โป๊ปฟรานซิสเตือนอย่าทำตัวแบบ “ในวัดทำเคร่งศาสนา แต่เลิกมิสซามายืนนินทาคนอื่นหน้าวัด”

• โป๊ปฟรานซิสถามชวนคิด อยู่ในวัดกับนอกวัด เราทำตัวเหมือนกันหรือไม่ เช่น ในวัด ทำตัวเคร่งสวดจริงจัง แต่เลิกมิสซา ไปยืนนินทาคนอื่นอย่างไร้ความเมตตาอยู่หน้าวัด

• ทรงเตือน การล้างมือหลายครั้ง การทำตัวเคร่งศาสนาไม่มีประโยชน์ ถ้าในใจยังคิดชั่ว เช่น โลภ อิจฉา หยิ่งยโส หรือใส่ร้ายคนอื่น

• ทรงขอคำภาวนาเพื่อการเยือน “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” เพราะ 2-13 กันยายน 2024 พระองค์จะมาเยือนอินโดนีเซีย, ปาปัวนิวกินี, ติมอร์เลสเต้ และสิงคโปร์ 

Photo: Vatican Media

ตอนเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้ พระเยซูตรัสถึงเรื่องความสะอาดและความไม่สะอาด ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้คนร่วมสมัยของพระองค์ให้ความสำคัญอย่างมาก พวกเขาจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งของหรือบุคคลที่ถือว่าไม่สะอาด เรื่องความสะอาดและความไม่สะอาดกลายเป็นความหมกมุ่นสำหรับนักศาสนาบางคนในสมัยนั้น

พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า “ธรรมาจารย์และฟาริสีบางคนยึดมั่นในกฎเกณฑ์เหล่านี้อย่างเคร่งครัดและหมกมุ่น พวกเขากล่าวหาพระเยซูว่าอนุญาตให้ศิษย์ของพระองค์ทานอาหารโดยไม่ล้างมือ พระเยซูจึงตรัสว่า ความสะอาดไม่ได้เชื่อมโยงกับพิธีกรรมภายนอก แต่เชื่อมโยงกับท่าทีภายในเป็นสำคัญ” 

“ดังนั้น การเป็นคนสะอาด การล้างมือหลายครั้งจึงไม่มีประโยชน์ หากในใจยังคงมีความรู้สึกชั่วร้าย เช่น ความโลภ ความอิจฉา หรือความหยิ่งยโส หรือความตั้งใจชั่วร้าย เช่น การหลอกลวง การขโมย การทรยศ และการใส่ร้าย (มาร์โก 7:21-22) พระเยซูเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องระวังเรื่องการหมกมุ่นในพิธีการ ซึ่งไม่ได้ทำให้คนเติบโตในความดี ในทางตรงกันข้าม การหมกมุ่นในพิธีการบางครั้งอาจนำไปสู่การละเลยหรือแม้แต่การให้เหตุผลสนับสนุนการเลือกและท่าทีที่ขัดแย้งกับความรัก ซึ่งทำร้ายจิตวิญญาณและปิดกั้นหัวใจ”

“สิ่งนี้สำคัญสำหรับเราด้วย เราไม่สามารถออกจากมิสซาแล้วไปยืนหน้าวัด เพื่อนินทาว่าร้ายทุกคนและทุกสิ่งอย่างไร้ความปรานีได้ การนินทานั้นทำลายหัวใจและจิตวิญญาณ หากคุณไปร่วมมิสซาแล้วทำสิ่งเหล่านี้ที่ทางเข้าวัด นั่นเป็นสิ่งที่เลวร้าย หรือการแสดงตนว่าเคร่งศาสนาในการสวดภาวนา แต่กลับปฏิบัติต่อญาติพี่น้องที่บ้านอย่างเย็นชาและห่างเหิน หรือละเลยบิดามารดาที่สูงอายุซึ่งต้องการความช่วยเหลือและการอยู่เป็นเพื่อน (มาร์โก 7:10-13) นี่คือการใช้ชีวิตแบบสองมาตรฐาน และเราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ นี่คือสิ่งที่พวกฟาริสีทำ”

“ความสะอาดภายนอกโดยปราศจากท่าทีที่ดีและเปี่ยมด้วยความเมตตาต่อผู้อื่น เราไม่สามารถแสดงตนว่าสุภาพเรียบร้อยต่อทุกคน และอาจทำงานอาสาสมัครหรือกิจกรรมการกุศลบ้าง แต่ภายในกลับบ่มเพาะความเกลียดชังต่อผู้อื่น ดูหมิ่นคนยากจนและผู้ด้อยโอกาส หรือประพฤติตนอย่างไม่ซื่อสัตย์ในการทำงาน”

“ดังนั้น ขอให้เราถามตัวเองว่า เราดำเนินชีวิตตามความเชื่อของฉันอย่างสอดคล้องกันหรือไม่ นั่นคือ อยู่ในวัดกับนอกวัด เราทำตัวเหมือนกันหรือไม่ ขอให้เราไตร่ตรองเรื่องนี้” พระสันตะปาปาตรัสในช่วงท้าย

หลังการภาวนาจบลง พระสันตะปาปาทรงทักทายและขอคำภาวนาหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือขอคำภาวนาเพื่อการเสด็จเยือนอินโดนีเซีย, ปาปัวนิวกินี, ติมอร์เลสเต้ และสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 2-13 กันยายน 2024 โดยทริปนี้จะเป็นทริปเยือนต่างประเทศครั้งที่ 45 ในสมณสมัยและเป็นทริปที่ “ใช้เวลาการเยือนยาวนานที่สุดในสมณสมัยของพระองค์”

Source

- https://www.vatican.va/content/francesco/en/angelus/2024/documents/20240901-angelus.html