โป๊ปสอนเวลาเจอเรื่องเกินรับไหว ท่องไว้ “ไม่มีอะไรที่พระเจ้าทำไม่ได้”

โป๊ปฟรานซิส สอน เวลาเผชิญสถานการณ์ที่เกินจะรับไหว จงทบทวนสิ่งที่ทูตสวรรค์บอกกับแม่พระว่า “ไม่มีอะไรที่พระเจ้าทำไม่ได้” เพราะความเชื่อเช่นนี้จะช่วยเราได้มาก 

Photo: Vatican Media

ช่วงสายวันพุธที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงออกมาพบปะและเทศน์สอนผู้มีความเชื่อความศรัทธาในการเข้าเฝ้าทั่วไป ซึ่งจัดหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน นี่เป็นการกลับมาสอนคำสอนครั้งแรกในรอบ 1 เดือน หลังจากตลอดเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา เป็นฤดูกาลหยุดพักประจำปีของพระสันตะปาปาจากการทำพันธกิจต่างๆ

สำหรับหัวข้อการสอนคำสอนวันนี้ เป็นหัวข้อใหม่ นั่นคือ “พระจิตและเจ้าสาวของพระคริสต์: พระจิตนำทางประชากรของพระเจ้าไปสู่พระเยซูผู้เป็นความหวังของเรา” โดยพระสันตะปาปาทรงโฟกัสที่เรื่องการทำงานของพระจิตในการบังเกิดมาของพระเยซู

พระสันตะปาปาตรัสว่า “นักบุญแม็ทธิวยืนยันความจริงพื้นฐานที่เกี่ยวกับพระจิตและแม่พระว่า ‘แม่พระตั้งครรภ์โดยพระจิต’ ศาสนจักรได้รับความจริงที่เปิดเผยนี้และนำมาวางไว้ที่ใจกลางของสัญลักษณ์แห่งความเชื่อในสังคายนาแห่งคอนสแตนติโนเปิ้ลในปี ค.ศ. 381 ซึ่งได้กำหนดความเป็นพระเจ้าของพระจิต สิ่งนี้ได้กลายเป็นมา ‘บทข้าพเจ้าเชื่อ’ ดังนั้นจึงเป็นความจริงทางคริสตศาสนสัมพันธ์ร่วมกัน เพราะคริสตชนทุกคนต่างยอมรับสัญลักษณ์แห่งความเชื่อเดียวกัน ความศรัทธาของคาทอลิกตั้งแต่สมัยโบราณได้ดึงเอาหนึ่งในคำอธิษฐานประจำวันจากสิ่งนี้ นั่นคือ บทสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว (Angelus Domini)”

กลับมาสู่เรื่องที่แม่พระตั้งครรภ์โดยพระจิต หลายคนสงสัยและไม่เชื่อว่า “มันเป็นไปได้อย่างไร” พระสันตะปาปาทรงข้อสงสัยนี้ดี พระองค์จึงไม่ลืมจะสอนตามหลักความเชื่อของศาสนจักร

พระสันตะปาปาตรัสว่า “สำหรับศาสนจักร เมื่อเผชิญหน้ากับภารกิจที่เกินกำลังของตน เรามักจะถามคำถามเดียวกันว่า ‘มันเป็นไปได้อย่างไร’ เป็นไปได้อย่างไรที่จะประกาศพระเยซูคริสต์และการไถ่บาปของพระองค์ต่อโลกที่ดูเหมือนจะมองหาแต่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเท่านั้น คำตอบก็เช่นเดียวกับตอนนั้น ‘ท่านจะได้รับพลังเมื่อพระจิตเสด็จมาสู่ท่าน’ (กิจการ 1:8) หากไม่มีพระจิต ศาสนจักรไม่สามารถก้าวไปข้างหน้า ศาสนจักรไม่เติบโต ศาสนจักรไม่สามารถเทศน์สอนได้”

“สิ่งที่กล่าวถึงศาสนจักรโดยทั่วไปก็ใช้กับเราเช่นกัน กับทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาป เราทุกคนบางครั้งพบว่าตัวเองในชีวิตในสถานการณ์ที่เกินกำลังของเราและถามตัวเองว่า ‘เราจะรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างไร’ ในสถานการณ์เช่นนี้ การทบทวนสิ่งที่ทูตสวรรค์กล่าวกับแม่พระว่า ‘ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าทำไม่ได้’ (ลูกา 1:37) จะช่วยเราได้”

“พี่น้องที่รัก ให้เราดำเนินชีวิตต่อไปด้วยความมั่นใจที่อบอุ่นในใจของเราทุกครั้งว่า ‘ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าทำไม่ได้’ และหากเราเชื่อเช่นนี้ เราจะทำสิ่งมหัศจรรย์ได้ ด้วยพระเจ้าไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย

Source

1. https://press.vatican.va/content/salastampa/en/bollettino/pubblico/2024/08/07/240807b.html