โป๊ปสอนสิ่งของทางโลกช่วยเราก้าวไปข้างหน้า แต่ไม่ได้ให้ความสมบูรณ์แก่ชีวิตอย่างแท้จริง
- โป๊ปฟรานซิส ทรงสอน สิ่งของทางโลกช่วยให้เราก้าวไปข้างหน้าได้ ตอบสนองความต้องการของเรา แต่มันไม่สามารถให้ความสมบูรณ์แก่ชีวิตได้อย่างแท้จริง
- ทรงย้ำ อย่าตกเป็นทาสของวัตถุทางโลก เหมือนพวกพี่น้องที่ทะเลาะกันและเลิกพูดกันเพราะแย่งมรดกของพ่อแม่
- ทรงเปรียบการที่ลูกสนใจแต่มรดกที่เป็นตัวเงิน ก็เหมือนฝูงชนที่ไม่เข้าใจความหมายแท้จริงของอัศจรรย์การทวีจำนวนขนมปังและปลา เพราะความหมายแท้จริงคือความรักที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์ แต่ฝูงชนไปโฟกัสแต่เรื่องสิ่งของ ซึ่งก็คือจำนวนอาหารที่เพิ่มขึ้นอย่างอัศจรรย์
![]() |
Photo: Vatican Media |
ตอนเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงออกมานำสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสารวันนี้บอกเราเกี่ยวกับพระเยซูได้เชิญชวนฝูงชนที่กำลังตามหาพระองค์ให้ไตร่ตรองถึงเรื่องการทำอัศจรรย์ทวีจำนวนขนมปังและปลา เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าใจความหมายของมัน
พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันพระวรสารตอนนี้ว่า “ฝูงชนได้ทานอาหารที่แบ่งปันกัน และได้เห็นว่าแม้จะมีทรัพยากรเพียงเล็กน้อย ทุกคนก็ได้รับการเลี้ยงดูจนอิ่ม ผ่านความใจกว้างและความกล้าหาญของชายหนุ่มคนหนึ่งที่นำสิ่งที่เขามีมาแบ่งปันกับผู้อื่น เครื่องหมายนี้ชัดเจน นั่นคือ หากคนหนึ่งให้สิ่งที่ตนมีแก่ผู้อื่น ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า แม้จะมีเพียงเล็กน้อย ทุกคนก็สามารถมีบางสิ่งได้”
“อย่างไรก็ตาม ฝูงชนไม่เข้าใจ พวกเขาเข้าใจผิดคิดว่าพระเยซูเป็นนักมายากลมีเวทมนตร์ พวกเขากลับมาตามหาพระองค์ โดยหวังว่าพระองค์จะทำอัศจรรย์ซ้ำอีกราวกับเป็นเวทมนตร์ พวกเขาไม่เข้าใจความหมายของอัศจรรย์ที่เกิดนี้”
“ความสนใจของพวกเขามุ่งเน้นแต่เพียงขนมปังและปลา นี่เป็นอาหารที่หมดไป พวกเขาไม่ตระหนักว่านี่เป็นเพียงเครื่องมือที่พระบิดาใช้เพื่อเผยแสดงบางสิ่งที่สำคัญกว่าให้พวกเขารู้ อะไรคือสิ่งที่พระบิดาเผยแสดงล่ะ หนทางแห่งชีวิตที่ดำรงอยู่ตลอดไปและรสชาติของขนมปังที่ให้ความอิ่มเอมเกินกว่าจะวัดได้ ขนมปังที่แท้จริงคือพระเยซู”
“สิ่งของทางวัตถุไม่ได้ให้ความสมบูรณ์แก่ชีวิต สิ่งเหล่านั้นช่วยให้เราก้าวไปข้างหน้าและมีความสำคัญ แต่ไม่ได้ทำให้ชีวิตของเราสมบูรณ์ มีเพียงความรักเท่านั้นที่สามารถทำเช่นนั้นได้ และเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น หนทางที่ต้องเดินคือหนทางแห่งความรัก ซึ่งไม่เก็บสิ่งใดไว้เพื่อตนเอง แต่แบ่งปันทุกสิ่ง ความรักแบ่งปันทุกสิ่ง”
“และสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในครอบครัวของเราเองด้วยหรือ ลองนึกถึงพ่อแม่ที่ต่อสู้ดิ้นรนตลอดชีวิตเพื่อเลี้ยงดูลูกๆ ให้ดีและทิ้งบางสิ่งไว้ให้พวกเขาสำหรับอนาคต นี่เป็นสิ่งที่งดงามเพียงใดเมื่อข้อความนี้เป็นที่เข้าใจ และลูกๆ รู้สึกกตัญญูและผลัดกันสนับสนุนซึ่งกันและกันเหมือนพี่น้อง ในทางกลับกัน มันน่าเศร้าเพียงใดเมื่อพวกเขาทะเลาะกันเรื่องมรดก พ่อได้เห็นกรณีเช่นนี้มากมายและมันน่าเศร้า พวกเขาต่อสู้กันเองและไม่พูดคุยกันเป็นเวลาหลายปี ข้อความจากพ่อและแม่ มรดกอันล้ำค่าที่สุดของพ่อแม่ ไม่ใช่เงิน แต่เป็นความรักที่พวกท่านมอบให้ลูกๆ ทุกสิ่งที่พวกเขามี เช่นเดียวกับที่พระเจ้าทรงกระทำกับเรา และด้วยวิธีนี้ พวกเขาสอนเราให้รู้จักรักกัน”
“ดังนั้น ขอให้เราถามตัวเองว่า เรามีความสัมพันธ์แบบใดกับสิ่งของทางวัตถุ เราเป็นทาสของมันหรือเราใช้มันอย่างอิสระเพื่อเป็นเครื่องมือในการให้และรับความรักหรือไม่ เราสามารถกล่าวคำว่า ‘ขอบคุณ’ ต่อพระเจ้าและพี่น้องชายหญิงของเราสำหรับของขวัญที่เราได้รับหรือไม่ และเรารู้วิธีแบ่งปันสิ่งเหล่านั้นกับผู้อื่นหรือไม่” พระสันตะปาปาตรัสในตอนท้าย Source
1.
Comments
Post a Comment