โป๊ปสอน “ถ้าพ่อแม่ทะเลาะกัน ควรดีกันก่อนจบวัน ไม่งั้น ‘สงครามเย็น’ จะตามมา”

ป๊ปฟรานซิส ออกสอนคำสอนคริสตชนถึงโรงจอดรถที่คอนโดฯ พร้อมสอน 

1. ถ้าพ่อแม่ทะเลาะกัน ควรดีกันก่อนจบวัน ไม่งั้น “สงครามเย็น” จะตามมา 

2. ถ้าพ่อแม่แยกทางกัน ไม่ควรพูดเรื่องไม่ดีต่อกันให้ลูกฟัง

3. ลูกๆ ต้องการรู้สึกว่าพ่อแม่รักกัน หากพ่อแม่ต้องเถียงกัน อย่าทำต่อหน้าลูกๆ 

4. พ่อแม่อย่าหยุดพูดคุยกับลูกๆ การเรียนรู้เกิดขึ้นผ่านการสนทนา 

5. พ่อแม่อย่าทำให้ลูกอับอายต่อหน้าคนอื่นหรือไปกดดันลูกๆ 

6. พ่อแม่ต้องทำให้ลูกๆรู้สึกว่าพวกเขาสามารถพูดคุยเรื่องอะไรก็ได้กับพ่อแม่ เพราะบทเรียนชีวิตเรียนรู้ได้จากที่บ้าน ไม่ใช่จากคนอื่นที่อาจสอนอะไรก็ได้

7. วัดที่ไม่ได้ยินเสียงเด็กและเมินเฉยต่อผู้สูงอายุ ไม่ใช่ชุมชนคริสตชนที่แท้จริง



Photo: Vatican Media



ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรานซิส เสด็จไปหากลุ่มคริสตชนที่ปัลมาโรล่า เขตบอร์กาต้า ออตตาเวีย ซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองตะวันตกสุดของกรุงโรม นี่คือการออกเยี่ยมในหัวข้อ “โรงเรียนแห่งการภาวนา” เพื่อสอนคำสอน พูดคุย และเตรียมจิตใจของคริสตชนสำหรับปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 


สถานที่ของการพบกันครั้งนี้ ไม่ใช่ห้องประชุมหรือลานกว้าง แต่เป็น “โรงจอดรถของคอนโดนิเนียม” ที่คริสตชนเหล่านี้พักอาศัย ทุกคนทราบข่าวว่าพระสันตะปาปากำลังจะมาหาแค่ 30 นาทีก่อนหน้าเท่านั้น พวกเขาจึงไม่ได้เตรียมการแต่งตัวให้ดูดี หลายคนจึงมาในชุดลำลอง กางเขนขาสั้น บางคนสวมรองเท้าแตะ


พระสันตะปาปาใช้เวลา 45 นาที พูดคุยและตอบคำถามพวกเขา ประเด็นสำคัญๆ มีดังนี้


1. ถ้าพ่อแม่ทะเลาะกัน ควรดีกันก่อนจบวัน ไม่งั้น “สงครามเย็น” จะตามมา


“เราต้องปกป้องครอบครัว ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเลี้ยงดูลูก แน่นอนว่า การทะเลาะกันของพ่อแม่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และบางครั้งการแยกทางกัน ก็เป็นพายุที่เราต้องเผชิญ แต่มันไม่ควรทำให้เราท้อแท้” 


“ถ้าพ่อแม่ทะเลาะกัน มันเป็นเรื่องปกติ แต่ควรปรองดองกันก่อนสิ้นวัน เพราะสงครามเย็นในวันรุ่งขึ้นนั้นเลวร้าย มันมีคำ 3 คำที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไป นั่นคือ ขอโทษ ขอร้อง และขอบคุณ คำขอบคุณเป็นคำที่เรียบง่าย แต่มันสร้างความแตกต่างได้สุดๆ”


2. ถ้าพ่อแม่แยกทางกัน ไม่ควรพูดเรื่องไม่ดีต่อกันให้ลูกฟัง


“ลูกๆ กำลังมองดูเรา(พ่อแม่) พวกเขาจะทุกข์ทรมานเมื่อพ่อแม่ไม่ลงรอยกัน พ่อแม่ที่แยกทางกันไม่ควรพูดไม่ดีถึงกันและกัน แต่ควรสอนลูกๆ ให้เคารพซึ่งกันและกัน”


3. เพิ่มความเชื่อให้สังคม ด้วยการเป็นประจักษ์พยาน


มีวัยรุ่นถามพระสันตะปาปาว่า “ยุคนี้ ความเชื่อในพระเจ้าลดลงเรื่อยๆ เราจะเพิ่มความเชื่อให้สังคมได้อย่างไร”


พระสันตะปาปาตอบว่า “วิธีเดียวคือผ่านการเป็นประจักษ์พยาน ถ้าเราทำตัวเป็นแบบอย่าง ความศรัทธาจะตามมา”


4. ผู้สูงอายุคือปัญญา เด็กคือคำมั่นสัญญา


“ศาสนจักรเริ่มก่อตัวขึ้นในชุมชน จำไว้ว่า วัดที่ไม่ได้ยินเสียงเด็กและเมินเฉยต่อผู้สูงอายุ ไม่ใช่ชุมชนคริสตชนที่แท้จริง อย่าลืมว่าผู้สูงอายุคือความทรงจำและเด็กคือคำมั่นสัญญา


"เป็นความจริงที่ว่าผู้สูงอายุบางครั้ง ทำตัวน่าเบื่อ พูดถึงเรื่องเดิมๆ เช่น สงคราม แต่ผู้สูงอายุก็มีความอ่อนโยน ส่วนเด็กๆ พวกเขาเข้าใจภาษาแห่งความอ่อนโยน”


5. รักกันและกันฉันครอบครัว


คุณพ่อลูกสองคนหนึ่ง ถามพระสันตะปาปาว่า “จะรักษาความเชื่อในยามยากลำบากเช่นนี้ได้อย่างไร และจะเลี้ยงดูลูกให้ใกล้ชิดกับศาสนจักรได้อย่างไร”


พระสันตะปาปาตอบว่า “พ่อยังตอบเหมือนเดิม เราต้องเป็นประจักษ์พยานถึงความเชื่อ คำแนะนำของพ่อคือให้รักกันและกันในฐานะพ่อแม่ เพราะลูกๆ ต้องการรู้สึกว่าพ่อแม่รักกัน หากคุณต้องโต้เถียงกัน อย่าทำต่อหน้าลูกๆ ให้ส่งพวกเขาไปนอนและโต้เถียงกันเท่าที่คุณต้องการ”


6. ให้การศึกษาด้วยอิสรภาพ


พระสันตะปาปายังสอนอีกว่า “การพูดคุยกับลูกๆเป็นสิ่งสำคัญมาก อย่าหยุดพูดคุยกับพวกเขา การศึกษาเกิดขึ้นผ่านการสนทนา โดยไม่ทิ้งพวกเขาไว้ตามลำพัง โดยไม่ทำให้ลูกอับอายต่อหน้าคนอื่นหรือไปกดดันเขา จงปล่อยให้พวกเขาเป็นอิสระ นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด”


“ทำให้พวกเขาเข้าใจว่าพวกเขาสามารถพูดคุยเรื่องอะไรก็ได้ เรื่องอะไรก็ได้ เพราะบทเรียนชีวิตเรียนรู้ได้จากที่บ้าน ไม่ใช่จากคนอื่นที่อาจสอนอะไรก็ได้"


Source


1.

https://www.vaticannews.va/it/papa/news/2024-06/papa-scuola-preghiera-giubileo-periferia-ovest-roma-condominio.html

Comments