข้าเฝ้าทั่วไป ซึ่งจัด ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน สำหรับหัวข้อการสอนคำสอนวันนี้ พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันความประทับใจจากการเสด็จเยือนอินโดนีเชีย, ปาปัวนิวกินี, ติมอร์เลสเต้ และสิงคโปร์

พระสันตะปาปาตรัสว่า “วันนี้พ่อจะพูดถึงการเดินทางแบบอัครสาวกที่พ่อได้ทำในเอเชียและโอเชียเนีย เราเรียกว่าการเดินทางแบบอัครสาวกเพราะมันไม่ใช่การท่องเที่ยว แต่เป็นการเดินทางเพื่อนำพระวาจาของพระเจ้าไปเผยแผ่ เพื่อให้ผู้คนรู้จักพระเจ้า และเพื่อทำความรู้จักจิตวิญญาณของผู้คนด้วย และนี่เป็นสิ่งที่ดีมาก”

“ความคิดแรกที่เกิดขึ้นหลังจากการเดินทางครั้งนี้คือ เมื่อคิดถึงศาสนจักร เรายังคงมีมุมมองแบบยุโรปเป็นศูนย์กลางมากเกินไป หรือที่เรียกว่า ‘แบบตะวันตก’ แต่ในความเป็นจริง ศาสนจักรใหญ่กว่านั้นมาก ใหญ่กว่ากรุงโรมและยุโรปมาก ใหญ่กว่ามากจริงๆ”

“และถ้าพ่อพูดได้ (ศาสนจักร)ก็มีชีวิตชีวามากกว่าในประเทศเหล่านั้น พ่อได้สัมผัสสิ่งนี้อย่างน่าตื่นเต้นเมื่อได้พบกับชุมชนเหล่านั้น ได้ฟังคำพยานของสงฆ์ ซิสเตอร์ ฆราวาส และโดยเฉพาะอย่างยิ่งครูคำสอน เพราะครูคำสอนคือผู้ขับเคลื่อนการประกาศข่าวดี ศาสนจักรที่ไม่ได้เผยแผ่ศาสนาด้วยการบังคับคนอื่นเปลี่ยนศาสนา แต่เติบโตด้วยการทำตัวน่าให้ดึงดูดตามที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ตรัสไว้อย่างชาญฉลาด”

“ในอินโดนีเซีย … สิ่งที่พ่อพบคือศาสนจักรที่มีชีวิตชีวา มีพลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า … มีความเป็นพี่น้องกัน ส่วนในปาปัวนิวกินี พ่อได้ค้นพบความงามของศาสนจักรที่ออกไปเป็นธรรมทูตอีกครั้ง … พ่อรู้สึกยินดีที่ได้อยู่กับมิชชันนารี่และครูคำสอน พ่ออยากจะกล่าวถึงการเยือนวานิโมด้วย ที่ซึ่งธรรมทูตอยู่ระหว่างป่าและทะเล พวกเขาเข้าไปในป่าเพื่อค้นหาเผ่าที่ซ่อนตัวอยู่ที่นั่น ... นั่นเป็นความทรงจำที่สวยงาม”

“ในติมอร์เลสเต้ พ่อได้เห็นความเป็นวัยรุ่นของศาสนจักร ทั้งครอบครัว เด็กๆ คนหนุ่มสาว และผู้ที่ปรารถนาจะอุทิศตนเป็นนักบวช”

“สุดท้าย สิงคโปร์ นี่เป็นประเทศที่แตกต่างจากอีกสามประเทศอย่างมาก นี่เป็นประเทศที่ทันสมัยสุดๆ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการเงินสำหรับเอเชีย คริสตชนเป็นคนกลุ่มน้อย แต่พวกเขาสร้างศาสนจักรที่มีชีวิตชีวา มีส่วนร่วมในการส่งเสริมความสามัคคี และความเป็นพี่น้องกัน”

“พ่อขอขอบคุณประชาชนเหล่านี้ที่รับฟังพ่อด้วยความอบอุ่น ด้วยความรัก และขอบคุณผู้บริหารประเทศของพวกเขาที่ช่วยเหลืออย่างมากในการเยือนครั้งนี้ ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการเยือนครั้งนี้ด้วย ขอพระเจ้าอวยพรประชาชนที่พ่อได้พบ และนำพวกเขาไปสู่หนทางแห่งสันติภาพและความเป็นพี่น้องกัน” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย

Source

- https://www.vatican.va/content/francesco/en/audiences/2024/documents/20240918-udienza-generale.html